‘ทุกวันนี้เราทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า?’
สำหรับคำถามนี้บางทีคำตอบอาจสะท้อนออกมาในรูปแบบความฝัน หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าความฝันเป็นกระบวนการจัดการความคิดอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อร่างกายเราหลับ ไม่ได้หมายถึงสมองพร้อมจะชัทดาวน์ตัวเองตาม แต่ในระยะการหลับฝัน (REM Sleep) กลับเป็นช่วงที่สมองตื่นตัวใกล้เคียงกับตอนตื่นที่สุดด้วยซ้ำ และความฝันก็มักจะมาจากความรู้สึกลึกๆ ของเรา ณ ช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นความวิตกกังวล ความเครียด หรือสิ่งที่ปรารถนาในชีวิต จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าคนที่จับจดกับงานมากๆ เข้า จะเครียดโดยไม่รู้ตัวและเก็บเอาไปฝัน
เมื่องานจบแต่ความคิดเรายังไม่จบ กลายเป็นแทนที่จะได้พักผ่อนเยียวยาตัวเองเพื่อสู้กับงานใหม่ กลับต้องเผชิญอาการนอนไม่ค่อยหลับ นอนไม่มีคุณภาพ หลับๆ ตื่นๆ หรือต้องเสียอีกหนึ่งคืนไปเพราะความคิดเกี่ยวกับงานเข้ามาบุกรุกความฝัน ให้ต้องเหนื่อยกับการทำงานแบบ Inception กลายเป็นเข้าสู่วงจร work ไร้ balance แบบไม่รู้ตัว
ความรู้สึกที่ร่างกายเหนื่อยจากการหลับตาฝันถึงงานไม่ใช่แค่อาการคิดไปเอง จากผลสำรวจของ British bank NatWest พบว่าผู้หญิงกว่า 80% และผู้ชายอีก 60% ล้วนเคยฝันถึงงานที่ทำอยู่ และผู้หญิงกว่า 65% และผู้ชายอีกกว่า 43% ที่ฝันเกี่ยวกับงานนั้นเกิดความเครียดเมื่อตื่นขึ้นมา ถึงขนาดมีเหงื่อออกมากตอนกำลังฝันด้วย (ฝันว่างานมีปัญหาชัวร์ทรงนี้) ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อคุณภาพการนอน ต่อให้นอนครบ 8 ชั่วโมงตามตำราเป๊ะๆ ก็อาจไม่ได้ประสิทธิภาพ ตื่นมาร่างไม่เฟรช สมองไม่ฟังก์ชันอยู่ดี
เราเลยอยากแชร์วิธีการรับมือกับการฝันถึงงานไม่หยุดหย่อน พร้อมชวนทุกคนสำรวจคำตอบของตัวเอง ว่าวิธีไหนน่าจะช่วยยับยั้งอาการนอนไม่หลับ สมองไม่หยุดคิดของคนวัยทำงานได้จริง
จัดการที่ต้นตอความเครียดภายในใจ
ในกรณีที่งานเริ่มไปพบปะกับเราในความฝัน อย่างแรกคือบอกตัวเองก่อนเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่เฮลท์ตี้ และการมานั่งลิสต์ทำความเข้าใจตัวเองหาสาเหตุที่ทำให้เราเก็บเรื่องงานมาคิดมากเป็นสิ่งที่ควรลงมือทำอย่างจริงจัง เราทำงานหนักเกินไปไหม? กดดันกับงานมากไป หรือสูญเสีย self-esteem ไประหว่างการทำงานหรือเปล่า? การยอมรับออกมาดังๆ ทำให้เรามองเห็นหนทางแก้ไขปัญหาได้ชัดเจนขึ้น เมื่อยอมรับได้แล้วก็ต้องหาหนทางแก้ปัญหา เราเคยลองระบายแชร์ความรู้สึกว่างานมันช่างหนักอึ้งกับคนที่ไว้ใจข้างเคียงไหม? เคยคุยกับหัวหน้าถึงภาระที่สาหัสเกินไปหรือเปล่า? ที่สำคัญคือเราเคยใจดีกับตัวเอง ปล่อยวางเรื่องงานออกจากหัวบ้างหรือยัง?
แม้ดูเหมือนเป็นการถาม-ตอบตัวเองแบบง่ายๆ แต่การค้นหาคำตอบในกระบวนการเหล่านี้คือกระบวนการ Self-Awareness (การตระหนักรู้ในตนเอง) จิตวิทยาในชีวิตประจำวันที่เพียงแค่เข้าใจตัวเองมากขึ้น ความเครียดก็จะถูกคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย
ร่างกายพร้อม สถานที่พร้อม เรานอนได้!
