เมื่อพูดถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ระดับโลก หนึ่งในบริษัทที่หลายๆ คนคงจะนึกถึงก็คือ เทนเซ็นต์ ซึ่งมีธุรกิจมากมาย ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ซึ่งในประเทศไทย เทนเซ็นต์ก็มีให้บริการธุรกิจอยู่อย่างหลากหลาย ในนาม “เทนเซ็นต์ ประเทศไทย” ไม่ว่าจะเป็น sanook.com / PUBG MOBILE / JOOX และ WeTV ที่เน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคเป็นหลัก
แต่ทว่าปัจจุบัน เทนเซ็นต์ ประเทศไทย ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดมากกว่านั้น โดยเดินหน้าลุยธุรกิจกลุ่ม B2B ด้วยการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีระดับโลก อย่าง เทนเซ็นต์ คลาวด์ (Tencent Cloud) เพราะมองเห็นแล้วว่า โลกเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ การตื่นตัวของธุรกิจแทบทุกอุตสาหกรรมต่างเร่งทำ Digital Transformation เพื่อสร้างสินค้าและบริการให้พร้อมเข้าสู่ยุคใหม่อย่างมั่นคง จึงนำประสบการณ์ด้านโซลูชันเทคโนโลยีกว่า 20 ปี มาพัฒนาเป็นโซลูชันคลาวด์ระดับโลกมากมาย เพื่อเป็นทางออกให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นตัวช่วยให้ทุกองค์กร ทุกธุรกิจทรานส์ฟอร์มธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง สอดรับโลกธุรกิจยุคใหม่
The MATTER คุยกับ กฤตธี มโนลีหกุล ถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารงานในฐานะแม่ทัพคนสำคัญของเทนเซ็นต์ คลาวด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (SEA) และเทนเซ็นต์ ประเทศไทย กับเป้าหมายที่มุ่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจทั้งในประเทศไทย และทั่วภูมิภาค
ปัจจุบันคุณกฤตธีดูแลงานด้านอะไรอยู่บ้าง
ปัจจุบันเป็น MD ของ เทนเซ็นต์ ประเทศไทย โดยดูแลและดำเนินการธุรกิจทั้งหมดในประเทศไทย และอีกหนึ่งบทบาทคือ ดูแลเทนเซ็นต์ คลาวด์ ให้ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดียครับ
โดยถ้าแบ่งตามลักษณะธุรกิจในเครือเทนเซ็นต์ ประเทศไทย จะแบ่งได้ 2 กลุ่มหลัก กลุ่ม B2C (Business to Customer) มีเอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์ม ที่คนไทยทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอย่าง sanook.com, JOOX, WeTV และเกมชั้นนำมากมาย เช่น PUBG MOBILE, Tower of Fantasy, Dragon Nest II: Evolution และ Goddess of Victory: NIKKE
อีกกลุ่มธุรกิจคือ กลุ่ม B2B (Business to Business) ซึ่งก็คือ Tencent Cloud เราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก ที่มุ่งสร้างสรรค์และนำเสนอโซลูชันล้ำสมัยที่สามารถช่วยให้ทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรมเติบโตท่ามกลางการดิสรัปชันของเทคโนโลยี
อยากให้อธิบายภาพของโซลูชันคลาวด์ว่าจะสามารถเข้ามาช่วยผู้ประกอบการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างไรบ้าง
ถ้าคนส่วนใหญ่นึกถึงคลาวด์ มักจะนึกถึงพื้นที่จัดเก็บ หรือ Storage ใช่ไหมครับ
เช่น ในสมัยก่อนถ้าคุณทำองค์กรสักแห่งหนึ่งและมีข้อมูลเยอะมากที่ต้องการจัดเก็บ คุณก็ต้องไปหาซื้อเซิร์ฟเวอร์เพื่อมาจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นด้วยตัวคุณเอง
แต่ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีพัฒนา เรามีบริการจัดเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์ คือไม่เพียงมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับให้จัดเก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่เทนเซ็นต์ คลาวด์ มีโซลูชันอื่นๆ อีก เช่น ‘SaaS’ หรือ Software-as-a-Service และ ‘PaaS’ หรือ Platform-as-a-Service ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถนำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์และนำไปต่อยอดทางธุรกิจ เช่น ธุรกิจค้าขายที่ต้องการเข้าใจลูกค้ามากขึ้นและดูว่าสินค้าอะไรที่ขายดีที่สุด โซลูชันของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ก็จะมี AI ในการเก็บข้อมูลลูกค้าได้ว่าเป็นใคร เพศอะไร อายุเท่าไร มีพฤติกรรมเลือกซื้ออย่างไร แล้วนำข้อมูลจากการวิเคราะห์ไปต่อยอดพัฒนาธุรกิจและบริการที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
เทรนด์ของอุตสาหกรรมคลาวด์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือทั่วโลก ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
COVID-19 เหมือนสปริงบอร์ดที่ผลักดันให้ผู้บริโภค หลายคนเริ่มหันมาใช้ Food Delivery สั่งอาหาร พนักงานในองค์กรธุรกิจต้องประชุมผ่านโปรแกรมต่างๆ แม้แต่องค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างก็ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานและเริ่ม Transform Business ตัวเองสู่ Digital กันมากขึ้น จึงทำให้ ‘อุตสาหกรรมคลาวด์’ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา มีความเติบโตอย่างก้าวกระโดด
แต่ละประเทศใน SEA จะมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน ทั้งอายุเฉลี่ย พฤติกรรม อย่างในสิงคโปร์ จะค่อนข้างตื่นตัวกับการใช้คลาวด์และ AI พฤติกรรมก็จะแตกต่างกับประเทศอื่นๆ หากพูดถึงประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถือว่ามีแนวโน้มในการเปิดรับอุตสาหกรรมคลาวด์มากขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงต้องทำความเข้าใจตลาดและตามให้ทัน เพื่อที่จะได้หาโซลูชัน ที่ตรงโจทย์ของผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์ของเราในแต่ละประเทศได้มากที่สุด
เทนเซ็นต์ คลาวด์ ยังมองเห็นโอกาสหรือมองเห็นอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างกับธุรกิจคลาวด์
ถ้าไม่นับประเทศญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ที่ถือว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มที่น่าสนใจมากๆ เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา และมีโอกาสที่จะนำระบบคลาวด์มาใช้ (Cloud Adoption) เพราะผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศเหล่านี้ยังอายุน้อยอยู่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่เข้าใจและเรียนรู้เทคโนโลยีได้เร็ว ส่วนภาคธุรกิจเองก็ต้องปรับให้เข้ากับผู้บริโภคกลุ่มนี้ โดยการเอาธุรกิจไปอยู่บนออนไลน์มากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนในการขาย หรือผลิตสินค้า และให้บริการ
หัวใจหลักในการบริหารเทนเซ็นต์ คลาวด์ จะมุ่งเน้นเรื่องอะไรบ้าง
เรามี Local Cloud – Local Ability Zone ในแต่ละประเทศที่ทำตลาด และมีดาต้าเชิงลึกของแต่ละประเทศ
และที่สำคัญ เรามี Local Team ซึ่งเป็นทีมที่มีความเข้าใจตลาดและเข้าใจลูกค้าในประเทศนั้นๆ เป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถแนะนำโซลูชันที่ตอบความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศได้อย่างตรงจุด ซึ่งตัวผม ทีม Local และทีมจากบริษัทแม่ในประเทศจีน จะประสานการทำงานร่วมกัน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการทำงานคือ พาร์ทเนอร์ เราต้องการสร้างอีโคซิสเต็มของพาร์ทเนอร์ให้แข็งแกร่งเพื่อขยายและต่อยอดบริการที่เป็นประโยชน์กับลูกค้ามากที่สุด
