ความยั่งยืนไม่ใช่กระแส แต่เป็นหนทางสร้างอนาคตที่ผู้คนในปัจจุบันและผู้คนในอนาคตจะได้ประโยชน์ร่วมกัน ภารกิจสร้างความยั่งยืนอยู่ในมือของเราทุกคน ทุกสาขาวิชาชีพ ตั้งแต่การลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก ไปจนถึงการออกแบบไลฟ์สไตล์ของผู้คนใหม่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและส่งเสริมความเป็นไปได้ซึ่งกันและกัน
ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนก็ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการประหยัดพลังงาน ด้วยการออกแบบผังอาคารโดยคำนึงถึงทิศทางการรับและระบายอากาศ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยประหยัดพลังงาน ด้านสิ่งแวดล้อมที่เห็นได้ชัดเจนคือมีการเลือกใช้พลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียน เพิ่มสัดส่วนการใช้วัสดุที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) นำวัสดุหมุนเวียน หรือวัสดุที่ผ่านการรีไซเคิลมาใช้มากขึ้น ไปจนถึงการดำเนินธุรกิจที่ทุกกระบวนการคำนึงถึง Carbon Footprint และ Net Zero Emission
และสุดท้าย การให้ความสำคัญด้านสุขอนามัยในการใช้ชีวิต หลังจากที่โลกผ่านพ้นการระบาดใหญ่ของโควิด-19 การพัฒนาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันจึงไม่เพียงให้ความสำคัญเรื่องการระบายอากาศ และการทำความสะอาด แต่ยังออกแบบพื้นที่อยู่อาศัย ให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
หนึ่งในตัวอย่างของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาตลอดกว่า 40 ปี อย่างเสนาดีเวลลอปเม้นท์ เป็นต้นแบบการพัฒนาที่มองไกลไปยังอนาคตอยู่เสมอ โดยยึดแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ผสมผสานกับแนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้าง Decarbonized Lifestyle ยกระดับการใช้ชีวิตของทุกคน ทั้งลูกบ้าน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
ดร. ยุ้ย เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เล่าว่า Decarbonized Lifestyle เป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมลดการปล่อยคาร์บอนได้ในทุกๆ วัน เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติและโลก ที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในทุกๆ ปี โดยทุกโครงการของเสนาฯ ได้นำแนวคิด Smart City มาเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) การดำเนินชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) และการบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) ไลฟ์สไตล์ที่เสนาฯ นำเสนอจึงไม่ใช่เพียงการมีอุปกรณ์ไอที (Gadget) เพิ่มเข้ามาในชีวิต แต่เป็นการนำประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการ อยู่บนพื้นฐานการออกแบบที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขอย่างยั่งยืน
ตัวอย่างแรกที่โดดเด่นที่สุดคือ การพัฒนาด้านพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) เสนาฯ เป็นอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยที่บุกเบิก Solar Rooftop ให้ทุกคนได้ใช้พลังงานสะอาด 100% ไปพร้อมกับการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า จากการดำเนินการบ้านเสนาโซลาร์ มาตลอด 14 ปี ทำให้เสนาฯ เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงวิธีการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ดร.