One Young World Summit คือการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนที่ใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก จากกลุ่มเยาวชนผู้นำกว่า 2,000 คน จาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี หมุนเวียนไปตามพื้นที่สำคัญทั่วโลก โดยในปีนี้เจ้าภาพคือเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
ซึ่งปีนี้มีผู้นำระดับโลกมาจุดประกายความคิด ต่อยอดความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้ขับเคลื่อนโลกสู่ความยั่งยืน อาทิ บัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ พอล โพลแมน ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิ IMAGINE หน่วยงานที่ผลักดันผู้นำภาคเอกชนทั่วโลกให้ทำความดีอย่างยั่งยืน จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีประเทศแคนาดา รวมถึง เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ พระชายาในเจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และ ศ.มูฮัมหมัด ยูนุส นักเศรษฐศาสตร์ชาวบังกลาเทศ เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปี 2549 ฯลฯ
“One Young World ถังความคิดที่ดีที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ และคนรุ่นใหม่คือผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทั่วโลกในช่วงเวลานี้” คำกล่าวโดย เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เป็นเหมือนคำกล่าวต้อนรับกลุ่มตัวแทนเยาวชนจากทั่วโลกเข้าสู่การประชุม สำหรับประเทศไทย บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ได้สนับสนุนเยาวชนไทยเข้าร่วมการประชุม One Young World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เป็นระดับโลกที่เปิดโลกทัศน์ให้เยาวชนไทยได้พร้อมสู่การเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นพลังสำคัญการขับเคลื่อนประเทศไทยและโลกสู่ความยั่งยืน ซึ่งในปีนี้มีจำนวนเยาวชนรวมทั้งสิ้น 24 คนจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือฯ และนักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยทักษิณ ผ่านการคัดเลือก
ตลอด 4 วันในงานดังกล่าว พลังงาน ทัศนคติ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเหล่าเพื่อนผู้นำจากทั่วทุกมุมโลก กลายเป็นเชื้อเพลิงผลักดันให้เยาวชนไทยกลับมาเป็น ‘ผู้นำ’ ที่ดีกว่าเดิม ตามความตั้งใจของ ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร หรือซีอีโอ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ที่คาดหวังให้คนรุ่นใหม่มีจิตนาการ ปัญญา และสร้าง Impact ให้กับสังคม
“คุณสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ต้องรอสถานการณ์สร้างผู้นำ”
พรรณวลัย เจริญรมย์ จากกลุ่ม Lotus’s และ นัณ อรุณานนท์ชัย จากกลุ่ม CP ALL คือพนักงานยุคใหม่ที่ไม่ได้หยุดความสนใจของตัวเองแค่เรื่องงาน แต่ยังเป็นการมองประเด็นสำคัญของสังคมเข้ามาเป็นพันธกิจส่วนหนึ่งของชีวิต พร้อมกับช่วยพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์ร่วมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน หลังจากผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น และอบรมเพื่อเสริมความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งสองก็ได้เดินทางไปเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ในการประชุมระดับนานาชาติครั้งนี้
Ella Robertson McKay กรรมการผู้จัดการ One Young World ได้กล่าวไว้ว่า One Young World เป็นเวทีประชุมระดับโลกที่เป็นแพลตฟอร์มสร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์มากมายจากทั่วทุกมุมโลก เป็นเวทีที่เปิดรับฟังทุกเสียงของเยาวชนทั้งยังมอบความรู้ ทักษะ เครือข่าย และแพลตฟอร์มสำหรับผู้นำรุ่นเยาว์ เพื่อสร้างอนาคตของโลกให้ยั่งยืนในทุกมิติ ภายในสี่วันนี้ ทุกคนจะได้ร่วมสร้างประสบการณ์ชีวิตอย่างคุ้มค่า
