“ย้ายดีมั้ยนะ” คำถามแรกที่ผุดขึ้นในใจ เวลาที่เรากำลังต้องเผชิญกับสถานการณ์หรืออะไรที่ไม่ค่อยจะตอบโจทย์ชีวิตเราสักเท่าไร จนอยากจะพาตัวเองออกไปจากอะไรเดิมๆ ที่เป็นอยู่
ตั้งแต่การย้ายรกราก การย้ายบ้าน การย้ายงาน การย้ายแบรนด์ของใช้ที่ชอบไปสู่แบรนด์ใหม่ ไปจนถึงการย้ายค่ายมือถือ ฯลฯ และอีกสารพันของการย้าย ด้วยสาเหตุคล้ายๆ กันคือ อยากจะย้ายไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่า
แต่จริงๆ แล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุของการย้ายมากมาย ลองไปสำรวจดูว่ามีอะไรอีกบ้าง ถ้าค้นพบแล้วว่าใช่ แถมทุกอย่างยังพร้อมแบบสุดๆ ก็ย้ายเลยสิ รออะไร
เมื่อสิ่งเก่าเริ่มไม่โอเค
สาเหตุแรกๆ ของการอยากย้าย ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นสิ่งเดิมๆ ที่กำลังเป็นหรือเผชิญอยู่ เราเริ่มจะไม่ค่อยโอเคในเรื่องของความรู้สึก ถูกกดทับด้วยปัญหา ทำให้ชีวิตไม่สดใส มองไปทางไหนก็มีแต่ความหม่นหมอง ยกตัวอย่างง่ายๆ บ้านที่อาศัยอยู่ทุกวันนี้ สภาพแวดล้อมรอบๆ บ้านเป็นพิษต่อจิตใจมากๆ เพื่อนบ้านก็นิสัยไม่ดี บรรยากาศในหมู่บ้านก็แสนจะเปลี่ยว หรือจะเป็นเรื่องงาน ที่การทำงานที่เดิมเริ่มจะไม่ก้าวหน้า งานที่ทำไม่ถนัด หัวหน้าก็ใช้งานหนัก เพื่อนร่วมงานก็มีแต่จะเหยียบซ้ำ
ปัญหาคือการค้นหาทางออกด้วยวิธีการแก้ไขสิ่งเดิมนั้นเกินความสามารถที่เราจะทำเองได้ อย่างการต้องอยู่บ้านที่สภาพแวดล้อมแย่ๆ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเพื่อนบ้านได้ หรือการเปลี่ยนหัวหน้า เปลี่ยนเพื่อนร่วมงานก็ยิ่งเป็นไม่ได้ใหญ่ ทางออกเดียวคือการพาตัวเองออกไปจากพื้นที่เดิมๆ ตรงนั้น ด้วยการย้ายบ้านหรือย้ายที่ทำงานไปเลย น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า การย้ายในลักษณะนี้ต้องอาศัยความพร้อมทั้งแรงใจ แรงกาย และแรงเงินพอสมควรเลยทีเดียว
เกิดการเปรียบเทียบ
สาเหตุต่อมา อาจจะเป็นสาเหตุที่เล็กลงมาสักหน่อย แต่มีความคล้ายคลึงกับสาเหตุแรก คือเกิดการเปรียบเทียบ โดยที่เราอาจไม่ได้ต้องการแสวงหาอะไรใหม่ๆ หรือของเดิมยังดีอยู่ แต่บังเอิญไปพบเจอหนทางหรืออะไรที่ดีกว่า ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ
ตัวอย่างเช่น กำลังใช้แบรนด์มือถือยี่ห้อหนึ่งอยู่ ซึ่งใช้ได้ดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่บังเอิญเดินผ่านไปที่ช้อปอีกแบรนด์ แล้วได้ทดลองใช้งาน ปรากฏว่าชอบและถูกใจสุดๆ จนเอามาเปรียบเทียบกับแบรนด์เก่าที่ใช้อยู่ ว่าดีกว่ามั้ยนะ จนเกิดความลังเลใจ ถ้าเป็นคนที่มีกำลังซื้อพร้อม ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาในการถอยมือถือเครื่องใหม่ แต่ถ้าเป็นคนที่ยังไม่พร้อมก็อาจจะประสบปัญหาได้ ทางออกมีอยู่สองทาง คือเก็บเงินซื้อ หรือตัดใจซะ
ค้นพบความคุ้มค่าใหม่ๆ
สาเหตุนี้ เป็นการต่อยอดจากการเปรียบเทียบ เพิ่มเติมคือมีปัจจัยเรื่องความคุ้มค่าเข้ามาด้วย ไม่ใช่เรื่องของกิเลสอย่างเดียว ยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดที่สุด นั่นก็คือการเลือกแพ็กเกจมือถือ ที่โปรเดิมอาจเริ่มรู้สึกใช้ไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปทุกๆ เดือน หรือจ่ายแพงแล้วใช้โปรไม่ครบ จนอยากจะมองหาโปรใหม่ที่คุ้มค่ามากกว่า
ถ้าหากใครกำลังมองหาแล้วยังคิดไม่ออก ลองย้ายค่ายมาใช้ ซิมมือถือ my ที่สามารถเลือกความคุ้มค่าในแบบของตัวเองได้เลย เพราะลดค่าบริการรายเดือน 50% นานถึง 1 ปี สำหรับคนที่ย้ายค่ายและเปลี่ยนจากเติมเงินเป็น my กับแพ็กเกจ my 4G Super Max Speed
รายเดือน 200 บาท เล่นเน็ตเต็มสปีด 20 GB โทรทุกเครือข่าย 200 นาที
รายเดือน 300 บาท เล่นเน็ตเต็มสปีด 40 GB โทรทุกเครือข่าย 300 นาที
แถมยังคุ้มได้คุ้มอีกกับ CAT Privilege เมื่อใช้ซิม my แอดไลน์ @cattelecom กดลงทะเบียนใน CAT Privilege รับส่วนลดช้อปปิ้งฟรีที่ Lazada และ Shopee พร้อมสะสม Point ใช้คะแนนแลกของรางวัล เช่น ส่วนลดที่ร้านสตาร์บัคส์ ส่วนลดสั่งอาหารผ่านทาง Grab และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกเพียบ สมัครครั้งแรก รับฟรี Welcome Point 50 คะแนน ทุกๆ การใช้งาน 25 บาท เท่ากับ 1 คะแนน
ย้ายแล้วคุ้มขนาดนี้ น่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ เพราะใช้ชีวิตแบบ my ยังไงก็คุ้ม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mybycat.com สอบถามโทร 02-401-2222