เชื่อว่านาทีนี้หลายคนพอเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันเมื่อไร คงตกใจกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างมาก สะท้อนปัญหาวิกฤตพลังงานที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถ รวมไปถึงเรื่องของสภาพอากาศที่หายใจเข้าไปก็รู้สึกได้ว่าย่ำแย่ลงทุกวันๆ คงไม่ดีแน่ หากสถานการณ์ยังคงเป็นไปเช่นนี้ และไม่มีการจัดการปัญหาอย่างจริงจัง
เป้าหมาย Net Zero หรือการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2065 คือเป้าหมายที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญและหลายประเทศกำลังเริ่มต้นลงมืออย่างจริงจัง รวมทั้งประเทศไทยเราเอง
โดยหนึ่งในทางออกของปัญหา คือการรณรงค์ให้ใช้รถ EV หรือรถไฟฟ้า 100% แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเรื่องของความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งเรื่องของประสิทธิภาพของตัวรถอย่างแบตเตอรี่ เรื่องของสถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุม ไปจนถึงเรื่องความเข้าใจในการใช้งาน จึงทำให้ EV ยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งของระบบขนส่งในภาพรวมเท่านั้น
จะดีแค่ไหน หาก EV ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางหลักของการเดินทางในบ้านเรา
สิ่งที่ดีกว่า หาก EV กลายเป็นการเดินทางหลัก
อย่างที่ทราบกันว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นแหล่งพลังงานหลักของการเดินทางทุกวันนี้ มีราคาสูงมากขึ้นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อเรื่องค่าใช้จ่ายของผู้ใช้งานทั่วไป รวมไปถึงภาคธุรกิจที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ยังไม่นับรวมเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากการสันดาปของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ชั้นบรรยากาศถูกทำลายจนเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีแนวทางไหนที่ช่วยแก้ปัญหาได้เห็นผลชัดเจนที่สุด
การเกิดขึ้นของ รถยนต์ไฮบริด ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดน้อยลง นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่แหล่งพลังงานพื้นฐานก็ยังคงเป็นแหล่งเดิม ทำให้ทันทีที่ EV หรือรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ถือได้ว่าระบบขนส่งได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง เพราะค่าบำรุงรักษาถูกกว่ารถยนต์สันดาปภายใน สมรรถนะดีกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะแหล่งพลังงานอย่างไฟฟ้าถือเป็นพลังงานสะอาด ที่แทบไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งราคายังไม่ผันผวนไปตามตลาดอีกด้วย คงจะดีไม่น้อยหากการเดินทางด้วยรถ EV จะพัฒนาจากทางเลือก กลายเป็นแนวทางหลักของระบบขนส่งได้ทั้งหมด
การใช้ EV กับปัญหาที่รอการแก้ไข
ระบบนิเวศของการเดินทางด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์เครื่องสันดาป ได้ถูกวางไว้เป็นระยะเวลายาวนานและแข็งแรง ตั้งแต่โครงสร้างตลาดของการผลิตตัวรถ การเข้าถึงบริการและการดูแลรักษา สถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่ทุกมุมถนน ไปจนถึงความรู้ความเข้าใจที่มีเป็นอย่างดี ซึ่งการจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่ได้ จำเป็นต้องสร้าง EV Ecosystem ให้เกิดขึ้น เพื่อให้มาทดแทนรถเครื่องยนต์สันดาป แม้ว่าจะต้องใช้เวลาและเป็นเรื่องของอนาคต แต่ถ้าทำได้สำเร็จ จะดีต่อผู้ใช้รถและสิ่งแวดล้อมโดยรวมอย่างมาก
แต่การจะไปสู่เป้าหมายในการสร้าง EV Ecosystem ยังคงมีคำถามและข้อกังวลจากผู้ใช้งานอีกมากมาย ตั้งแต่เรื่องของสมรรถนะของตัวรถและแบตเตอรี่ว่าจะเพียงพอต่อการใช้งานจริงแค่ไหน ค่าบำรุงรักษาที่เกิดขึ้น สถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และที่สำคัญคือการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างแบรนด์รถยนต์ต่างๆ ที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง
MG กับการสร้าง EV Ecosystem ให้เกิดขึ้นจริง
เมื่อแบรนด์รถยนต์คือหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การใช้รถ EV กลายเป็นแนวทางหลักของระบบขนส่ง แบรนด์รถยนต์ชั้นนำอย่าง MG จึงมีแผนในการสร้าง EV Ecosystem ให้เกิดขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่การนำเสนอรถ EV รุ่นใหม่ที่หลากหลาย มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่มลูกค้า มีการทุ่มทุนกว่า 2,500 ล้านบาท พัฒนาระบบจัดการแบตเตอรี่ของรถ และสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการศึกษาและวิจัยวิธีการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอีกด้วย
MG ยังช่วยปลดล็อกความกังวลของผู้ใช้งานในเรื่องของสถานีชาร์จที่ไม่ครอบคลุม ด้วยการสร้างและขยายเครือข่ายสถานีชาร์จในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่มีให้บริการตลอดเส้นทาง เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น หมดห่วงเรื่องการเดินทางด้วยรถ EV ในระยะทางไกลๆ นอกจากนั้น ยังมองไปถึงระยะยาวอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมีแผนที่จะเข้าไปสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างแรงงานสำคัญที่จะมีบทบาทในการขับเคลื่อนประเด็นนี้ในอนาคต
ลองจินตนาการถึงวันที่อากาศที่เราหายใจเข้าไปสะอาดและบริสุทธิ์มากๆ เมื่อออกไปยังท้องถนน เสียงของเครื่องยนต์รถก็แทบจะไม่ได้ยิน บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตา ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจริงได้ หากการสร้าง EV Ecosystem ประสบความสำเร็จ
แน่นอนว่าผลประโยชน์จะไม่ได้ตกที่ใคร แต่อยู่ที่เราทุกคนนั่นเอง