แม้ Work-Life Balance จะเป็นเหมือนเข็มทิศของคนยุคนี้ แต่ทุกคนก็ให้คุณค่ากับการทุ่มสุดตัวเพื่องานในฝันไปพร้อมๆ กัน กลายเป็นว่าชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานนั้นผูกและพันกันแน่น จนยากที่จะผ่อนคลาย
หากจะเลือกหย่อนฝั่งใดฝั่งหนึ่งก็ไม่ได้ เพราะต่างเป็นเรื่องสำคัญทั้งคู่ การทำงานก็ยังต้องได้มาตรฐาน แต่ครั้นจะทิ้งชีวิตส่วนตัว ความสัมพันธ์ ครอบครัว สุขภาพจิต สุขภาพกาย สุดท้ายก็จะกลายเป็นปัญหาในระยะยาว
ทางออกที่เริ่มมีคนพูดถึงกันมากขึ้นก็คือ Work-Life Flow ซึ่งก็คือการลืม ‘บาลานซ์’ ทิ้งไป หรือ Work-Life Integration ที่เชื่อว่าชีวิตการทำงานนั้นหลอมรวมกับชีวิตส่วนตัวของเรา จะแยกจากกันไม่ได้ แค่เพียงจัดสรรเวลาให้กิจวัตรการทำงานแต่พอเหมาะ เลือกรูปแบบการทำงานให้เข้ากับตัวเอง ที่เหลือก็ปล่อยให้ลื่นไหลไปตามจังหวะ เมื่อไม่ต้องพยายามบาลานซ์ชีวิต หลังเลิกงานเราก็เหลือพลังสำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกมาก
แต่การจะใช้ชีวิตในรูปแบบนี้ก็ยังต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกที่สำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือบรรยากาศในสถานที่ทำงาน เพราะมันคงจะดีกว่า หากเราสามารถใช้ชีวิตแบบที่ต้องการได้แม้จะอยู่ในที่ทำงาน อย่างที่ One City Centre (OCC) ตั้งเป้าจะสร้างพื้นที่สำหรับการทำงานแบบ Work-Life Integration ด้วยการ ออกแบบสำนักงานในฝันในคอนเซปต์ ‘Your World Reimagined’ ซึ่งมีแนวคิดสำคัญ 5 ข้อเพื่อเป้าหมายสูงสุด คือชีวิตที่ดีกว่าของผู้เช่าและชุมชนโดยรอบ
Reimagine Your Work Rhythm
ลองจินตนาการว่า จะดีแค่ไหนถ้าคุณได้ทำงานในออฟฟิศที่มีห้อง Nap ส่วนตัวไว้งีบหลับชาร์จแบตให้สมองระหว่างวัน มีพื้นที่ส่วนกลางพร้อมคาเฟ่ไว้ปลีกตัวไปจิบกาแฟ และหลังเลิกงานหากยังไม่มีนัด ก็ยังใช้เวลาหลบหลีกความวุ่นวายบนท้องถนนในร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้า ชั้นเรียนโยคะ ฟิตเนส เเละสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Foodcourt, Co-Working Space ไม่ต้องเดินทางให้เสียพลังงาน
ความสะดวกทั้งหมดนี้ OCC รวบรวมมาไว้ในอาคารที่ออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม ด้วยการคำนึงถึงความต้องการของคนทำงาน นอกจากนั้นยังตั้งอยู่ในทำเลที่ล้อมรอบไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ พร้อมจะทำให้ชีวิตการทำงานของคุณง่ายขึ้นและมีความสุข
Reimagine Your Daily Green Intake
สิ่งหนึ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่าง OCC กับออฟฟิศทั่วไปก็คือพื้นที่สีเขียว ภายใต้แนวคิด Design that Embraces Nature ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้คนเรารู้สึกผ่อนคลายได้มีประสิทธิภาพเป็นอันดับต้นๆ โดยโครงการ OCC ได้ยกพื้นที่สีเขียวกว่า 3 ไร่มาเติมลมหายใจให้กับย่านเพลินจิต และบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเพลินจิต ด้านหน้าเปิดโล่งต้อนรับผู้คนสัญจรไปมาระหว่างวัน จัดวางต้นไม้อย่างเรียบง่าย มี Hardscape ให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ในบรรยากาศที่สดชื่นจากน้ำที่หล่อเลี้ยงอยู่ทั่วบริเวณ พร้อมสำหรับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งออกกำลังกาย จิบกาแฟร้านโปรดท่ามกลางสวนสวย หรือกิจกรรมสันทนาการต่างๆ
