วันนี้เรามานั่งคุยกับภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ หรือที่หลายๆ คนรู้จักเขาในชื่อ ‘ป๊อก Mindset’ ศิลปินฮิปฮอป เจ้าของเพลงติดหูอย่าง ‘Wip Wup วิบ วับ’
ซึ่งประเด็นพูดคุยของเราในวันนี้แทบไม่มีคำถามลึกๆ ที่ค้นไปถึงตัวตนด้านในของเขาเลย เพราะครั้งนี้เราชวนป๊อกมาคุยกันแต่เรื่องผิวๆ เสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผิวภายนอกที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาอยู่
ลวดลายศิลปะบนร่างกายของป๊อก คือเรื่องผิวๆ ที่เรากำลังพูดถึง ซึ่งหากมองจากภายนอกแล้ว ลวดลายรอยสักเหล่านั้นกินพื้นที่สีเนื้อไปกว่าค่อนร่าง ความหลงใหลในศิลปะแขนงนี้ทำให้เรื่องผิวๆ ของเขามีอะไรให้คุยกันได้ยาว
เรื่องน่าคุยแรกเริ่มต้นจากว่ารอยสักกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดของป๊อก Mindset เป็นฝีมือของช่างคนเดียวกันกับที่สักให้ Eminem, Beyoncé, Kobe Bryant, 50 Cent และ Snoop dogg หรือก็คือ Mister Cartoon ปรมาจารย์ระดับโลกแห่งวงการ Tattoo ซึ่งล่าสุดป๊อกก็เพิ่งไปเก็บลายใหม่มาเป็นชื่อของลูกชาย Mika และ Mia ลูกสาวบนท่อนแขนข้างขวา
เราจึงไม่รอช้าที่จะเข้าประเด็นว่าอะไรกันที่ทำให้เขาหลงใหลในรอยสัก และหลงในตัว Mister Cartoon จนถึงกับซื้อผลงานศิลปะของชายผู้นี้มาสะสมไว้แทบทุกส่วนบนเรือนร่างของตัวเอง
อะไรที่เป็นประตูในการเข้าสู่โลกของรอยสักสำหรับคุณ
ป๊อก: ต้องย้อนไปว่า จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ทั้งดนตรี การแสดง ภาพวาด ซึ่งความชอบในศิลปะนี่แหละพาเราไปเจอศิลปะรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย แต่แขนงที่มันฝังใจเราแล้วประทับใจกับมันมากๆ คือรอยสักหรือ Tattoo แต่ตอนอยู่ไทยเรายังไม่ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งขนาดนั้น เพียงแต่รู้ว่าชอบในศิลปะแขนงนี้
จนกระทั่งได้เดินทางไปเรียนที่อเมริกา เราก็เริ่มค้นคว้าหาข้อมูลมากขึ้น คราวนี้ก็มีเพื่อนมาช่วยเราเปิดโลกยิ่งขึ้นอีก เราได้เห็นงานของช่างสักหลายคน เห็นสไตล์ เห็นแนวที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะงานของ Mister Cartoon ที่ผมชื่นชอบมาก เรียกได้ว่าลุงเขาเป็นไอดอลของผมตั้งแต่สไตล์ วิธีการใช้ชีวิต และผลงาน ทุกวันนี้เวลาเจอกันผมก็เรียกเขาว่าคุณลุงจริงๆ เพราะเราสนิทสนมกันจนรู้สึกว่าเขาเหมือนญาติคนหนึ่ง
อะไรที่ทำให้คุณประทับใจในตัว Mister Cartoon
ป๊อก: เขาเป็น Tattoo Artist หรือศิลปินช่างสักที่มีสไตล์แบบ “Chicano fine line” ที่จะมีเส้นตวัดฉวัดเฉวียนเป็นเอกลักษณ์ และ “Freestyle Tattoo” คือแกจะใช้การวาดลายไกด์ลงบนผิวหนังเราเลย ไม่ได้ใช้กระดาษลอกลายแบบคนอื่น เพราะฉะนั้นลายสักที่ผ่านมือของเขาจะเป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือนแน่นอน ซึ่งผมรู้สึกว่าตรงนี้คือความเจ๋งซึ่งไม่มีใครทำได้นอกจากลุงแกคนเดียว
ได้ยินมาว่า Mister Cartoon ไม่ได้รับคิวสักง่ายๆ