ฉะนั้น Local Cloud, Local Team และ Local Partner คือ 3 สิ่งที่เราโฟกัสและให้ความสำคัญ
ปัจจุบันเทนเซ็นต์ คลาวด์ โฟกัสบริการด้านใดเป็นพิเศษบ้าง
อันดับแรก ด้าน Data Security ปัจจุบันปัญหาการขโมยข้อมูลออนไลน์เยอะ ในฐานะบริเทคโรโลยีชั้นนำของโลก เรามีโซลูชันที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการแฮ็กข้อมูล
อันดับสอง เรื่องของ Media Solution ในฐานะที่เทนเซ็นต์ มีธุรกิจเกมและสตรีมมิ่งต่างๆ อยู่มากมาย เรียกได้ว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับหน้าจอ คือโปรดักต์ของเรา ดังนั้นถ้าบริษัทไหนต้องการที่จะเริ่มผันตัวเองขึ้นมาขายของ หรือทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เราก็มีโซลูชันที่สามารถช่วยทรานส์ฟอร์มธุรกิจของลูกค้าให้มาอยู่บนโลกออนไลน์ได้
และสุดท้าย เรามี China Connect ที่สามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ ที่ต้องการเข้าไปทำตลาดกับคนจีน หรือในประเทศจีนได้ง่ายขึ้น โดยซัพพอร์ตตั้งแต่การ Setup เว็บไซต์ ไปจนถึงจดทะเบียนบริษัท
แต่ละประเทศที่เข้าไปบริหารมีความแตกต่างกันอย่างไร และต้องเจอกับความท้าทายอย่างไรบ้าง
คงเป็นเรื่องของระดับของการพัฒนา และคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์มีบุคลากรที่เข้าใจเรื่องคลาวด์และระบบ AI ค่อนข้างมาก เพราะว่าสิงคโปร์เองก็เป็น Hub เรื่องเทคโนโลยี เราจึงต้องสร้างความมั่นใจว่ามีโครงสร้างพื้นฐานและ Data Center ที่พร้อมรองรับ หรืออินโดนีเซียที่อายุเฉลี่ยประชากรไม่สูงมาก ความต้องการใช้คลาวด์ก็จะแตกต่างจากไทย ความท้าทายก็ คือ Diversity ทุกวันเราต้องเจอกับสถานการณ์และปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและท้าทายกับการทำงานในแต่ละวัน
ความสนุกของการแก้ปัญหาในฉบับคุณกฤตธีอยู่ตรงไหน
สำหรับธุรกิจแบบ B2C ความท้าทายจะอยู่ที่เราจะต้องตามเทรนด์ ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วให้ทันอยู่เสมอ ฉะนั้นโจทย์คือ เราต้องมีบริการใหม่ๆ มาตอบสนองผู้บริโภคให้ได้เร็วที่สุด
ส่วนความสนุกของธุรกิจ B2B ก็คือ การที่ต้องทำให้พาร์ทเนอร์ หรือผู้บริหารธุรกิจ เชื่อมั่นว่า เทนเซ็นต์ คลาวด์เป็น Digital Enabler ที่จะช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาเปลี่ยนรูปแบบมาอยู่บนโลกออนไลน์ เราต้องวางแผนระยะยาว ต้องทำความเข้าใจมองการณ์ไกลว่าในอนาคตธุรกิจของลูกค้าในแต่ละประเทศจะโตไปในทิศทางใด เพื่อที่เราจะนำโซลูชันเข้าไปส่งเสริมและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของลูกค้า
ความต่างกันแบบสุดขั้วจึงเป็นสิ่งที่ดีครับ เราได้ทำอะไรที่หลากหลายมากขึ้นในแต่ละวัน
อะไรคือความแตกต่าง ความยาก หรือความท้าทายในการควบสองบทบาทในช่วงเวลาเดียวกัน
ต้องบอกก่อนว่าเราเริ่มมาจากการที่เป็น MD ของประเทศไทยมาถึง 10 ปี ฉะนั้นส่วนตัวจึงค่อนข้างคลุกคลีกับการออกโปรดักต์ใหม่ๆ และธุรกิจใหม่ๆ แต่พอเราขยับมาดูสโคปที่ใหญ่ขึ้น เราต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับในประเทศนั้นๆ
การที่เราอยู่ในประเทศไทย เราสามารถที่จะเข้าใจผู้บริโภคของเราได้ แต่เมื่อทำงานในระดับภูมิภาคที่ใหญ่ขึ้นและหลายประเทศมากขึ้น เราไม่สามารถที่จะเข้าไปสัมผัส หรือเข้าใจผู้บริโภคได้ในวันเดียว จุดนี้ก็เป็นข้อดีที่จะทำให้เราเติบโต เพราะเราต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจให้ได้ว่าตลาดนั้นต้องการอะไร ผ่านการคุยกับทีมมากขึ้น เพื่อช่วยในเรื่องของการตัดสินใจ นี่คือเรื่องที่ท้าทาย
ปรับตัวและบริหารงานอย่างไรให้เหมาะกับแต่ละบทบาท?
ต้องนอนน้อยลงนิดนึง แล้วก็ทำงานให้เร็วมากขึ้นครับ (หัวเราะ) ช่วงแรกในการทำงาน 2 ตำแหน่งในเวลาเดียวกัน มันอาจจะทำให้เราไม่ได้ลงรายละเอียดกับทุกอย่างแต่มันทำให้เราได้ถอยออกมาเพื่อมองในภาพกว้าง และมันจะเข้าใจตลาดอื่นๆ งานใหม่ๆ ทำให้เข้าใจในสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น พอถึงจุดที่ลงตัวแล้ว เราก็สามารถที่จะจัดสรรเวลาของเราได้
เรียนรู้อะไรบ้างจากการบริหารงานในองค์กรระดับโลก รวมถึงเป็นแม่ทัพคนสำคัญในการวางรากฐานเทนเซ็นต์ ประเทศไทย และขับเคลื่อนเทนเซ็นต์ คลาวด์ ให้เติบโตอย่างทุกวันนี้
ถ้าเป็นเรื่องของประเทศไทยเอง สิ่งที่เรียนรู้คือ พฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งเราต้องเรียนรู้ในการออกโปรดักต์ใหม่ๆ ให้ทันกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นเราจะหยุดเรียนรู้ไม่ได้ และบางทีเราต้องเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้นำด้วย ผ่านการตั้งโจทย์ว่า ‘ทำไมคนถึงมาต้องมาใช้โปรดักต์ของเรา’ ดังนั้นเราจะสื่อสารกับผู้ใช้อย่างไร เราต้องลงมาคลุกคลีกับผู้ใช้ ต้องมั่นใจว่าเราสื่อสารกับพวกเขาตลอดเวลาและทำให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่เรากำลังเสนอคืออะไร
ด้านเทนเซ็นต์ คลาวด์เองก็เช่นกัน การดูแลในระดับภูมิภาคมีความท้าทายเยอะมาก ยิ่งช่วง COVID-19 ที่เราไม่สามารถเดินทางไปเจอพาร์ทเนอร์ได้ เราต้องออกแบบวิธีการทำงานที่หลากหลายและเปลี่ยนไปจากเดิม ฉะนั้นสิ่งที่เราได้เรียนรู้คือ ทีมเราต้องมี Productivity ในการทำงานมากขึ้น และเป็นเรื่องที่ดีที่เราสามารถนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องบินไปคุยงานเหมือนเมื่อก่อน
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณยังสนุกกับการทำงาน?
เพราะความหลากหลาย งานที่เราทำอยู่ทุกวันนี้มัน Variety มาก
ทุกคนก็คงถูกจ้างมาเพื่อให้มาแก้ปัญหาใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้มองปัญหาเป็นสิ่งไม่ดี แต่เป็นหน้าที่ที่เราทำ ซึ่งการได้แก้โจทย์หลากหลายแบบ ทำให้หัวสมองเราต้องคิดว่าจะหาวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะในทุกๆ วันเราจะได้เรียนรู้กับอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
ทำไมลูกค้าถึงจะต้องมาใช้บริการของ ‘เทนเซ็นต์ คลาวด์’
ตอบได้เลยว่า เรามี Data Center จำนวนทั้งสิ้น 2 แห่งในประเทศไทย และมีโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ให้บริการกว่า 400 โซลูชันและผลิตภัณฑ์ชั้นนำในระดับอุตสาหกรรม
อย่างที่สอง บุคลากรของเราส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งข้อดีคือจะทำให้เรามี Know-how และเข้าใจความต้องการที่แท้จริง
สุดท้ายก็นำเวิล์ดคลาสโซลูชันและเทคโนโลยี เข้าไปในปรับใช้กับแต่ละประเทศ แล้วนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม เราสามารถมอบสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุด เพื่อให้ตอบโจทย์กับแต่ละประเทศ และเพื่อให้ลูกค้าสามารถพัฒนาธุรกิจไปอยู่บนดิจิทัลได้เต็ม 100%
ในอีก 5 ปี มองเป้าหมายของเทนเซ็นต์ ประเทศไทย หรือเทนเซ็นต์ คลาวด์ ไว้ว่าอย่างไรบ้าง
สำหรับเทนเซ็นต์ คลาวด์ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เราต้องการที่จะเป็น Digital Enabler ช่วยธุรกิจให้พัฒนาไปอยู่บนออนไลน์และอยู่ในโลกของดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว
เรามองว่าก่อนมี COVID-19 มีหลายบริษัทที่ต้องการจะผันตัวเองมาอยู่ในโลกออนไลน์ แต่ไม่มีปัจจัยที่มาช่วยผลักดัน แต่พอหลังสถานการณ์โรคระบาดทุกบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญแล้วว่า การ Transform Business ของตัวเองให้มาอยู่ในโลกออนไลน์ ไปอยู่ในโลกดิจิทัลมันจำเป็นแค่ไหน
เทนเซ็นต์ คลาวด์เราจึงพร้อมเข้ามาช่วยดูแลและให้บริการ โดยหวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ทุกคนต้องนึกถึงเราเป็นอันดับแรก
สำหรับเทนเซ็นต์ ประเทศไทย เราจะยังคงพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยจะสะท้อนผ่านโปรดักต์ในธุรกิจทุกแขนงของเราให้ดีที่สุด และมีบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการฟังเพลง การดูซีรีส์ การอ่านคอนเทนต์บนเว็บไซต์ การเล่นเกม และอีกหลายบริการที่จะตามมาในอนาคต