ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและตลาดออนไลน์เติบโต หลายคนจึงเห็นอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหารายได้เสริม โดยเฉพาะนักศึกษาที่จัดสรรเวลาว่างมาเป็นแม่ค้าออนไลน์กันมากขึ้น ไม่เพียงเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แต่ยังเป็นการหาเงินมาใช้หรือเก็บด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอีกด้วย
ไปรษณีย์ไทย จึงจัดบริการ Same Day Next Day “ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น” เอาใจแม่ค้านักศึกษา
และจะแวะมาฝากส่งที่ไปรษณีย์ในมหาวิทยาลัย ก่อน sec เช้า หรือเวลาพักเรียนก็ได้ เพื่อให้ของถึงมือลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วทันใจ
ตลาดออนไลน์: ขุมทรัพย์แหล่งใหม่บนโลกอินเทอร์เน็ต
กาลเวลาเปลี่ยน โลกก็เปลี่ยน ใครจะคิดว่าตลาดที่สมัยก่อนต้องเดินออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของ กลับกลายเป็นมาอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตที่จิ้มหน้าจอวันนี้ พรุ่งนี้สิ่งของก็มาอยู่หน้าบ้านเราแล้ว ตลาดการค้าขายสินค้าออนไลน์หรือ e-Commerce ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
หากมองดูในเชิงตัวเลข จะเห็นว่าตลาด e-Commerce ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดดอย่างชัดเจน โดยในปี 2561 มีมูลค่าถึง 3,150,232.96 ล้านบาท สูงกว่าปี 2560 ที่มีเพียง 2,812,592.03 ล้านบาท เท่านั้น และยังมีการคาดการณ์ว่าจากนี้ไปจนถึงปี 2565 น่าจะเติบโตขึ้นเฉลี่ย 22% เลยทีเดียว
นี่จึงเป็นขุมทรัพย์แห่งใหม่ที่มีมูลค่ามหาศาล และเป็นสนามรบของเหล่าแม่ค้าที่ก้าวเท้าเข้ามาลงเล่นตลาดนี้กันมากขึ้น
เรียนไปด้วย-ทำงานไปด้วย
ประโยคดังกล่าวเป็นสิ่งที่วัยนักศึกษาทุกปีได้ยินกันมานาน แต่สมัยก่อนอาจเป็นการทำงานจริงๆ อย่างงาน Part-Time งานเสริม หรือแรงงานเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะได้เงินตามค่าแรงขั้นต่ำ
แต่สมัยนี้การเรียนไปด้วย-ทำงานไปด้วยไม่ใช่แบบเดิมอีกแล้ว เมื่อนักศึกษาหลายคนมีแนวคิดหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก เห็นโอกาสในตลาดออนไลน์ที่มีมูลค่าสูง จึงผันตัวมาเป็นแม่ค้าออนไลน์กันมากขึ้น ไม่แปลกที่เราจะเห็นคนอายุน้อยร้อยล้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนประสบความสำเร็จเพียงแค่เริ่มทำธุรกิจแรกเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โจทย์สำคัญของแม่ค้านักศึกษาก็คือการบริหารเวลาเรียนและเวลาทำธุรกิจให้ดี เพราะอย่าลืมว่าหน้าที่ของนักศึกษาก็คือการเรียนนั่นเอง
ไปรษณีย์ในรั้วมหาวิทยาลัย
แม่ค้านักศึกษาหลายคนอาจเคยประสบปัญหาต้องขนของเยอะๆ ออกไปส่งไปรษณีย์นอกรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเรื่องลำบากมาก ทำให้เสียเวลาเรียน เสียอารมณ์ และหนักหน่อยอาจเสียลูกค้าไปเลยก็มี
แน่นอนว่าชาววัยรุ่นสร้างตัวก็ต้องการตัวช่วยที่หลากหลาย เช่น ช่วยลดต้นทุนและลดเวลา ไปรษณีย์ไทย ไม่รอช้า จึงมีการเปิดที่ทำการไปรษณีย์ในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมดกว่า 52 แห่ง ทั่วประเทศ เป็นการให้บริการเฉพาะรับฝากสิ่งของเท่านั้น เปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. หรือตามความเหมาะสมของพื้นที่
