ทุกคนคงรู้จัก ซัมซุง ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยี แต่รู้หรือไม่ว่า ซัมซุง ยังเป็นผู้นำด้านการผลักดันด้านการศึกษา ให้ความสำคัญในการสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นนักนวัตกร สนับสนุนการสร้างทักษะพร้อมใช้สำหรับอนาคตโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านประสบการณ์จริง ปลูกฝังความคิดให้เด็กรุ่นใหม่พร้อมช่วยสังคมให้ดีขึ้นอย่างสร้างสรรค์
ชวนทุกคนมาเจาะลึกโครงการ Solve For Tomorrow 2023 กับ คุณเจนนิเฟอร์ ซอง President of Consumer Electronics และ คุณพรรณวลัย อินทราพิเชฐ Head of Corporate Marketing ผู้ร่วมริเริ่มโครงการระดับโลกถึงเบื้องหลังการผลักดันนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่มีผู้เข้าร่วมโครงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า
วิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำระดับโลกของ Samsung จากแนวคิด ‘Together for Tomorrow! Enabling People’
‘Together for Tomorrow! Enabling People’ หรือการ ‘มุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน’ แนวคิดที่ซัมซุงส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ดึงศักยภาพของตัวเองเพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคม คุณเจนนิเฟอร์ ซอง President of Consumer Electronics ได้เล่าถึงแนวคิดของ ซัมซุง ว่าไม่ได้มีวิสัยทัศน์มุ่งมั่นแค่การสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่มองไปถึงการรับผิดชอบต่อสังคมด้วย “มุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน คือวิสัยทัศน์ของซัมซุงที่มีต่อการพัฒนาเยาวชน เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ซัมซุงเชื่อว่าการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ปลดล็อคศักยภาพของตัวเอง จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม โดยต้องการให้เด็กๆ คิดนอกกรอบ และลงมือทำในแบบของพวกเขาเอง ไอเดียที่สดใหม่ และการแสดงความคิดเห็นอย่างจริงใจของเยาวชนคือสิ่งที่ซัมซุงต้องรับฟัง และสนับสนุนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง และไม่สามารถมองข้ามพลังของคนรุ่นใหม่ได้เลย”
Samsung Solve for Tomorrow เป้าหมายและความสำเร็จที่ทำให้ ‘เยาวชนกว่า 2 ล้านคน’ เป็นความหวังของทุกคน
ที่น่าสนใจคือถึงแม้บริษัทแม่ของซัมซุงจะก่อตั้งที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่โครงการ Samsung Solve for Tomorrow นั้นเกิดขึ้นในหลากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งเกิดจากความต้องการผลักดันการสร้างนวัตกรรุ่นใหม่มาช่วยเปลี่ยนแปลงคุณภาพสังคมให้ดีขึ้น “โครงการนี้เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ ทั้งประเทศไทยรวมถึงเกาหลีใต้เอง เนื่องจากอัตราการเกิดของประชากรลดลงเรื่อยๆ จากความยากลำบากและอุปสรรคในการใช้ชีวิต สำหรับเด็กๆ ที่มีโอกาสน้อย เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะทะลุเพดานของชนชั้นทางสังคมและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตตัวเอง”
ซึ่งหลังจากที่ก่อตั้งโครงการ Solve for Tomorrow ขึ้นก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด คุณเจนนิเฟอร์กล่าวว่า “จากความสำเร็จในปี 2022 เราได้ขยายความสำเร็จของโครงการด้วยการจับมือร่วมกับหน่วยงานรัฐได้แก่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยความร่วมมือนี้ได้สร้างกระแสให้โครงการในปีนี้อย่างมาก ปีนี้เราได้รับใบสมัครเพิ่มขึ้นถึง 3.2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2022”
ในประเทศไทยเราอาจจะเห็นโครงการอบรมสำหรับการสร้างนวัตกรรมระดับโลกไม่มากนัก และมักจะเจอแต่หลักสูตรที่เหมาะกับผู้เข้าอบรมในระดับอุดมศึกษา ทางด้าน คุณพรรณวลัย อินทราพิเชฐ Head of Corporate Marketing เล่าว่าเป้าหมายของโครงการ Samsung Solve for Tomorrow นั้น พัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคตให้กับน้องๆ มัธยมปลาย เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่สามารถเข้าใจและพร้อมใช้งานจริง