ป๊อก: ต้องพูดว่า Mister Cartoon ไม่รับนัดคนที่ไม่รู้จักดีกว่า เขาไม่รับคน Walk In เลย วิธีที่จะได้สักกับเขาคือต้องมีคนแนะนำเราเข้าไป หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นลูกค้าขาประจำ เป็นเพื่อน หรือเป็นคนที่เหมือนกับครอบครัวของเขาเท่านั้น
แล้วอะไรที่ทำให้คุณได้มีโอกาสเข้าไปสักกับเขา
ป๊อก: ของผมเป็นแบบที่มีคนแนะนำเราเข้าไป ต้องเล่าก่อนว่าผมมีเพื่อนชื่อแท็ท ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้สักกับ Mister Cartoon คือเขาใช้วิธีส่งอีเมลไปหาทุกปี ปีแรกไม่ได้ไม่เป็นไร สองปีผ่านไป สามปีผ่านไป มันก็ยังส่งอีเมลไปหาเขาอยู่นั่น จนเขาคงเห็นถึงความตั้งใจของเพื่อนผมคนนี้มั้ง เขาเลยตอบกลับมาว่าถ้ายังอยากได้รอยสักจากเขาอยู่ก็เข้ามา แท็ทเลยกลายเป็นหน่วยกล้าตายที่ได้เข้าไปคนแรก พอแท็ทเข้าไปได้ปุ๊บ เขาก็จัดให้ผมเข้าไปด้วย
ก่อนไปนี่เขาจะแจ้งกฎเกณฑ์ต่างๆ มาให้เราทำตาม เช่น ต้องมาวันนี้เวลานี้เท่านั้น จ่ายเงินเท่านี้ ต้องจ่ายสดเท่านั้น หลังจากผมถึงสตูดิโอของเขาที่แอลเอก็มีรุ่นพี่มารับที่สนามบิน แล้วเราก็เข้าสตูดิโอประมาณช่วงบ่ายๆ ซึ่งย่านนั้นเป็นย่านเถื่อนมากๆ แต่ความอยากมันก็ชนะทุกอย่างเราเลยไม่กลัว
แต่เรื่องเหลือเชื่อคือ พอผมเปิดประตูเข้าไปในสตูดิโอของ Mister Cartoon มันเหมือนเปิดเข้าไปในอีกโลกนึงเลย เขามีรถ Low Rider มีงานอาร์ตสะสมเยอะจนเหมือนแกลเลอรี่ขนาดย่อมๆ มันมีแต่สิ่งสวยงาม
ตอนนั้นคุณดั้นด้นเพื่อไปสักลายอะไร
ป๊อก: ตอนนั้นผมไม่ได้คิดว่าจะมีรอยสักเยอะอย่างตอนนี้ คิดว่ามันอาจจะเป็นลายเดียวในชีวิตเลยด้วยซ้ำ ก็อยากจะได้อะไรที่เป็นซิกเนเจอร์ที่สุดของเขา ซึ่งคือลาย Joker หรือ ‘ลายตัวตลก’ คุณลุงเขาก็ออกแบบภาพ Joker ให้กับเราโดยเฉพาะ ตอนนั้นเราเริ่มทำดนตรีแล้ว ถึงจะยังไม่ได้มีค่ายหรือมีชื่อเสียงก็ตาม ลายที่เราได้มาจึงเป็นลาย Joker ถือไมโครโฟนยุคเก่า แล้วมีตัวหนังสือด้านบนเขียนว่า ‘Mindset’ ซึ่งคือชื่อ AKA ของผมในวงการเพลง หลังจากเราพูดคุยแนะนำตัวกันเสร็จ เขาก็จัดการซัดให้ผมประมาณ 6 ชั่วโมงรวดจนเสร็จ
แต่ต่อมาก็เป็นอย่างที่รู้กันว่าลายนั้นไม่ใช่ลายสุดท้ายในชีวิต
ป๊อก: ถามว่าผมไม่ได้สักตรงไหนดีกว่า ผมไม่มีที่ขาข้างซ้าย ซี่โครงข้างขวา หน้าอกข้างขวา แล้วก็ท้องด้านขวา ซึ่ง Tattoo บนตัวของผม 90 เปอร์เซ็นต์ คือผลงานของ Mister Cartoon
จาก 90 เปอร์เซ็นต์นั้น ลายไหนที่คุณว่าเป็นลายที่ซ่าที่สุด
ป๊อก: ลายที่หลังของผมเลย แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ไปเจอเขาที่แอลเอแล้ว เพราะตอนนั้นคุณลุงเขามานิวยอร์ก ก็เลยนัดเจอกัน ซึ่งการสักครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ที่เรียกได้ว่าบ้า บ้าทั้งตัวผมและตัวเขา เพราะคนปกติจะสักทั้งหลังเขาใช้เวลากันหลายวัน บางคนเว้นเป็นอาทิตย์ แต่เราใช้เวลาสักกัน 2 วันรวด สมมติวันนี้เราเริ่มกันบ่าย 3 จะเสร็จกันช่วงประมาณไม่เกิน ตี 3 ผมก็กลับไปนอน ตื่นมากินข้าว บ่าย 3 มาอีก แล้วก็ยิงยาวจนเสร็จ
หลังจากที่ได้พบเจอกับ Mister Cartoon มาเป็นเวลาหลายปี คุณพบความพิเศษอะไรในตัวของเขา
ป๊อก: ถ้ามองจากภายนอก Mister Cartoon และคนรอบๆ ตัวของเขาอาจจะดูเถื่อนมาก คือเห็นแล้วกลัวแน่นอน ซึ่งในตอนแรกผมก็คิดในใจว่าเขาน่าจะเป็นแนวขรึมๆ ไม่ค่อยพูดจา แต่พอได้รู้จักกันจริงๆ แล้ว ทุกคนในนั้นเป็นคนดีมาก ไม่ได้ต่างอะไรจากพวกเราเลย เขาแค่ชอบอาร์ต แล้วก็มีวิถีที่เชื่อมั่นในวัฒนธรรมแบบ Chicano ของเขาอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ Mister Cartoon เขามีความเป็นศิลปินสูง เขามองร่างกายคนเราเป็นแคนวาสหรือผืนผ้าใบ เขาจะแบ่งร่างกายเราออกเป็นชิ้นส่วนตามอวัยวะ แล้วดีไซน์ว่าส่วนนี้ควรจะใส่อะไรลวดลายอะไรเข้าไปเพื่อให้มันออกมาดีที่สุด เช่นเดียวกันถ้าเป็นวัสดุหรือพื้นผิวอื่นๆ เขาทำมาหมดแล้ว ตั้งแต่รองเท้า สร้อย เสื้อผ้า ฯลฯ หรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์อย่างกระป๋องหรือขวดโซดา ซึ่งของเหล่านี้มันมีรูปทรงเฉพาะที่น่าสนใจ ซึ่งสำหรับ Mister Cartoon แล้วทุกอย่างสามารถเป็นผืนผ้าสำหรับเขาได้หมด
ล่าสุดเราได้เห็น Mister Cartoon ผลิตผลงาน Collaboration กับขวดโซดาสิงห์ อยากให้คุณเล่ามุมมองในฐานะคนที่เคยสักกับเขามา
ป๊อก: ต้องบอกเลยว่า Collaboration นี้ คือการมาเจอกันของ 2 ตำนาน หนึ่งคือตำนานในด้านศิลปะรอยสัก กับอีกหนึ่งคือตำนานโซดาของไทย ซึ่งเป็น 2 สิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสมาอยู่รวมด้วยกัน ผมว่าเป็นอะไรที่แปลกแล้วก็น่าทึ่ง ซึ่งคอนเซปต์ของคอลเลคชั่นนี้ก็เป็นคอนเซปต์ที่ผมชื่นชอบมากๆ ด้วยเช่นกัน นั่นคือคอนเซปต์ “My Faith Will Never Fade ซ่าตัวจริง… ไม่มีวันจาง”
นอกจากนี้การ Collaboration ครั้งนี้ยังพิเศษมากๆ เพราะ Mister Cartoon ได้มาร่วมออกแบบให้กับขวดโซดาสิงห์ถึง 4 ลาย เป็น limited edition ซึ่งทั้ง 4 ลายนี้เป็นลายที่สะท้อนตัวตน ความคิด และความเชื่อของ Mister Cartoon ออกมาได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่เรื่องวัฒนธรรม Hiphop รถยนต์ Low Rider งานศิลปะ และความสงบ ซึ่งงานนี้ถ้าใครเป็นตัวจริงและชื่นชอบ Mister Cartoon ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะซื้อมาเก็บสะสม โดยสามารถหาซื้อได้แล้วทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงช่วงกลางเดือนมกราคม ปี 2564
คุณมีรอยสักบนข้อมือที่เขียนว่า ‘Stay True’ อะไรที่ทำให้คุณเชื่อในวลีนี้ และไม่เปลี่ยนตัวเองไปตามเสียงของคนอื่น
ป๊อก: ผมว่าด้วยความดื้อบวกกับความซ่าของผมมั้งครับ ที่มันทำให้ผมเป็นอย่างนี้ ยังสู้มาจนถึงทุกวันนี้ จริงๆ ประโยคนี้มันใช้ได้กับแทบทุกสิ่งในชีวิตเลย ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน ถ้าเราเลือกที่จะเป็นตัวเราเองจริงๆ เราจะได้พบกับความสุขอย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดเราเลือกที่จะยอมทิ้งตัวตนไป สุดท้ายเราอาจจะไม่แฮปปี้ก็ได้ ผมเลยเชื่อว่าถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเองจริงๆ ยังไงเราก็แฮปปี้ แล้วความซ่าในตัวเราจะไม่มีวันหายไป
My Faith Will Never Fade ซ่าตัวจริง… ไม่มีวันจาง