หลายคนชอบพูดว่า ‘ทำบุญสวยชาติหน้า แต่ทำหน้าสวยชาตินี้’ ถึงจะฟังดูเอาขำขัน แต่เทรนด์หัตถการความงามที่ได้รับความนิยมแบบมาแรงไม่หยุดเอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ ก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า หากมีโอกาสและช่องทางที่ปลอดภัย
การพยายามใช้วิธีการทางการแพทย์มาหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงของวัย เปลี่ยนตัวเองให้ดูดีขึ้น ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเสริมความมั่นใจ ทำให้คนรู้สึกพึงพอใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น
ซึ่งหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ เห็นจะหนีไม่พ้น ‘โบท็อกซ์’ ด้วยคุณสมบัติที่ค่อนข้างสารพัดประโยชน์ ตั้งแต่ ช่วยลดริ้วรอย ลดขนาดกล้ามเนื้อ ยกกระชับกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น แต่หลายคนคงอาจยังไม่รู้ว่าก่อนที่สารชนิดนี้จะได้รับการวิจัยและพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในทางการแพทย์ โบท็อกซ์มีความเป็นมาที่ย้อนกลับไปได้ถึงสมัยนโปเลียนเลยทีเดียว
พบกับการเรื่องราวของโบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอลที่ได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพที่สุดและปลอดภัยที่สุดในบรรดาโบท็อกซ์สายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของโบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอลเจ้าแรกในเกาหลี หลังจากคดีโจมตีทางการค้าอันสะเทือนวงการโบท็อกซ์โลก การกลับมาของโบท็อกซ์เกาหลียอดนิยมครั้งนี้สำคัญกับวงการความงามอย่างไร ไปเริ่มติดตามการเดินทางตั้งแต่ต้นไปด้วยกัน
จากสารพิษในไส้กรอกยุคสงครามนโปเลียน
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 1793 ซึ่งตรงกับยุคสมัยของสงครามนโปเลียน ในตอนนั้นได้มีการระบาดของสารพิษจากไส้กรอกซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และเป็นอัมพาตชั่วคราว ยุสตินุส แคร์เนอร์ (Justinus Kerner) นักสาธารณสุขชาวเยอรมันจึงได้ทำการทดลอง และค้นพบสารชนิดหนึ่งซึ่งสามารถสกัดออกมาจากไส้กรอก มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และเหงื่อไม่ออกตามร่างกาย รวมถึงเมื่อนำสารมาใช้ในปริมาณเล็กน้อยจะสามารถรักษาความผิดปกติของระบบประสาทได้
ก่อนที่ 75 ปีต่อมาโลกจึงได้รู้ว่าสารพิษตัวนั้นผลิตขึ้นโดยแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium Botulinum เราจึงเรียกสารนั้นว่า Botulinum Toxin เรื่องราวยังไม่จบแค่นี้ เมื่อในอีกหลายปีต่อมา ดร.เอ็ดเวิร์ด ชานทซ์ (Dr. Edward Schantz) นักชีวเคมีคนหนึ่งได้ทดลองสกัดสารชนิดนี้ให้อยู่ในรูปแบบผลึกสำเร็จ ผลึก Botulinum Toxin ได้ถูกวิจัยเพื่อนำไปทำเป็นอาวุธชีวภาพในสงครามโลกครั้งที่ 2 โชคดีที่ต่อมาอาวุธชีวภาพทั่วโลกได้ถูกยับยั้งการผลิต Botulinum Toxin จึงไม่กลายเป็นอาวุธสงครามไปเสียก่อน
สู่นวัตกรรมการแพทย์และแวดวงความงาม
แม้ในตอนเริ่มต้น Botulinum Toxin จะเป็นสารพิษที่ส่งผลลบต่อร่างกายมนุษย์ แต่เมื่อได้มีการศึกษาอย่างจริงจังโลกก็ได้พบว่าสารชนิดนี้มีประโยชน์ในวงการการแพทย์มาก ในช่วงปี 1970 ได้มีจักษุแพทย์ชาวอเมริกันทดลองนำสาร Botulinum Type Hall A Hyper มาใช้รักษาโรคตาเหล่ตาเข ซึ่งเป็นอาการที่ดวงตาสองข้างไม่มองไปในทิศเดียวกันได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ผลพวงจากการรักษาครั้งนั้นเองที่ทำให้คู่สามีภรรยาคารัทเทอรส์ (Carruthers) ซึ่งคนหนึ่งเป็นแพทย์ผิวหนัง อีกคนหนึ่งเป็นศัลยแพทย์พลาสติกได้สังเกตเห็นผลข้างเคียงจากการรักษาอาการตาเหล่ ที่ทำให้รอบย่นจากการขมวดคิ้วจางลง ทั้งคู่จึงได้ทำการศึกษาวิจัย จนโลกได้รู้จักหัตถการความงามรูปแบบใหม่ที่เกิดจาก Botulinum Type Hall A Hyper เป็นครั้งแรก
โบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอล
ในปัจจุบันแม้คลินิกความงามต่างๆ จะมีโบท็อกซ์หลายยี่ห้อให้ได้เลือกฉีดตามความพึงพอใจ แต่ถ้าให้ย้อนไปถึงสายพันธุ์ที่เป็นต้นฉบับ แน่นอนว่าต้องเป็น Hall A Hyper ซึ่งบริษัทแรกที่นำ Botulinum Toxin สายพันธุ์นี้มาใช้ในวงการการแพทย์พร้อมจดทะเบียนอย่างถูกต้องและได้รับการรับรองจาก USFDA (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ) ก็คือแบรนด์ Allergan ของอเมริกา ภายใต้ชื่อการค้าว่า ‘Botox’ ซึ่งเป็นชื่อที่คนใช้เรียกสารชนิดนี้ในปัจจุบัน