โครงการ OCC จึงเปรียบเสมือน Oasis แห่งเดียวในย่านเพลินจิต ที่นี่จึงเปรียบเสมือนจิตวิญญาณของย่านเพลินจิต หรือ The Soul of Ploenchit อย่างแท้จริง
Reimagine Your Office Space Possibility
ที่ OCC ออกแบบโครงสร้างอาคารให้มีเพดานสูงถึง 3 เมตร พื้นที่กว้างจากหน้าต่างถึงตัว Core Lift ถึง 17 เมตร อีกทั้งยังเป็นพื้นที่แบบ Column Free ไม่มีเสามาบดบัง เปิดกว้างให้คุณได้ออกแบบออฟฟิศในฝันโดยไม่มีอะไรมากั้น ไม่อึดอัด ให้อิสระในการวางผังออฟฟิศและพื้นที่ใช้สอยความความต้องการ ดีไซน์ให้ห้องน้ำ และ Service ต่างๆ อยู่ฝั่งทิศตะวันตก แทนการตั้งอยู่บริเวณกลางอาคาร ทำให้ระหว่างวัน คนในออฟฟิศก็ไม่ต้องพบกับแดดยามบ่าย พร้อมกันนี้ยังมี Fin บังแดดช่วยลดความร้อนเข้าสู่อาคาร ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานด้วย ยังไม่รวมถึงห้องประชุมส่วนกลาง และ Co-working Space เพื่อรองรับเทรนด์ของ Mobile Office หรือเทรนด์ออฟฟิศในอนาคตที่มีขนาดเล็กลงและมุ่งเน้นเรื่อง Flexibility
Reimagine Your Food Selection
อีกหนึ่งใน Highlight ของ OCC คือ Rooftop Bar & Restaurant ที่จะให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารชั้นเยี่ยมและทิวทัศน์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ และร้านอาหารหลากหลายแนว ทั้งแบบ Grab and Go และแบบร้านนั่งชิลล์ ให้คุณได้สังสรรค์ ผ่อนคลายระหว่างวันหรือก่อนกลับบ้าน ถ้าอยากได้มื้อเบาๆ สบายกระเป๋าก็ยังมี Foodcourt พร้อมต้อนรับคุณเสมอ หรือจะสั่ง Delivery ก็ไม่ยาก ในเมื่ออยู่ใจกลางเมืองขนาดนี้ ร้านอาหารมีให้เลือกไม่อั้น
Reimagine your Journey: In & Out
นอกจากจะเป็นอาคารสำนักงานที่รวมทุกอย่างไว้ครบครันแล้ว ความพิเศษอีกอย่างก็คือการเดินทางที่สะดวกสบาย เพราะ One City Centre ตั้งอยู่บนถนนเพลินจิตใจกลางกรุงเทพฯ และอยู่ตรงข้ามศูนย์การค้า The Embassy ใกล้กับ Central World, Siam Center, MBK, Siam Paragon เเละ EM District สามารถเดินทางมาได้ด้วยขนส่งสาธารณะ มีสะพานเชื่อมเข้าตึกโดยตรงจากบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิต หรือเพียงแค่ไม่กี่นาทีจากทางด่วนเพลินจิต
แค่เดินทางง่าย สะดวกสบาย ก็กลายเป็นออฟฟิศในฝันไปกว่าครึ่งแล้ว จริงไหม?
ยังไม่นับว่า OCC คำนึงถึง Vertical City หรือการใช้สอยพื้นที่แนวดิ่ง โดยจัดวางพื้นที่ส่วนกลางกระจายไปทั่วทั้งตึก ไม่กระจุกอยู่เพียงชั้นล่างๆ เช่น Civic Park, Retail Podium, Café, Fitness, Food & Beverage และ Bar ทั้งนี้ก็ยังช่วยทำให้อาคารมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ไม่เงียบเหงาในเวลาหนึ่ง และคึกคักในเวลาหนึ่ง ถือเป็นการส่งต่อพลังงานดีๆ ให้ตื่นตัวไปพร้อมๆ กันทั้งตึก
ทุกองค์ประกอบที่กล่าวมา ทำให้ One City Centre ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 4 ของ ปี 2565 เหมาะแก่การเป็นออฟฟิศในฝันของบริษัทชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Tech Company, Finance รวมทั้งเป็นแลนด์มาร์กออฟฟิศให้เช่าแห่งใหม่ของประเทศไทย
เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานโดยเล็งเห็นว่า คุณภาพของงานมาจากบรรยากาศการทำงานที่ดี และคุณภาพชีวิตคนทำงานที่ยอดเยี่ยม