นับเป็นเรื่องดีที่ไปรษณีย์ไทยจะช่วยให้แม่ค้าไม่ต้องเดินทางไกลให้เสียเวลา เดินมาส่งของก่อนเข้าเรียนก็ยังทัน เรียกได้ว่าอยู่แค่ในมหาวิทยาลัยก็ได้ทั้งความรู้และรายได้เสริมไปพร้อมกัน
ไปรษณีย์ที่เข้าใจกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น
จะว่าไปแล้วไปรษณีย์ในมหาวิทยาลัยอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือการพัฒนาบริการ ยกระดับมาตรฐานของไปรษณีย์ไทยให้ส่งเสริมช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ตามไลฟ์สไตล์ของนักศึกษามากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นตัวช่วย EMS แบบ Same Day “ส่งเช้าได้บ่าย” ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการจัดส่งอย่างเร่งด่วน โดยจะต้องส่งก่อน 11.00 น. เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ อำเภอเมืองจังหวัดเดียวกันเท่านั้น เช่น แม่ค้าสาว ABAC สามารถส่งกระเป๋าแฮนด์เมดที่ไปรษณีย์อัสสัมชัญสุวรรณภูมิ ให้ลูกค้าแถวสยามภายในวันเดียว
และแบบ Next Day “ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น” สำหรับปลายทางที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือส่งไม่ทันช่วงเช้า ไปรษณีย์ไทยสามารถจัดส่งของให้ถึงภายในวันรุ่งขึ้นทันที โดยจะต้องส่งก่อน 17.00 น. เฉพาะพื้นที่การส่งในเมืองเท่านั้น ส่วนพื้นที่บนดอย บนเขา ตามเกาะทั่วประเทศ หรือพื้นที่อื่นๆ จะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน และไม่บวกค่าบริการเพิ่ม เช่น หนุ่มติสต์ มศว สามารถส่งเสื้อชิคๆ ที่ไปรษณีย์ศรีนครินทรโวฒ (มศว) ไปจังหวัดนครสวรรค์เพียงข้ามคืน
นอกจากนี้ยังมีบริการ Logispost ที่สามารถส่งของใหญ่ ของหนักทางไปรษณีย์ รับฝากของตั้งแต่ 20-200 กิโลกรัม ขนาดด้านละไม่เกิน 150 x 200 x 150 เซนติเมตร มีอัตราค่าบริการเริ่มต้น 200 บาท พิกัดน้ำหนัก 20 กิโลกรัม เช่น จะส่งมอเตอร์ไซค์จากเชียงใหม่ก็สามารถส่งได้ที่ไปรษณีย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มากรุงเทพฯ ได้สบายๆ
รวมไปถึงบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Cash On Delivery (COD) หรือบริการเก็บเงินปลายทาง ผ่าน Wallet@post ซึ่งผู้ส่งจะได้รับเงินค่าสินค้ากลับเข้าสู่ระบบภายใน 2 วัน ส่วนผู้รับสามารถเลือกชำระค่าสินค้าได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ เงินสด แอปพลิเคชัน Wallet@Post และโมบายแบงค์กิ้ง
และพิเศษสุดช่วงปีใหม่ 2020 กับการคืนกำไรให้ผู้ใช้บริการ EMS และบริการ COD โดยการปรับลดอัตราค่าบริการภายใต้แคมเปญ “EMS ท้าส่ง” ลดสูงสุดถึง 70% โดยผู้ใช้บริการที่มีจำนวนสิ่งของฝากส่งด้วยบริการ EMS ตั้งแต่ 5 ชิ้นขึ้นไปต่อการส่งในแต่ละครั้ง และ/หรือใช้บริการ COD เพียง 1 ชิ้น
พิกัดน้ำหนักตั้งแต่เกิน 500 กรัม – 2 กิโลกรัม ค่าบริการลดเหลือเพียง 55 บาท
พิกัดน้ำหนักเกิน 2 – 7 กิโลกรัม ค่าบริการลดเหลือเพียง 80 บาท เท่านั้น
ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.komchadluek.net/news/economic/393512
https://contentshifu.com/ecommerce-trends-priceza/