ประเด็นสำคัญของปี กับความมุ่งมั่นที่ต้องไปถึง
ในที่ประชุม One Young World ในทุกปี จะมีการตั้งหัวข้อสำคัญตามสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นหรือพยากรณ์ว่าจะมีผลกระทบสำคัญในอนาคต ดังเช่นในปีนี้ที่มาพร้อมกับ 5 หัวข้อสำคัญครอบคลุมทุกมิติของโลก ได้แก่ การป้องกันความขัดแย้ง มหาสมุทร ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม ความเท่าเทียมทางเพศ และสาธารณสุข
พรรณวลัยแนะนำ One Young World Summit ที่เธอได้สัมผัสเองให้พวกเราฟัง “ในงาน One Young World จะมีวิทยากรหลักเป็นผู้นำในแต่ละเซสชั่น ซึ่งมาจากหลายสาขา ทั้งผู้นำ นักการเมือง ดารา นักกีฬา รวมทั้งเพื่อนเยาวชนด้วยกัน เพื่อมาดูเรื่องราวและปัญหาจากหลายๆ มุมมอง รวมทั้งแชร์ประสบการณ์และวิสัยทัศน์ของชีวิต”
ในส่วนของนัณ เธอคือคนทำงานรุ่นใหม่ที่ผูกพันกับมหาสมุทรมาตั้งแต่ยังเล็ก หัวข้อในการสัมมนาครั้งนี้จึงตอบทั้งมุมของคนทำงาน ที่สนใจเรื่องการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนผ่านทางสายงาน พร้อมกับความสนใจโลกในหัวเรื่องมหาสมุทร “พอเราเข้ามาดูหัวข้อเอง แล้วได้เจอกับหัวข้อที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรามองเห็นปัญหาอยู่แล้ว ทั้งเรื่องขยะอาหาร และขยะมหาสมุทร การประชุมนี้จึงเป็นโอกาสที่เราจะได้ไปเจอกับเยาวชนอื่นๆ ที่จะมาช่วยกันระดมความคิดว่า แล้วเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เลยรู้สึกสนใจเป็นพิเศษ”
“ตอนสมัคร ทำหัวข้อ ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม (Ethical Leadership) ค่ะ” พรรณวลัยเล่าหัวเรื่องที่เธอสนใจ “เรามองว่า ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมเป็นต้นกำเนิดของการแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะสุดท้ายแล้วคนอนุมัติตัดสินใจก็คือผู้นำ ก่อนหน้าที่จะไปก็ทำรีเสิร์ชก่อน โดยทางซีพีก็จะจัดให้มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาให้ความรู้ หรือไปเข้าค่ายนอกสถานที่ เพื่อที่ระหว่างการทำเวิร์กช็อป จะได้คิดวิเคราะห์จากองค์ความรู้ และการระดมสมองจากเพื่อนร่วมความสนใจ ให้ได้โปรเจกต์ที่เป็นไปได้”
ความประทับใจจากประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ระดับโลก
เพราะเป็นเวทีการประชุมเยาวชนที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทุกภาคส่วนที่เข้ามามีบทบาทในงานนี้จึงนับเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญ และเป็นเกียรติสูงสุดครั้งหนึ่งในชีวิตของทั้งสอง เช่นเดียวกับที่จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรี แคนาดา กล่าวถึง One Young World ว่า ‘เป็นการรวมตัวของผู้นำรุ่นเยาว์จากทั่วทุกมุมโลกที่ไม่มีใครเทียบได้’
ในการประชุมจะแบ่งเป็น เวทีใหญ่ที่จะเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาทั่วทุกมุมโลกมาแบ่งปันเรื่องราวของตนเอง การประชุมกลุ่มย่อยที่จะให้ตัวแทนเยาวชนบอกเล่าวิสัยทัศน์และประสบการณ์ของตน และมีส่วนเวิร์กช็อประดมสมอง ที่ดึงเอาหัวข้อและประเด็นที่สนใจมาสร้างบทสนทนาในกลุ่มย่อย เพื่อระดมสมองและสร้างโซลูชั่นในแบบคนรุ่นใหม่ ผ่านบรรยากาศการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
พรรณวลัยเล่าก่อน “รู้สึกเป็นเกียรติและโชคดีมากที่ได้ไป เพราะเราได้ไปเจอเยาวชนจากทั่วโลกที่ตั้งใจทำอะไรเพื่อสังคมจริงๆ อย่างเพื่อนที่มาไกลจากแอฟริกาใต้ เพื่อมาบอกว่าปัญหาของประเทศตนเองให้โลกรู้ หรือที่ประทับใจคือ Delegate Session ที่จะมีตัวแทนขึ้นมาเล่าเรื่องราวบนเวที”
“ที่ประทับใจมากเป็นเรื่องของเพื่อนชาวอิรักอายุ 22 ปี โดยปกติแล้วในหัวข้อความเท่าเทียมทางเพศเราจะไม่ค่อยเห็นแอคทิวิสต์ผู้ชาย เขาเองเล็งเห็นถึงความไม่เท่าเทียมของผู้หญิงที่ยังต้องใส่ฮิจาบ หรือโดนทำร้าย จึงก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือกลุ่มผู้หญิงให้ได้รับการปกป้องคุ้มครอง แล้วเขาขึ้นมาบนเวทีนี้เพื่อบอกให้โลกรับรู้ว่ามีปัญหานี้อยู่ หลังจบเรื่องเล่า ทุกคนยืนขึ้นปรบมือ เพราะสิ่งที่เขาทำยิ่งใหญ่มากจริงๆ แม้จะทำเพียงคนเดียว ทำให้เรารู้สึกมีแรงบันดาลใจว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ทุกคนก็สามารถสร้างอะไรเพื่อสังคมได้”