ยุ้ย อธิบายเพิ่มเติมว่า แนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House: ZEH) ต่อยอดมาจากบ้านเสนาโซลาร์ โดยเป็นการนำกรอบแนวคิดการออกแบบบ้านของพาร์ทเนอร์จากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Hankyu Hanshin Properties Corp. เสนาฯ นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของเมืองไทย รวมทั้งยังได้ศึกษาวิจัยร่วมกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาวัสดุก่อสร้างที่อยู่อาศัย ไปจนถึงพัฒนาระบบการบริหารจัดการโครงการเพื่อตอบโจทย์แนวทางลดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายในปี 2566 จะสามารถลดการใช้พลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 20% ในบ้านเดี่ยวและคอนโดของเสนาฯ ช่วยให้ลูกบ้านทั้งประหยัดเงินและทะนุถนอมโลกไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีการตระเตรียมความพร้อมสำหรับเทรนด์การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV CAR) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เสนาฯ จึงออกแบบระบบรองรับการติดตั้งแท่นชาร์จ (EV READY) ลูกบ้านไม่ต้องวุ่นวายกับการต่อเติมในภายหลัง เพื่อต้องการสร้างสังคมแบบใหม่ที่ทุกคนในสังคมมี Decarbonized Lifestyle ร่วมกัน สิ่งที่เสนาฯ กำลังทำเหล่านี้เพื่อความยั่งยืนของโลกในอนาคต
ดร.ยุ้ย ยกตัวอย่างอีกด้านเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) แอปพลิเคชัน SENA 360 ช่วยอำนวยความสะดวกตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจซื้อบ้าน เมื่อเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับเสนาฯ ก็สามารถใช้แอปจัดการอุปกรณ์ IOT ภายในบ้านหรือคอนโด ติดตามการใช้พลังงานสะอาดทั้งในพื้นที่ส่วนตัวและส่วนกลาง ดูแลเรื่องการจัดการขยะนัดหมายรับซื้อขยะรีไซเคิล ใช้วางแผนดูแลบ้าน ติดต่อนัดหมายช่าง ติดต่อเจ้าหน้าที่นิติบุคคลได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงยกระดับการบริการลูกค้าและลูกบ้านด้วยการนำ Innovation ใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตภายในโครงการที่พักอาศัยและสร้างไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วย
ด้านการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) เสนาเตรียมทำ Smart Parking ที่จะเข้ามาช่วยให้ลูกบ้านวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งประหยัดเวลา และประหยัดพลังงาน
จะเห็นได้ว่าทั้งหมดที่กล่าวมานี้ วางอยู่บนแนวคิด Sustainability Business ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้าง Decarbonized Lifestyle ให้แก่ลูกบ้าน ผ่านรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่เสนาเลือกรับมาปรับใช้ในทุกย่างก้าวผ่านการศึกษาอย่างจริงจัง พร้อมกับการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดร.ยุ้ย สามารถกลั่นความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาออกมาเป็นหนังสือใหม่ 2 เล่ม คือ Solar So Good หนังสือที่บอกเล่าเส้นทางการเปลี่ยนโลกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่ความยั่งยืน รวบรวมความรู้เกี่ยวกับ Solar Rooftop ซึ่งผสานระหว่างข้อมูลอัปเดตใหม่ล่าสุดที่ ดร.ยุ้ย ได้รับรู้มา กับประสบการณ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เสนาฯ ริเริ่มติดตั้ง Solar Rooftop เป็นเจ้าแรกในไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 จนมาถึงปัจจุบันที่มีการพัฒนาไปสู่บ้านพลังงานเป็นศูนย์
อีกเล่มที่อธิบายเรื่องยากๆ ให้เข้าใจได้ง่ายเช่นกัน คือ Sustain or Die ที่บอกเล่าแนวคิดและแรงบันดาลใจเกี่ยวกับความยั่งยืน ผ่านมุมมองของ ดร.ยุ้ย ตั้งแต่ปัญหาเกี่ยวกับความเป็นเมือง ปัญหาโลกร้อน ความเหลื่อมล้ำ ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาระดับโลก และไม่อาจแก้ไขได้ด้วยใครเพียงคนเดียว เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจ ส่งต่อแนวคิด Decarbonized Lifestyle ให้ทุกคนได้ลองทำความเข้าใจ ตระหนักถึงการลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลงและร่วมเดินไปบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนตั้งแต่วันนี้
เพราะนี่คือมาตรฐานใหม่ของแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดูแลทั้งผู้อยู่อาศัย และดูแลโลกใบนี้ไปด้วยกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.depa.or.th/th/smart-city-plan/smart-city-office
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9660000038705