New Normal ชีวิตวิถีใหม่ที่มีผลต่อการเปลี่ยนไปของหลายธุรกิจ รวมถึงธุรกิจอสังหาฯ สู่การเป็น Next Normal รูปแบบในการอยู่อาศัยแนวใหม่ในมุมมองนักอสังหาฯ ทั้งการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของตัวบ้านและการตลาดที่ต้องมัดใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
The MATTER ได้พูดคุยกับ คุณวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ถึงแนวทางการปรับตัวของ Property Perfect หลังยุคโควิด-19 ที่พฤติกรรมของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไป
มองว่าจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างไรต่อภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีปัญหามาตั้งแต่ก่อนจะเกิดโควิด-19 เป็นปีแล้ว ปี 2562 ทั้งปีมีปัญหาเรื่อง LTV ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดน้อยลง รวมถึงเรื่องกลุ่มลูกค้าต่างชาติ จากผลของสงครามการค้าอเมริกากับจีน จนโควิดมาก็เป็นการซ้ำเติมปัญหาให้มันชัดเจนมากขึ้นอีก
ก่อนหน้านี้ Property Perfect มีการเตรียมการเพื่อรับมือกับวิกฤตที่จะเกิดขึ้นอย่างไร
ในส่วนของแนวราบ คือบ้านเดี่ยวกับทาวน์เฮ้าส์ ระดับความรุนแรงของปัญหาไม่มากนัก ซึ่งตรงกับข้ามกับคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีการ over supply อยู่มากในหลายๆ โลเคชัน และหลายๆ segment บริษัทเราก็มองเห็นปัญหานี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เราก็ระมัดระวัง โดยที่เราเปิดคอนโดใหม่เพียงแค่ปีละโครงการหรือสองโครงการ ต่อเนื่องกันมา 3 ปีแล้ว
เรื่องของ New Normal ที่เกิดขึ้น และจะเป็น Next Normal ชีวิตวิถีใหม่ ทำให้มีการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันหรือดีไซน์ต่างๆ ของบ้านและคอนโดมิเนียมไปมากน้อยขนาดไหน
ปัจจุบันบ้านไม่ใช่ที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ยังต้องรองรับการทำงาน และการพักผ่อนได้ตามรูปแบบการใช้ชีวิตวิถีใหม่อีกด้วย ซึ่งทำให้เราได้วางการอยู่อาศัยในปัจจุบันเป็น 3 แกนหลัก คือ Life การอยู่อาศัย , Work การทำงาน, แล้วก็ Recreation การพักผ่อน การออกกำลังกาย โดย Life การใช้ชีวิตในบ้านนั้น บ้านจะต้องมีพื้นที่ที่เราจะอยู่รวมกันได้ และมีระยะห่างสำหรับกิจกรรมส่วนตัวได้ และสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในบ้านเพื่อรองรับการทำงานได้ หรือเรียกกว่า Flexible Function ส่วน Work บ้านต้องมีพื้นที่รองรับการ Work from home มีเฟอร์นิเจอร์ที่รองรับการทำงาน มีโลเคชันที่ดี สามารถเข้าไปทำงานได้สะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน หรือจะมีพื้นที่ส่วนกลางรองรับการทำงานได้ เช่น คอนโดมิเนียมก็ยังสามารถที่จะไปนั่งทำงานในส่วนที่เป็น Co-working space ของโครงการได้อีกด้วย และต้องมีระบบการสื่อสารที่ดีเพียงพอที่จะสามารถทำงานหรือเรียนหนังสือในบ้านได้ บริษัทเราได้เป็นพันธมิตรกับทาง AIS มี Fix Fiber Broadband ส่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเส้นไฟเบอร์ใยแก้วนำแสงมาถึงห้องและบ้านทุกหลัง รวมถึงบริเวณที่เป็นส่วนสาธารณะของโครงการ ก็มี Wi-fi ให้บริการ และในส่วนของการพักผ่อนหรือ Recreation เรามีฟิตเนสที่สมบูรณ์แบบ มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีสระว่ายน้ำที่เราจะสามารถที่จะใช้ชีวิต พักผ่อนและออกกำลังกายได้
ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพมากเป็นพิเศษ ทาง Property Perfect มีการออกแบบอะไรเพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจบ้าง
โควิดอาจจะมาแค่ชั่วครู่หนึ่ง แต่ที่จะอยู่กับเราน่าจะหลายปีเลย คือเรื่องของฝุ่น PM2.5 ซึ่งอันตรายต่อร่างกายมาก ทางบริษัทก็ได้มีการออกแบบระบบฟอกอากาศภายในบ้านและระบบป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าในตัวบ้าน รวมถึงระบบระบายอากาศที่นำอากาศเย็นจากภายนอกเข้ามา ช่วยให้บ้านไม่ร้อน ซึ่งตรงนี้เราทำในทุกระดับของบ้าน ส่วนคอนโดมิเนียมเราก็พยายามลดการสัมผัสให้น้อยลง ตอนนี้เรานำระบบ face recognition หรือระบบจดจำใบหน้ามาใช้ นอกจากนั้นมีการเพิ่มเติมเซ็นเซอร์เข้าไปเพื่อวัดอุณหภูมิด้วย ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้น นอกจากนั้นบริษัทได้ร่วมกับเครือโรงพยาบาลพญาไท เปาโล เป็นโครงการ Online medical services ซึ่งลูกค้าจะสามารถใช้บริการทาการแพทย์ได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ สามารถนัดหมายปรึกษาแพทย์ได้ ถ้าในกรณีที่ต้องใช้ยา ทางโรงพยาบาลก็จะส่งยามาให้ถึงบ้านเลย หรือต้องมีการฉีดยา ก็จะมีบริการส่งเจ้าหน้าที่มาฉีดยาให้ถึงบ้าน โดยที่ไม่ต้องไปที่โรงพยาบาลเลย
