บ้านที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นจากแบบแปลนที่สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการฟังเสียงเล็กๆ ในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย ความอบอุ่นที่อยากรู้สึก ความปลอดภัยที่ควรมี พื้นที่ที่อยากใช้ร่วมกัน และสุขภาพที่อยากดูแลตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้า ทั้งหมดนี้คือ insight ที่ได้มาจากชีวิตจริงของผู้คนที่อยู่ในบ้านเท่านั้น
พฤกษาจึงเชื่อว่าการฟังจึงไม่ใช่ขั้นตอนประกอบของการพัฒนาโครงการ แต่คือหัวใจของการสร้าง ‘ความเป็นอยู่ที่ดี’ ที่ไม่ได้จำกัดแค่ตัวบ้าน แต่รวมถึงทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ ‘การใช้ชีวิตในบ้าน’ ตั้งแต่บริการด้านสุขภาพ ไปจนถึงชุมชนที่เติมเต็มกันด้วยพลังบวก จึงสะท้อนวิธีคิดใหม่ของพฤกษาที่ฟังอย่างเข้าใจ เพื่อออกแบบสิ่งที่ตอบความต้องการของผู้คนทุกวัยได้จริง
ชวนไปสำรวจว่า เมื่อ ‘การฟัง’ เสียงเล็กๆ นำไปใช้เป็นแกนกลางของการออกแบบชีวิต การตีความเสียงที่หลากหลายสามารถเปลี่ยนเป็นแนวคิด ‘Lifetime Well-Living’ แนวคิดที่ตั้งใจดูแลคนไทยให้ ‘อยู่ดี…ทั้งชีวิต’ ผ่านบ้านที่คิดเผื่ออนาคต สุขภาพที่เข้าถึงง่าย และชุมชนที่ทำให้ทุกวันมีความหมายมากขึ้นกว่าเดิม
การสร้างบ้านเริ่มต้นจากคำถามง่ายๆ ว่า “อยากใช้ชีวิตแบบไหน”
บ้านทุกหลังเริ่มต้นสร้างจากคำถามที่ดูเรียบง่าย แต่สำคัญกว่าแบบแปลนไหนๆ เพราะหลายครั้ง การออกแบบบ้านที่ดีไม่ได้เริ่มจากโต๊ะเขียนแบบหรือโมเดล 3 มิติ แต่เริ่มจากการเข้าไปฟังบทสนทนาของคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ สำหรับพฤกษา ‘การฟัง’ จึงไม่ใช่เทคนิคการทำการตลาด แต่คือรากฐานของการสร้างชีวิตที่ดี สู่ผลลัพธ์ของคำตอบจากผู้อยู่อาศัยจริงๆ ที่บอกว่าชีวิตที่ดีควรเป็นอย่างไร
Well Home: เสียงของผู้คน คือแรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านที่ดี
นี่คือทุกเสียงที่ผู้คนอยากมี ตั้งแต่บ้านที่ปลอดฝุ่น อยู่สบายในทุกวัย ไปจนถึงการใช้วัสดุที่ปลอดภัย ได้กลายเป็นจุดตั้งต้นของมิติ Well Home บ้านที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อวันนี้เท่านั้น แต่เผื่ออนาคตของผู้อยู่อาศัยในทุกเจเนอเรชันด้วย แนวคิด Life-Design Function คือแกนกลางของการออกแบบที่พฤกษานำมาใช้ ไม่ใช่แค่จัดฟังก์ชันให้ลงตัว แต่เริ่มจากการเข้าใจร่างกาย พฤติกรรม และวิถีชีวิตของคนที่ต้องอยู่ในบ้านนั้นจริงๆ
พฤกษายังดึงผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลวิมุตมาร่วมออกแบบพื้นที่ตามหลัก Universal Design เพื่อให้บ้านรองรับการใช้ชีวิตของคนทุกวัยได้อย่างแท้จริง ตั้งแต่ระบบระบายอากาศ นวัตกรรมป้องกัน PM2.5 วัสดุคุณภาพที่ไม่เป็นพิษต่อสุขภาพ (Non-Toxic Materials) ไปจนถึงสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความงามกับ Passive Design เพื่อลดพลังงานและสร้างสภาวะที่อยู่สบายอย่างแท้จริง