ในขณะที่ Allergan เป็นโบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอลที่ได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือที่สุด หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าโบท็อกซ์เกาหลีที่โด่งดังมากอย่าง Neuronox ก็คือโบท็อกซ์สายพันธุ์ Hall A Hyper ตัวเดียวกันกับ Allergan นี่เองเพียงแต่มีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศเกาหลี โดยในโลกนี้มีเพียง 2 แบรนด์เท่านั้นที่มีสายพันธุ์ Hall A Hyper
นอกจากชื่อที่แตกต่างกันแล้ว ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Neuronox เรียกได้ว่าเทียบเท่า Allergan ของอเมริกาแบบ 100% ตั้งแต่ใช้โปรตีนที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98 – 99% จึงมีโอกาสดื้อยาน้อยกว่า รวมถึงได้รับการอนุมัติถึง 8 ข้อบ่งชี้ในการรักษาโรค ตลอดจนมีงานวิจัยยืนยันด้านความปลอดภัยรองรับมากถึง 13 งานวิจัย ทั้งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและมุ่งหวังผลลัพธ์ได้มากกว่า อีกทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าของอเมริกากว่าหลายเท่าตัว
Neuronox โบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอลเจ้าแรกในเกาหลี
ท่ามกลางโบท็อกซ์หลากสัญชาติที่ได้รับความนิยมในไทย โลกรู้ แฟนคลับรู้ ว่าโบท็อกซ์เกาหลีเป็นหนึ่งในชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่แม้จะได้รับการรับรองทางการแพทย์มาแล้ว ก็ใช่ว่าโบท็อกซ์ทุกแบรนด์จะมีคุณสมบัติเหมือนกัน
Neuronox คือแบรนด์ยอดนิยมที่ขายดีและถูกเลือกใช้มากที่สุดในเกาหลี ตลอดจนได้รับความนิยมยาวนานต่อเนื่องกว่า 10 ปี รวมถึงในไทยและอีกกว่า 27 ประเทศ เพราะเป็นแบรนด์เดียวในเกาหลีที่ใช้ Botulinum Toxin สายพันธุ์ออริจินอล Hall A Hyper แท้ ซึ่งมีประสิทธิภาพดีที่สุดและมีความปลอดภัยต่อการดื้อยาที่สุดนั่นเอง
คดีขโมยสายพันธุ์ที่สั่นสะเทือนวงการโบท็อกซ์เกาหลี
เล่ามาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าสายพันธุ์ของโบท็อกซ์นั้นมีผลต่อการเลือกใช้ขนาดนั้นเลยหรือ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เราจะขอยกเคสการขโมยสายพันธุ์ที่สั่นสะเทือนวงการโบท็อกซ์เกาหลีมาเล่าให้ฟัง
ในปี 2017 Medytox บริษัทเกาหลีผู้ผลิต Neuronox โบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอลต้นตำรับจากอเมริกาได้ยื่นฟ้องบริษัท Daewoong ในคดีที่ Daewoong ได้ทำการขโมยความลับทางการค้า ก็อปปี้สายพันธุ์ของ Neuronox ไปผลิตเป็นโบท็อกซ์ภายใต้ชื่อของตนเอง ก่อนที่ต่อมาในปี 2023 ศาลแขวงกลางของกรุงโซลจะพิพากษาให้ Medytox ชนะคดีจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ Daewoong ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับ Medytox กว่า 1,000 ล้านบาท และต้องเปลี่ยนสายพันธุ์ที่ใช้ในการผลิตโบท็อกซ์เป็นสายพันธุ์อื่น
จากคดีนี้จึงทำให้เราเห็นความสำคัญของสายพันธุ์โบท็อกซ์ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้ รวมถึงการเลือกใช้สินค้าแบรนด์แท้ที่ช่วยให้ความมั่นใจในเรื่องผลข้างเคียง
Neuronox โบท็อกซ์เกาหลีในตำนาน กลับมาทวงบังลังก์
หลังจากการฟ้องร้องอันยาวนานจนได้ผลลัพธ์ในวันนี้ Neuronox โบท็อกซ์สายพันธุ์ Hall A Hyper แท้ แบรนด์แรกของเกาหลี ก็พร้อมที่จะกลับมาให้บริการดูแลความงามกับสาวๆ ชาวไทยแล้ว แก้ไขความเข้าใจผิดเดิมๆ ว่าโบเกาหลียี่ห้อไหนก็เหมือนกัน เพราะ Neuronox แตกต่างด้วยการใช้สายพันธุ์ออริจินอล
การเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยหัตถการความงามต่างๆ นั้นเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่เราทำการศึกษาอย่างเข้าใจ เลือกใช้สินค้าที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน รวมถึงทำกับแพทย์และคลินิกที่มีใบรับรองอย่างถูกต้อง เลือกฉีดโบท็อกซ์ให้สวยและปลอดภัย อย่าลืมเลือกโบท็อกซ์สายพันธุ์ออริจินอลที่มีงานวิจัยและเครื่องหมายการค้ารับรองอย่างถูกต้องเท่านั้น