“Solve For Tomorrow เกิดขึ้นในปี 2020 โดยวัตถุประสงค์ของโครงการคือต้องการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีกับเด็กๆ เยาวชนชั้นมัธยมศึกษาที่ 4 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้เขาเป็นต้นกล้าสำคัญที่นำความรู้ไปประยุกต์ใช้แล้วก็สามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นในชุมชนของเขาเอง โดยในปัจจุบันมีเยาวชนเข้าร่วมแล้วกว่า 2 ล้านคน จาก 55 ประเทศทั่วโลก และตัวหลักสูตรต้องบอกว่ามันเป็นหลักสูตรที่ปกติแล้วเด็กคนที่เรียนจะเป็นรุ่นมหาวิทยาลัย แต่เราเอาหลักสูตรที่เป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบันมาใช้ เช่น เรื่อง Design Thinking ทักษะการคิดวิเคราะห์ การทำการสื่อสาร ได้ลองทำ Prototype และน้องๆ จะมีโอกาสได้พัฒนาไอเดียของตัวเองกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ เช่น น้องๆ ที่พัฒนาเรื่องเครื่องตรวจจับสัญญาณของโรคไต ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เข้ามาช่วย หรือ สำหรับบางคนที่ผลิตเรื่องของแอปพลิเคชัน ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญกลุ่มของไอทีเข้ามาช่วยน้องๆ”
เจาะลึกกระบวนการเรียนรู้และประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน
โครงการ Solve For Tomorrow สนันสนุนและเปิดโอกาสให้น้องๆ ม.ปลายทุกคนที่สมัครได้โอกาสเข้ามาเรียนรู้การสร้างนวัตกรรมได้ทุกคน คุณพรรณวลัยกล่าวถึงจุดเด่นของโครงการว่า “จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือโครงการมีการซัพพอร์ตให้กับเด็กๆ ตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ เด็กๆ ที่เข้ามาสมัครทั้ง 4,000 คน พอเข้ามาสมัครก็จะได้รับการเทรนเลย โดยที่ยังไม่ต้องมีการคัดเลือกเป็นรายกลุ่มหรือรายย่อย”
และหนึ่งในวิธีการสร้างแรงจูงใจเพื่อเค้นศักยภาพของน้องๆ ให้เข้มข้นขึ้น ทางโครงการได้แบ่งช่วงการทำกิจกรรมในแต่ละรอบ เพื่อเฟ้นหานวัตกรรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างสรรค์โซลูชันเพื่อสังคมได้มากที่สุด พร้อมมอบรางวัลที่สามารถนำไปต่อยอดเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้
โดยในรอบ 4,000 คนแรก จะเป็น Online Workshop จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น Design Thinking, Business Model โดย พี่เอี๊ยบ – ณวนัส เชษฐสันติคุณ จบการศึกษาจาก School of Information มหาวิทยาลัยมิชิแกน แอนนาเบอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันทำหน้าที่เป็น Learning Designer ที่บริษัทสยามเมนทิส บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะแห่งอนาคต รวมถึงการเปิดวงเสวนากับ พี่พาย – พิริน วรรณวลี ผู้จัดการโครงการ Solve for Tomorrow พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ พี่น้ำมนต์ – ชนินทร์ ศรีสุมะ Vice President Business Development, บริษัท Prime Road Power จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง Refill Station มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของการเป็นนวัตกร
รอบ Onsite workshop ในรอบนี้ 20 ทีม ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนวิจัยและพัฒนาโครงงาน ทีมละ 5,000 บาท และได้รับอุปกรณ์สนับสนุนจาก Samsung สำหรับใช้งานตลอดระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ
รอบรองชนะเลิศ (Semi-Final Round) 10 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก ซัมซุงมอบทุนพัฒนานวัตกรรมต้นแบบ (Prototype) และโมเดลธุรกิจ ทีมละ 10,000 บาท และร่วมพัฒนาโครงงานร่วมกับ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับประเทศ จาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช.