ในส่วนความประทับใจของนัณ เป็นเรื่องการสร้างสังคมของตัวแทนเยาวชนรุ่นที่ผ่านๆ มา จนต่อยอด สร้างเป็นผลยิ่งใหญ่ที่ส่งต่อโลกได้จริงๆ “สิ่งที่นัณให้ความสนใจคือเรื่องการจัดการด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะกับงานที่ทำต้องอยู่กับการจัดการขยะอาหารเป็นประจำ และเราได้เห็นเคสตัวอย่างอย่างการใส่ KPI รักโลกให้กับพนักงานทุกคน ซึ่งนัณรู้สึกว่าเป็นวิธีการที่น่าสนใจมาก เพราะในระดับองค์กรก็จะยิ่งสร้างอิมแพคให้กับสังคมมากขึ้นไปอีก”
“หรือในส่วนความสนใจเรื่องมหาสมุทร ก็ได้พบกับวิทยากรจากลุยเซียนา ที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่เหนือระดับน้ำทะเล แต่ในปัจจุบันกลับถูกกลืนกินไปใต้ทะเล สิ่งที่เขาทำคือ เอาแก้วมาทำเป็น Glass Sand เพื่อช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ในวันนี้เขาแชร์ให้กับผู้ร่วมประชุม One Young World คนอื่นๆ ในรุ่นถัดไปก็จะได้เห็น เป็นแรงบันดาลใจ และนำไปต่อยอดกับบริบทของตัวเอง อย่างบ้านเราตอนนี้ก็มีปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง เขาบอกว่าเราลองส่งตัวอย่างทรายไปเพื่อวิเคราะห์หา Glass Sand ที่เหมาะสม ซึ่งมันก็สามารถผลักความเป็นไปได้อีกจากคอนเนกชั่นที่เกิดขึ้นตรงนั้น”
คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิดนอกกรอบ และตอบประเด็นสังคม
สำหรับนัณแล้ว จุดเริ่มต้นเพื่อโลกที่ก้าวเดินไปข้างหน้าอยากให้เกิดขึ้นจากความตระหนักในตัวทุกคนก่อนเป็นอันดับแรก “การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในทุกวัน ก็สามารถสร้างผลต่อโลกที่ยิ่งใหญ่มาก เหมือนในการประชุมที่พลังมาจากความคิด ความมุ่งมั่น และการตั้งใจทำของเยาวชนทุกคน”
ในส่วนของพรรณวลัย เธอมองว่าขั้นตอนต่อไปที่จะทำให้โลกก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันด้วยพลังของทุกคนคือ การลงมือทำ “เรามองว่า Action = Reaction เท่ากับว่าในตอนนี้เรากำลังอยู่โลกที่เป็นผลมาจากรุ่นก่อนหน้า เราโชคดีแล้วที่ตอนนี้คนรุ่นเรามีความตระหนักถึงปัญหาในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือ การลงมือทำ ถึงจะมีต้นทุนหรือต้องลงทุนลงแรงมากขึ้น แต่การได้เริ่มลงมือทำมันจะส่งผลต่อยุคถัดไป หรืออาจจะทันรุ่นเราด้วยซ้ำ อนาคตของเราก็อยู่ในมือเรานี่แหละ”
“อีกส่วนหนึ่งที่นัณอยากจะให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่มากๆ คือเรื่องการศึกษา” นัณพูดถึงระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นการปลูกฝังให้ผู้เรียนเข้าใจและใส่ใจ “คนยุคถัดไปจากเราจะต้องรู้ว่า จริงๆ แล้วเราต้องรักโลกนะ ปลูกฝังลงไปทางระบบการศึกษา เพราะสุดท้ายแล้ว มันไม่ใช่แค่คนรุ่นเราที่จะอยู่ไม่ได้ แต่มันคือทั้งโลกจริงๆ ที่เราต้องรีบจัดการปัญหาตรงนี้ตั้งแต่ตอนนี้”
อาร์เลน ฟอสเตอร์ มุขมนตรีไอร์แลนด์เหนือ กล่าวไว้ว่า ‘One Young World คือเวทีที่ผู้นำรุ่นเยาว์แห่งอนาคตมารวมตัวกันบนเวทีโลก ถือเป็นโอกาสสำคัญที่คนหนุ่มสาวจะได้ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างที่พวกเขาอยากเห็น เพราะพลังของคนรุ่นใหม่ คือพลังที่สร้างสรรค์ ยิ่งใหญ่ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง’ One Young World Summit ในแต่ละครั้งจึงไม่ได้จบแค่การประชุม แต่เป็นเรื่องคอนเนกชั่นที่มีกับเพื่อนเยาวชนทั่วทุกมุมโลกทั้งในรุ่นเดียวกัน และเพื่อนต่างรุ่น ที่สามารถดึงเอาองค์ความรู้ หรือความช่วยเหลือในด้านที่แต่ละคนถนัดหรือมีศักยภาพ รวบรวมและประสานเชื่อมแต่ละจุดกันได้โดยตรง
จึงเปิดโอกาสให้ทุกความคิดเปิดออกกว้างขึ้น และเกิดผลที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนบนโลก