เราพอใจกับสภาพแวดล้อมตอนนี้มากแค่ไหน
คำถามที่ไม่ต้องรอคำตอบก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร ทั้งเรื่องของภาวะโลกรวน อากาศที่ร้อนผิดปกติ ฝนที่ตกผิดฤดูกาล ฝุ่น PM2.5 ที่ทำให้การอยู่ข้างนอกอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ยังไม่นับเรื่องปัญหาขยะพลาสติกที่สร้างมลภาวะอีกนับไม่ถ้วน สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมอยู่ใกล้ตัวมากขนาดไหน รวมไปถึงรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบ ส่งผลต่อชีวิตเราได้มากเพียงใด
ความยั่งยืน หรือ Sustainability จึงกลายเป็นคำที่กำลังติดเทรนด์ทั่วโลกอยู่ ณ ตอนนี้ หลายองค์กรใหญ่ในหลายอุตสาหกรรมกำลังให้ความสนใจและพยายามปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานอย่างเร่งด่วน จากผลสำรวจในปี 2022 พบว่ามีบริษัท 85% มองว่าการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คือเป้าหมายสำคัญที่นำไปสู่ความยั่งยืน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมความงามและผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ที่กำลังเกิดเทรนด์ใหม่ที่เรียกว่า ‘Sustainable & Responsible Beauty’ ความสวยที่มาพร้อมกับความยั่งยืนของโลกใบนี้
L’Oréal ถือเป็นบริษัทความงามแนวหน้าที่มีความก้าวหน้าในการทำงานประเด็นนี้อย่างน่าสนใจ โดยปรับเปลี่ยนการดำเนินงานครอบคลุม ตั้งแต่การเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปรับปรุงทุกขั้นตอนการผลิตจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมไปถึงสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ที่ต้องไม่สร้างผลกระทบหรือส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ส่วนการดำเนินงานจริงจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องลองไปติดตามกัน
จุดเริ่มต้นของความงามที่ยั่งยืน
แนวคิดการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้ยินกันมาสักพัก แต่กระบวนการเชิงลึกจริงๆ กลับยังไม่มีอุตสาหกรรมหรือธุรกิจไหนอธิบายออกมาให้เห็นภาพอย่างชัดเจน แต่สำหรับลอรีอัลถือเป็นบริษัทความงามยักษ์ใหญ่ที่มีอายุกว่าร้อยปี และมีแบรนด์ชั้นนำหลายแบรนด์ที่ครองตลาดทั้งในไทยและทั่วโลกมาอย่างยาวนาน โดยหนึ่งเป้าหมายสำคัญที่บริษัทให้ความสำคัญ คือเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นวางรากฐานนี้มาตั้งแต่ปี 2005 โดยได้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าลงถึง 81% ขณะที่ในปี 2020 ผลิตภัณฑ์ใหม่และผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูตรใหม่ของลอรีอัล ได้รับการปรับปรุงให้มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดีขึ้นถึง 96% และลอรีอัลยังเป็นบริษัทเดียวในโลก ที่ได้รับคะแนนระดับ A ในการจัดอันดับทั้งสามด้านจาก CDP องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมโลก ทั้งด้านการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์ป่าไม้ เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน
Green Science หัวใจสู่ความงามจากธรรมชาติ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ลอรีอัลมุ่งไปสู่ความยั่งยืนได้สำเร็จ คือการนำ Green Science หรือวิทยาศาสตร์เพื่อความยั่งยืนมาปรับใช้ในทุกกระบวนการผลิต อธิบายอย่างง่ายๆ คือการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้สูตรและส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ความงามที่เราใช้มาจากธรรมชาติแท้ๆ สร้างวัตถุดิบใหม่ไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ครอบคลุมตั้งแต่การเพาะปลูก ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีชีวภาพหรือเคมีสีเขียว ล้ำไปกว่านั้นคือการใช้นวัตกรรมการลอกเลียนแบบธรรมชาติ (biomimicry) จึงมั่นใจได้ทั้งเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัย
อธิบายให้เห็นภาพ Green Science ทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแทนที่โพลีเมอร์สังเคราะห์และแว๊กซ์ในมาสคาร่า ด้วยโพลีเมอร์จากข้าวโพด ซึ่งให้ผลลัพธ์เทียบเท่าเดิมและยังเหมาะสมกับดวงตาที่บอบบาง หรือการสกัดแพลงตอนในทะเลจากสาหร่ายขนาดเล็ก (Vitreoscilla filiformis) ที่มีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพและอนุมูลอิสระ รวมไปถึงการคิดค้นครีมนวดผมแบบไม่ต้องล้างออกที่ผลิตจากธรรมชาติ 98% ช่วยประหยัดการใช้น้ำอุ่นในการล้างได้ถึง 100 ลิตรต่อผลิตภัณฑ์หนึ่งขวด เรียกว่าดีต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อมเลยทีเดียว
อนาคตของความงามที่ยั่งยืน
คำถามสำคัญ คือเราจะทนอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่แย่ลงไปทุกวันๆ อย่างนี้ต่อไปอย่างไร ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น ความงามอาจเป็นเพียงสิ่งชั่วคราวที่เกิดขึ้นแล้วจากไป ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของอุตสาหกรรมความงามที่ชัดเจนที่สุด Green Science จึงไม่ได้ดีต่อธรรมชาติและความยั่งยืนของโลกเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นแนวคิดที่ดีต่อร่างกายผู้บริโภคอย่างเราๆ อีกด้วย
ล่าสุดลอรีอัลได้ตั้งเป้าหมายความยั่งยืนไปยังปี 2030 โดยกำหนดให้ 100% ของวัตถุดิบชีวภาพที่ใช้ในสูตรและบรรจุภัณฑ์จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้และได้รับการจัดหาอย่างยั่งยืน 95% ของส่วนผสมจะมาจากแหล่งชีวภาพ ซึ่งได้มาจากแร่ธาตุที่มีมาก เช่น ไอรอนออกไซด์ หรือ แร่โคลน รวมไปถึงมาจากกระบวนการหมุนเวียน และ 100% ของผลิตภัณฑ์จะได้รับออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าจะเป็นเป้าหมายที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ด้วยการวางเป้าหมายที่ชัดเจนของบริษัท ในการทำให้เป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้สำเร็จ จะปูทางสู่อนาคตของความงามที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ความงามที่คำนึงถึงความยั่งยืนได้จากทุกแบรนด์ของลอรีอัล โดยในประเทศไทย แบรนด์ของลอรีอัล ได้แก่ ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่, เมย์เบลลีน นิวยอร์ก, ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี, คีลส์, ชู อูเอมูระ, อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์, อิท คอสเมติกส์, ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล, เคเรสตาส, ลา โรช-โพเซย์, วิชี่ และเซราวี