รอบชิงชนะเลิศ (Final Round) น้องๆ ทั้ง 10 ทีม จากทั่วประเทศเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อขึ้นเวทีนำเสนอโครงการ และสาธิตการใช้งานนวัตกรรมจริงเพื่อนำเสนอโครงการแก่ คุณสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กรธุรกิจโมบายเอ็กพีเรียนซ์ (Mobile Experience) บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
- รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล: ได้รับทุนทัศนศึกษาที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลียกทีม จำนวน 4 วัน / ทุนการศึกษาจำนวน 90,000 บาท / Samsung Tablet / โล่รางวัล และเกียรติบัตร
- รองชนะเลิศ (จำนวน 3 ทีม) ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน จำนวน 60,000 บาท / Samsung Tablet / โล่รางวัล และเกียรติบัตร
คุณพรรณวลัยสรุปให้ว่า “หลังจากมีการลดเหลือ 20 กลุ่ม เด็กๆ 20 กลุ่มก็จะได้รับทุนการศึกษาเพื่อไปพัฒนาเพื่อจะส่งเข้าประกวดต่อ แล้วก็จะมีการ Workshop 1-2 วัน จนสุดท้ายเหลือ 10 กลุ่ม ซึ่งก็ยังจะได้รับทุนการศึกษาเพิ่มอีก เพราะฉะนั้นสิ่งอยากจะเน้นจุดเด่นของโครงการนี้ คือเราไม่ได้ปล่อยเด็กๆ ไปทำเอง เรามีทั้งวิทยากร เรามีทั้งเงินสนับสนุนให้เด็กๆ สร้าง Prototype ให้เกิดขึ้นจริงค่ะ
สุดท้ายจะเป็นรอบคัดเลือกใหญ่ แล้วก็จะเหลือที่ผู้ชนะ 1 ทีมแล้วก็รองชนะเลิศอีก 3 ทีม ทีมที่ชนะเลิศจะได้รับประกาศนียบัตรจากท่านเลขาธิการสพฐ. และจากท่านประธานของบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด นอกจากนั้นก็จะได้รับทุนการศึกษา ได้รับผลิตภัณฑ์ Samsung แล้วก็ยังได้ไปเยี่ยมชมบริษัท Samsung Headquarters ที่ประเทศเกาหลีใต้อีกด้วยค่ะ
ตัวอย่างผลงานนวัตกรรุ่นใหม่ จากแนวคิด ‘MAKE YOUR IMPACT! คิดแก้ปัญหา พัฒนานวัตกรรม ลงมือทำให้ยั่งยืน’
ปี 2023 นี้ ซัมซุงประเทศไทยได้มีการจัดประกวด Samsung Solve for Tomorrow 2023 ขึ้นภายใต้หัวข้อ ‘MAKE YOUR IMPACT! คิดแก้ปัญหา พัฒนานวัตกรรม ลงมือทำให้ยั่งยืน’ ทำแผนพัฒนาไอเดียนวัตกรรมแก้ปัญหา สู่โมเดลธุรกิจที่มีคุณค่าและเป็นจริงในระยะยาว เพื่อการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้ได้มากที่สุด ซึ่งคุณพรรณวลัยก็ได้แชร์ความรู้สึกภูมิใจกับไอเดียของน้องๆ แต่ละทีมในปีนี้ที่ล้วนสร้างอิมแพคกับสังคมได้จริง
“ต้องบอกว่าตอนแรกรู้สึกเซอร์ไพรส์ที่เด็ก ม.4 – ม.6 สามารถทำแอปพลิเคชันหรือเครื่องมือที่มีประโยชน์ได้ขนาดนี้ สำหรับน้องที่ชนะเลิศ กลุ่ม KidneyLifePlus+ เขาทำเครื่องมือในการวัดเรื่องของ การตรวจสอบสัญญาณของโรคไต ผ่านลักษณะเฉพาะที่ปรากฏบนเรตินาของดวงตา เพื่อทำให้การคัดกรองผู้ป่วยทำได้ง่าย และมีต้นทุนที่ต่ำลง