ในแง่การตลาด มีการปรับเปลี่ยนแผนอย่างไร เพื่อช่วยเหลือลูกบ้านบ้าง
ในส่วนของลูกบ้าน เราก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ระหว่างที่ lockdown อยู่ จะไปช้อปปิ้งก็ไม่สะดวก เราก็เลยจัดบริการที่นำเอาของดี ราคาถูก มาขายถึงในหมู่บ้านในโครงการเลย แล้วเรามีแจกประกันโควิดฟรี โดยที่เราร่วมมือกับทางวิริยะประกันภัย ทั้งในส่วนของลูกค้าที่แวะมาเยี่ยมชมโครงการ แล้วก็พนักงานของบริษัทเองด้วย
แล้วในด้านสังคม Property Perfect มีการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
เราได้ร่วมกับบริษัทแกรนด์ แอสเสทฯ ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ให้การสนับสนุน กทม. แจกข้าวกล่องให้กับผู้ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนอีกกลุ่มที่เราให้ความสำคัญ คือบุคลากรการแพทย์ที่ต้องเหนื่อยและเสียสละมาก เราก็อยากจะตอบแทนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ โดยมีส่วนลดพิเศษ on top ให้จากแคมเปญปกติ สูงสุดถึง 3 ล้านบาท
หลายแบรนด์มีการทำการตลาดด้วยราคา ทาง Property Perfect มีกลยุทธ์อะไรจะช่วยมัดใจลูกค้ากลุ่มใหม่ได้มากขึ้น
ช่วงนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของคนที่จะซื้อบ้าน ทาวน์เฮาส์ หรือคอนโดมิเนียม เพราะจะสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกและดอกเบี้ยต่ำมากๆ เรามีแคมเปญที่ชื่อว่า ‘เหนือกว่าทุกดีล จ่ายให้ทั้งต้นทั้งดอก นาน 1 ปี’ เราจะจ่ายดอกเบี้ยให้แทนลูกค้า และจ่ายเงินต้นให้ ซึ่งลูกค้าก็จะมั่นใจได้ว่าเขาจะปลอดภาระเรื่องเงินต้นและดอกเบี้ยนานถึงหนึ่งปีเต็มเลย ส่วนคอนโดมิเนียม เราได้จัดแคมเปญที่เรียกว่า ‘อยู่ฟรีสูงสูด 30 เดือน’ ซึ่งบริษัทก็จะจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้แทนลูกค้า สูงสุดนานถึง 30 เดือน ซึ่งก็คือ 2 ปีครึ่ง มั่นใจได้ว่าถ้าเป็นลูกค้าที่ประสบปัญหาอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพไหน ผ่านไป 2 ปีครึ่งเขาน่าจะกลับสู่สภาพเดิมได้แล้ว ตรงนี้ก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อคอนโดของเรา
สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ ลูกค้าเองอยากจะดูบ้าน แต่ยังกังวลความสะอาด เรื่องสุขอนามัย มีการวางมาตรการดูแลเรื่องนี้อย่างไร
สำหรับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาเยี่ยมชมโครงการโดยตรง เราก็ได้จัดทำความสะอาดทั้งสำนักงานขายและห้องตัวอย่าง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ มีเจลแอลกอฮอล์ มี face shield ให้ครบหมด ถูกต้องตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค เพื่อสร้างความมั่นใจสำหรับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ สำหรับลูกค้าอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่มั่นใจที่จะเข้าไปชมโครงการโดยตรง เราก็มีการเยี่ยมชมผ่านทางวิดีโอคอล ‘คุณแชทมา เราพาชม’ เพียงแค่ลูกค้าทักเข้ามาทาง inbox ทางไลน์ หรือทางเฟซบุ๊ก เราก็จัดส่งวิดีโอคอลผ่าน live streaming พาชมโครงการสดๆ ระหว่างลูกค้ากับเซลล์ได้โดยตรงเลย
สุดท้าย มองภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ จะมีทิศทางที่เปลี่ยนไปอย่างไรหลังจากนี้
การปรับตัวเปลี่ยนเป็นวิถีใหม่ ข้อมูลมีความสำคัญมาก ระบบ Big data ต้องนำมาใช้ ต้องมีการทำ online marketing ที่ชัดเจนมากขึ้น ในสัดส่วนที่มากขึ้น อย่างที่เรียนว่า Sales gallery ลูกค้าไม่จำเป็นต้องมาดูของจริงแล้ว จากแต่เดิมถ้าเขาสนใจทำเลไหน ก็ต้องขับรถตระเวนไปดูอย่างน้อย 3 – 4 โครงการ ซึ่งใช้เวลานานทีเดียว แต่พอเปลี่ยนเป็นการทำ Virtual sales gallery แทน ทำให้ลูกค้าได้เห็นข้อมูล ได้เห็นบ้าน ได้เห็นห้องตัวอย่างผ่านทางมือถือ เป็นการประหยัดทั้งเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยสำหรับลูกค้า เพราะพฤติกรรมลูกค้ากำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว