“แค่ก…แค่ก”
เสียงไอจากการระคายเคืองของฝุ่นควัน PM 2.5 ในชีวิตประจำวันที่เราอาจจะหลงลืมกันไปบ้างแล้ว แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้หายไปไหน เจ้าฝุ่นตัวจิ๋วยังคงฟุ้งกระจายปะปนไปกับอากาศที่เราหายใจในทุกวันจนกลายเป็นภัยเงียบที่เรามองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ด้วยร่างกายของเราทุกคน
ทว่าภัยร้ายจากฝุ่นควันไม่ได้เกิดเพียงแค่พื้นที่โล่งแจ้ง แต่พื้นที่ที่ควรจะปลอดภัยที่สุดอย่าง ‘บ้าน’ กลับไม่ปลอดภัยอย่างที่เราคิด และเมื่อสูดดมฝุ่นควันเข้าไปในปริมาณมาก จากฝุ่นตัวจิ๋วก็จะนำไปสู่ปัญหาขนาดใหญ่อย่างโรคทางเดินหายใจและโรคอื่นๆ มากมายต่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก เราจึงควรต้องเรียนรู้
เมื่อเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกบ้านได้ สิ่งที่พึงกระทำมากที่สุดก็คงเป็นการควบคุมพื้นที่ภายในบ้านให้กลับมาเต็มไปด้วยอากาศบริสุทธ์เย็นสบายอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนจากเสียงไอ “แค่ก…แค่ก” ให้กลายมาเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ “คิกคัก” ของคนในครอบครัว
ทบทวนอีกสักครั้งกับฝุ่น PM 2.5
เมื่อพูดถึง PM 2.5 หลายคนคงเริ่มคุ้นชินกับมันเป็นอย่างดี จนขนาดที่ว่าประเทศไทยเคยครองสถิติปริมาณมลพิษทางอากาศสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกกันมาแล้ว แต่รู้กันหรือเปล่าว่า PM 2.5 ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในปีสองปีที่ผ่านมา แต่มันอยู่และวนเวียนกับเรามาอย่างยาวนานเพียงแค่เราไม่ได้สังเกตเท่านั้นเอง โดยเจ้า PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หากเปรียบให้เห็นภาพ เจ้าฝุ่นเล็กๆ ชนิดนี้มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของคนเราถึง 1 ใน 25 จนเรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ฟังดูแล้วอาจจะเหมือนผี แต่เราทุกคนต่างสัมผัสได้ด้วยร่างกายของเราผ่านการหายใจเข้าไปสะสมในร่างกาย
ทว่า PM 2.5 ดันไม่ใช่ฝุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด เพราะมีการค้นพบฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กจิ๋วอย่าง PM 1.0 หรือ PM 0.3 ซึ่งยิ่งฝุ่นมีขนาดเล็กลงเท่าไหร่ก็หมายถึงความอันตรายต่อร่างกายที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเจ้าฝุ่นจิ๋วตัวอันตรายอยู่รอบตัวเราในทุกๆ ลมหายใจไม่เพียงแค่ฤดูฝุ่น สิ่งที่เราควรทำจึงเป็นการป้องกันตนเองและคนที่คุณรักให้พร้อมรับมือกับมันให้ได้มากที่สุด
ภัยเงียบที่ร้ายแรงกว่าที่เราคิด
เจ้าฝุ่นพิษตัวจิ๋วที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน นี้เอง สามารถเอาชนะระบบกรองอากาศตามธรรมชาติของมนุษย์อย่างขนจมูกได้อย่างง่ายดาย และเมื่อมันเข้าสู่ร่างกาย ในระยะเริ่มต้นจะแสดงอาการผ่านการระคายเคืองจมูก แสบคอ ไอ จนกระทั่งมีเสมหะ แต่เมื่อปอดรับปริมาณฝุ่นละอองมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะส่งผลร้ายแรงยิ่งขึ้น จนเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองและโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ
และยิ่งฝุ่นมีขนาดเล็กลงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เพราะเจ้าฝุ่นขนาดจิ๋วสามารถซึมทะลุไปถึงถุงลมปอด ที่เป็นส่วนปลายสุดของปอด ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อหลอดลม และเส้นเลือด เมื่อมันเล็ดรอดผ่านเส้นเลือดฝอยเข้าสู่กระแสโลหิต มันจะสามารถกระจายตัวแทรกซึมไปทั่วร่างกายของเราได้ จนเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพโดยเฉพาะกับเด็กและผู้สูงอายุ
แล้วเราจะป้องกันตนเองจาก PM 2.5 ได้อย่างไรบ้าง
เมื่อฝุ่นพิษอยู่รอบตัวและเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญในทุกวันไม่ใช่แค่ช่วงฤดูฝุ่นเพียงเท่านั้น การป้องกันจึงต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา โดยการเริ่มจากการติดตามข่าวสารเรื่องฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด พร้อมกับตรวจเช็กค่ามลพิษทางอากาศก่อนออกจากบ้านทุกครั้งผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ หากมีค่ามลพิษทางอากาศสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานควรหลีกเลี่ยงที่จะออกจากบ้าน ยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจและหัวใจ ไม่ควรออกนอกบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะจะส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายได้มากกว่าคนทั่วไป
แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้และจำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่อื่น ในทุกครั้งจำเป็นต้องเลือกใช้หน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันฝุ่นละออง ทางที่ดีที่สุดควรเลือกใช้หน้ากาก N95 เนื่องจากสามารถกรองฝุ่นขนาดจิ๋วได้อย่างปลอดภัยกว่าหากเทียบกับหน้ากากประเภทอื่น และหากเกิดความผิดปกติต่อร่างกายควรพบแพทย์ในทันที
อยู่ในบ้านก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยจาก PM 2.5
เมื่อภัยเงียบไม่ได้ปรากฏอยู่แค่ภายนอกบ้าน แม้จะหนีฝุ่นภายนอกกลับเข้ามายังที่พักอาศัย แต่ภัยเงียบได้ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในเขตพื้นที่ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ ในที่สุด นอกจากฝุ่นภายนอกที่ลอยเข้ามาภายในตัวบ้าน บางกิจกรรมภายในบ้านก็ล้วนก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศด้วยเช่นกัน อาทิ การสูบบุหรี่ภายในบ้าน การจุดธูปเทียน หรือแม้กระทั่งการทำอาหารเอง ล้วนก่อให้เกิดฝุ่นควันภายในบ้านทั้งสิ้น ทำให้พื้นที่ที่ควรจะปลอดภัยที่สุดกลับไม่ปลอดภัยอย่างที่เราคิด กลายเป็นว่าเราไม่สามารถหายใจได้อย่างสบายใจ เมื่อกลับบ้าน ซึ่งอาจจะส่งผลร้ายแรงไม่ต่างจากการไปรับฝุ่นควันนอกบ้านเสียด้วยซ้ำเพราะเราใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากกว่าวันละ 10 ชั่วโมง
เรื่องอากาศเป็นเรื่องสำคัญ ในบ้านจึงควรมีอุปกรณ์ที่ช่วยกรองอากาศบริสุทธ์ให้เราได้มั่นใจมากขึ้น เครื่องปรับอากาศที่สามารถกรองอากาศได้ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยสร้างอากาศเย็นและบริสุทธ์ อย่าง Samsung WindFree ที่มี PM 1.0 Filter ในการช่วยกรองอากาศ ภายในบ้าน นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชัน Wind-Free™ Cooling ที่ช่วยสร้างอากาศเย็นสบายแบบลมไม่ปะทะตัว
มั่นใจมากขึ้นในทุกลมหายใจด้วย PM 1.0 Filter
หนึ่งในคุณสมบัติของ Samsung WindFree ที่ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นในทุกลมหายใจคือเรื่อง PM 1.0 Filter ซึ่งมีแผ่นกรองอากาศ PM 1.0 โดยมีความสามารถในการดักจับฝุ่นขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถดักจับฝุ่นละอองที่เล็กกว่าได้ละเอียดถึง PM 0.3 ผ่านระบบไฟฟ้าสถิตย์ในการดักจับฝุ่นขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าฝุ่นตัวร้ายเข้าไปฝังตัวในปอดและร่างกายของตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