ผลลัพธ์คือบ้านที่ไม่ได้ดีแค่ตามสเปก แต่ดีในความหมายที่ส่งเสริมสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า พร้อมบริการหลังการขายที่ออกแบบให้ดูแลชีวิตในทุกช่วงวัยอย่างต่อเนื่อง เพราะสำหรับพฤกษา การฟังไม่ใช่แค่การรับรู้เสียง แต่คือการเข้าใจความต้องการและวิถีชวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของผู้คนเพื่อนำมาออกแบบบ้านที่ดี ไม่ใช่แค่วันนี้แต่ยังเป็นบ้านที่พร้อมเติบโตไปผู้คนไปทั้งชีวิต
Well Care: การฟังที่มากกว่าเรื่องบ้าน สู่การดูแลสุขภาพที่เริ่มตั้งแต่วันแรก
พฤกษาคือรายเดียวในตลาดอสังหาฯ ไทยที่เชื่อม ‘บ้าน’ เข้ากับ ‘ระบบ Healthcare’ ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะไม่ใช่แค่ร่วมมือกับโรงพยาบาล แต่เป็นเจ้าของ โรงพยาบาลวิมุตและวิมุต–เทพธารินทร์ด้วย เมื่อฟังเสียงของชีวิตจริง พบว่าผู้อยู่อาศัยต้องการบ้านมากกว่าเพียงแค่พื้นที่ แต่ต้องการความอุ่นใจเรื่องสุขภาพ นั่นทำให้มิติ Well Care กลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การอยู่อาศัย ตั้งแต่วันที่ย้ายเข้า ไปจนถึงทุกช่วงวัยของชีวิต
บริการ Well Care ได้รับการออกแบบให้เป็นมากกว่าการรักษา แต่เป็นการดูแลสุขภาพกายและใจแบบเชิงป้องกัน (Preventive Care) ตั้งแต่การให้คำปรึกษาแพทย์ผ่านระบบออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไปจนถึงส่วนลดสำหรับบริการในเครือโรงพยาบาล ทั้งยังจัดกิจกรรมอย่าง Pruksa Well-Living Day ที่ให้ความรู้ด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และไลฟ์สไตล์สุขภาพโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การดูแลสุขภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ภาระที่ต้องรอให้ป่วยก่อน
ในหลายโครงการ บริการตรวจสุขภาพ Well Care @Home ถูกนำเข้าไปอยู่ในพื้นที่จริง รวมถึงแพ็กเกจตรวจสุขภาพแบบ Personalized Health Care ที่ออกแบบให้เหมาะกับแต่ละวัย และยังเป็นเจ้าแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่มอบบริการแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว หรือ Family Doctor ให้กับลูกบ้านให้ลูกบ้านได้อุ่นใจเรื่องสุขภาพทั้งครอบครัว เพราะมีหมอประจำบ้านที่คอยดูแลแบบองค์รวม ทั้งโรคทั่วไป การดูแลเชิงป้องกัน คำแนะนำด้านไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงการดูแลโรคเรื้อรังเลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดเดียวกัน การฟังอย่างเข้าใจทำให้บ้านไม่ได้จบที่การอยู่อาศัย แต่กลายเป็นพื้นที่ที่มอบความมั่นใจเรื่องสุขภาพได้จริง
Well Community: ชุมชนที่ดีเริ่มจากการฟังความต้องการของผู้คนทุกวัย
ชุมชนที่ดีไม่ได้เกิดจากส่วนกลางที่สวยงาม แต่เกิดจากการฟังความต้องการของผู้คนทุกวัย และออกแบบพื้นที่ให้รองรับชีวิตจริง นี่คือจุดตั้งต้นของมิติ Well Community แนวคิดที่มองว่าชุมชนไม่ได้มีไว้เพียงอยู่อาศัยร่วมกัน แต่เป็นพื้นที่ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งในชุมชนนั้นๆ