นอกจากดีท็อกซ์ความเครียดในใจออกไปแล้ว อย่าลืมใส่ใจความสบายกายที่จะทำให้การนอนหลับมีประสิทธิผลเพิ่มพูน ในยุคที่คนหันมาใส่ใจเทรนด์สุขภาพกันมากขึ้น การออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งกิจวัตรตามวิถีที่คนเฮลตี้เขาทำกัน แม้การออกกำลังกายให้เหนื่อยกำลังดีจะช่วยในนอนหลับสบาย แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือช่วงเวลา เพราะร่างกายต้องการอุณหภูมิที่พอเหมาะพอดีสำหรับการหลับลึก เราจึงควรเลือกเวลาให้เหมาะสม โดยออกกำลังกายให้ห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาคูลดาวน์ก่อนนอนหลับนั่นเอง ส่วนสำหรับสายออกกำลังกายแบบอ่อน การเล่นโยคะ ทำสมาธิ ก็ถูกพิสูจน์แล้วว่าช่วยผ่อนคลายร่างกาย ปรับการหายใจ เตรียมความพร้อมให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
อีกสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือการสร้างบรรยากาศปรับสภาพแวดล้อมให้พร้อมสำหรับการพักผ่อน ลดสิ่งเร้าที่จะรบกวนการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นการปิดไฟให้มืดสนิท ปรับอุณหภูมิให้เย็นสบาย ลดเสียงรบกวน เปิดเพลงคลอเบาๆ ขับกล่อม หรือใช้เครื่องหอมช่วยในการผ่อนคลาย เพราะนอกจากเตรียมร่างกายให้พัก การเติมฟีลให้พร้อมก็สำคัญไม่แพ้กัน
เบิกตัวผู้ช่วยการนอนหลับของมนุษย์ออฟฟิศ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการดีลกับความรู้สึกขุ่นมัวในใจเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับบางคน ยิ่งกับการหาเวลาออกกำลังกายหรือจัดห้องให้เป็นสวรรค์แห่งการนอน สำหรับมนุษย์ออฟฟิศที่แม้แต่เวลานอนยังไม่ค่อยพอยิ่งไม่ง่าย จนต้องเผชิญอาการนอนไม่ค่อยหลับ งานการก็ยังชอบแวะเวียนมาทักทายในฝัน คงต้องหาตัวช่วยกันแล้วล่ะงานนี้
เราอยู่ในยุคแห่งตัวเลือกสุขภาพทั้งที ก็ต้องเลือกใช้ตัวช่วยในการนอนหลับที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เช่นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรหรือวิตามินที่ช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับ “เปปทีนกู๊ดไนท์ดริ้งค์” เครื่องดื่มที่ขอลงสมัครเป็นผู้ช่วยเรื่องการนอนหลับอย่างมีคุณภาพคราวนี้
เปปทีนกู๊ดไนท์ดริ้งค์คืออะไร? ที่บอกว่าเป็นผู้ช่วยการนอนหลับของมนุษย์ออฟฟิศได้นั้น เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยผ่อนคลายก่อนนอน มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติอย่างกาบา แอลธีอะนีน และเห็ดหลินจือ ผนวกกำลังกันช่วยให้หลับสนิทตลอดคืน คุมกำเนิดปัญหาเรื่องงานที่จะเข้ามาวุ่นวายในฝัน ทำให้ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่มึนหัว พร้อมเริ่มต้นใหม่กับ(งาน)อะไรดีๆ ในเช้าวันถัดไป
เปปทีนกู๊ดไนท์ดริ้งค์ชีเชิร์ฟกาบาให้มากถึง 100 mg. ให้โดสที่มากกว่าที่อื่น ที่ให้ความสำคัญเพราะกาบาเป็นสารสื่อประสาทสำคัญในระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยต้านความเครียดและกังวล รักษาสมดุลให้สมองมีความผ่อนคลาย ผสานกับ แอลธีอะนีน 200 mg. ที่ช่วยให้ระบบประสาทและสมองผ่อนคลาย จิตใจสงบ นอนหลับได้ดีขึ้น กับเห็ดหลินจือ ที่มีสารไตรเทอร์พีน ช่วยลดความเครียด ทำให้นอนหลับลึก และยังลงรายละเอียดไปถึงการรังสรรค์ให้ดื่มง่าย รสชาติอร่อยและปราศจากน้ำตาล มีกลิ่นหอมที่ช่วยให้ผ่อนคลายอย่างกลิ่นลาเวนเดอร์อีกด้วย
เอาเป็นว่าใครที่กำลังเผชิญปัญหาการงานรุกรานในความฝัน อยากมีคืนที่หลับสนิทพักผ่อนสบายๆ ตลอดคืน นอกจากฮีลใจตัวเอง เตรียมร่างกายกับห้องนอนให้พร้อมรับการพักผ่อนเต็มพิกัดแล้ว ถ้าอยากได้ตัวช่วยที่จะทำให้ทุกอย่างชิลล์ขึ้น ก็ลองเปิดใจให้ตัวช่วยการนอนหลับอย่างเปปทีนกู๊ดไนท์ดริ้งค์ ที่แค่ดริ้งค์ก่อนนอน 30 นาที ก็จะนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมสดชื่นรับวันใหม่
อ้างอิงข้อมูลจาก