นอกจากคุณสมบัติการดักจับฝุ่นขนาดเล็กในอากาศ ยังสามารถดักจับเชื้อโรคที่ล่องลอยอยู่ในอากาศได้ถึง 90% จึงช่วยทำให้อากาศภายในห้องสะอาดยิ่งขึ้น นอกจากเรื่องอากาศบริสุทธิ์ ยังสามารถถอดล้างไส้กรองได้ตลอดอายุการใช้งานโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง ช่วยให้การบำรุงรักษาเป็นเรื่องง่ายและประหยัดได้มากยิ่งขึ้น
เย็นสบายลมไม่ปะทะตัวด้วย Wind-Free™ Cooling
หนึ่งปัญหากวนใจของคนที่อยู่ในห้องแอร์คือ การที่ลมจากเครื่องปรับอากาศปะทะตัวโดยตรงทำให้ เกิดความไม่สบายตัว แต่ปัญหาดังกล่าวจะถูกแก้ไขอย่างง่ายดายด้วยฟังก์ชัน Wind-Free™ Cooling ของ Samsung WindFree ที่มีคุณสมบัติช่วยกระจายลมได้อย่างนุ่มนวล และเงียบสงบผ่านรูขนาดเล็ก 23,000 รู บริเวณตัวเครื่อง
ทำให้ทุกครั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศเราจะไม่รู้สึกความไม่สบายตัวจากลมเย็นที่มากระทบตัวโดยตรงอีกต่อไป แต่กลายเป็นไม่ว่าจะเดินไปส่วนไหนของห้องก็สัมผัสได้ถึงความเย็นสบาย และอีกหนึ่งความพิเศษของระบบ Wind-Free™ Cooling คือ สามารถช่วยเราประหยัดเงินได้มากกว่าเครื่องปรับอากาศประเภทอื่น เพราะใช้พลังงานลดลงกว่า 77% แต่กลับสามารถกระจายความเย็นได้กว้างและไกลกว่าเดิมอย่างทั่วถึง
ให้บ้านได้กลับมาเป็นสถานที่ ที่ปลอดภัยที่สุด
ท่ามกลางมลพิษทางอากาศภายนอกที่ไม่มีวี่แววจะทุเลาลง เรายังคงต้องเผชิญกับฝุ่นพิษมากมายในแต่ละวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มีหนึ่งสิ่งที่จะทำให้กลับบ้านมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ นั่นก็คือการได้เปิดประตูบ้านมาพบเจอคนที่เรารักท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และเย็นสบายภายในบ้าน
ให้ Samsung WindFree เป็นตัวช่วยในการดูแลอากาศภายในบ้าน ผ่านคุณสมบัติ WindFree™ Cooling ที่สามารถสร้างความเย็นสบายแบบลมไม่ปะทะตัว และคุณสมบัติ PM 1.0 Filter ที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองที่มีความละเอียดสูงถึง PM 0.3 ทำให้สถานที่ๆ เรียกว่า ‘บ้าน’ กลับมาปลอดภัยที่สุดอีกครั้งจากภัยเงียบของฝุ่นตัวจิ๋ว จนตัวเราและคนในครอบครัวสามารถอยู่ได้อย่างเย็นสบาย หายใจได้อย่างมั่นใจ
เลือกอากาศบริสุทธิ์ให้ตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
เมื่อเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกบ้านได้ด้วยตัวคนเดียว สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการควบคุมปัจจัยภายในบ้าน ผ่านการเลือกอากาศบริสุทธิ์ให้ตัวคุณเองและคนที่คุณรัก ด้วยเครื่องปรับอากาศ Samsung WindFree เพราะการอยู่กับคนที่เรารักเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุด การหันมาดูแลสุขภาพของตัวเราเองและคนที่คุณรักเป็นเรื่องสำคัญ การมีเครื่องปรับอากาศที่เย็นสบายทั่วถึง และสามารถเปลี่ยนอากาศภายในบ้านให้บริสุทธิ์ปราศจากมลพิษภายในบ้าน จึงเป็นเหมือนการสร้างพื้นที่แห่งความสุขภายในบ้านเพื่อเปลี่ยนจากเสียงไอ “แค่ก…แค่ก” ให้กลับมาเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.samsung.com/th/air-conditioners/windfree/ และ https://www.samsung.com/th/air-conditioners/wall-mount/ar13ayaaawknst-18000-btuhr-f-ar18ayaaawkn/
อ้างอิงข้อมูลจาก