พฤกษานำแนวคิดนี้ไปสู่การสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้และแบ่งปันที่เกิดขึ้นจริงในโครงการ ตั้งแต่กิจกรรมเสริมสุขภาพกายอย่าง Sport Training Session ไปจนถึงกิจกรรมที่ดูแลสุขภาพใจอย่าง Spiritual Well-Living Activity ที่ออกแบบให้ผู้คนได้หยุดพักและกลับมาฟังตัวเองอีกครั้ง ทั้งหมดเกิดจากการฟังไลฟ์สไตล์ของลูกบ้าน ว่าอยากมีพื้นที่แบบไหนให้ใช้ร่วมกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Well-Living Market Fest งานเฟสติวัลเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชน รวบรวมสินค้าบริการที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ และสร้างบรรยากาศที่ทำให้ทุกคนได้พบปะ พูดคุย และผูกพันกันมากขึ้น ชุมชนจึงไม่ใช่แค่ที่อยู่ร่วมกัน แต่เป็นระบบนิเวศที่ค่อยๆ สร้างความไว้วางใจ ความสัมพันธ์ และความสุขที่ยั่งยืนร่วมกัน
เมื่อคนรุ่นใหม่มองว่าบ้านคือพื้นที่เติบโตของชีวิต ไม่ใช่แค่วัตถุลงทุน
ตลาดอยู่อาศัยกำลังขยับจากยุคที่บ้านถูกมองเป็นทรัพย์สิน ไปสู่ยุคที่บ้านคือพื้นที่เติบโตของชีวิต โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ที่เริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความสมดุลของชีวิต และสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความเป็นอยู่มากกว่าปัจจัยเชิงการลงทุน
ทิศทางนี้สะท้อนผ่านความนิยมของโครงการอสังหาฯ ที่ใส่ใจเรื่อง Wellness, พื้นที่สีเขียว, การอยู่อาศัยหลายเจเนอเรชัน และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริโภคมองหาบ้านที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น มากกว่าบ้านที่มีราคาขายต่อดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มนี้กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดอสังหาฯ ไทย
แนวคิด Lifetime Well-Living ของพฤกษาจึงตอบรับเสียงของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านซึ่งดูแลชีวิตได้มากกว่าเดิม
Real Estate + Healthcare ระบบนิเวศที่ดูแลชีวิตแบบครบวงจร
ในวันที่คนอยู่อาศัยคาดหวังจากบ้านมากกว่าพื้นที่ ตลาดอสังหาฯ ก็กำลังขยับสู่การสร้างระบบนิเวศที่ดูแลชีวิตแบบครบวงจร แนวคิด Real Estate + Healthcare คือทิศทางใหม่ที่กำลังนิยามมาตรฐานของการอยู่อาศัยในอนาคต
ผลลัพธ์ของการฟังผู้คนอย่างจริงจังของพฤกษาจึงไม่หยุดอยู่ที่การออกแบบบ้าน แต่ขยายไปสู่การสร้าง ecosystem ที่ครอบคลุมทั้ง Well Home, Well Care และ Well Community ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่ซับซ้อนขึ้นของคนเมือง และสะท้อนความคาดหวังเรื่องคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งพฤกษาคือรายแรกที่ทำให้ภาพนี้เกิดขึ้นจริงได้สำเร็จ
Lifetime Well-Living ไม่ได้เกิดจากกลยุทธ์ทางการตลาด แต่เกิดจากการฟังเสียงเล็กๆ น้อยๆ ของผู้คนที่ใช้ชีวิตในบ้านจริง เสียงที่บอกว่าความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ แต่ขึ้นอยู่กับการมีบ้านที่ดูแลชีวิตได้ในทุกๆ วัน พฤกษาจึงยึด ‘การฟัง’ เป็นหลักการทำงาน ไม่ใช่ขั้นตอนประกอบของโครงการใหม่ๆ เพราะทุกเสียงของผู้อยู่อาศัยมีความหมาย และเกี่ยวข้องกับทุกมิติของการใช้ชีวิต ตั้งแต่สุขภาพ พื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน ไปจนถึงความมั่นใจที่อยากรู้สึกเมื่อกลับถึงบ้าน
คำว่า ‘อยู่ดี…ทั้งชีวิต’ จึงกลายเป็นนิยามใหม่ของการอยู่อาศัย ในบ้านที่สร้างขึ้นจากเสียงของเราและพร้อมเติบโตไปด้วยกัน