ส่วนในอีก 3 กลุ่มที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ กลุ่มแรก ‘ทีม PAM’ นวัตกรรมแอปพลิเคชันที่เพิ่มตัวเลือกในการหาที่จอดรถให้กับคนที่ขับรถในเมือง เพื่อลดความแออัด และบริหารพื้นที่ในตัวเมืองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
กลุ่มที่สอง ‘ทีม PPK DREAM TEAM’ นวัตกรรมเครื่องหยอดน้ำกรดยางพารา 2 in 1 ช่วยลดเวลาให้เกษตรกรจะเป็นเครื่องหยดน้ำยางพารา ซึ่งทั้งหยอด แล้วก็ทั้งคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งจริงๆ แล้วจะช่วยทำให้ประหยัดเวลากับเกษตรกรมากเลยนะคะ
และส่วนกลุ่มที่สาม ‘ทีมทำงานจนใกล้เป็น Stroke’ กับนวัตกรรม DooLare แอปพลิเคชันเพื่อสังเกตอาการผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและขอความช่วยเหลือให้ทันเวลาเพื่อลดความเสี่ยง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ”
จากวิสัยทัศน์ของ ซัมซุง ที่ ‘มุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน’ ผ่าน โครงการ Solve For Tomorrow เราก็คงได้เห็นกันแล้วว่า ซัมซุงสามารถผลักดันการสร้างนวัตกรให้กับคนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง และจากความสำเร็จนี้เองทางโครงการก็จะมีการจัดอย่างต่อเนื่องในทุกปี
“สำหรับโครงการ Solve For Tomorrow ในปีนี้ เราก็ถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จนะคะ มีน้องๆ มาสมัครค่อนข้างเยอะ ดังนั้นในปีหน้าก็จะจัดเช่นเดิม ปีละหนึ่งครั้ง เริ่มเปิดรับสมัครในเดือนพฤษภาคม สำหรับน้องๆ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 ที่มีความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยี สามารถเข้ามาสมัครเก็บ Portfolio เพื่อที่จะไปใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัยได้ และสำหรับโครงการนี้การแข่งขันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่มิตรภาพแล้วก็การได้เข้ามาร่วมกันสร้างแล้วเปลี่ยนสังคมไทยให้ดีขึ้นน่าจะเป็นสิ่งที่น้องๆ ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการค่ะ”
สุดท้ายนี้โครงการ Samsung Solve for Tomorrow นั้นเกิดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงความรู้ที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เยาวชนทุกคนควรได้รับอย่างทั่วถึง คุณเจนนิเฟอร์กล่าวปิดท้ายว่า “ซัมซุงในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกให้คุณค่ากับนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามอุปสรรค หากเราสามารถให้โอกาสและความรู้ด้านเทคโนโลยีแก่พวกเขาได้ในเวลาที่เหมาะสม เขาจะสามารถคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้นได้ เริ่มจากเด็ก 1 คน ไปสู่ครอบครัว สู่ชุมชน สู่ระดับประเทศ และอีกมากมาย”
สามารถติดตามรายละเอียดโครงการในปีต่อๆ ไปได้ที่ : https://web.facebook.com/samsungcsrth