การทำให้กิจการหรือธุรกิจสามารถยืนหยัดมาเป็นระยะเวลา 140 ปีได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
นอกจากต้องทำให้มาตรฐานคงเส้นคงวา รักษาความไว้ใจจากลูกค้า ก็ยังต้องปรับตัวตามสภาพเศรษฐกิจและความเปลี่ยนแปลงของโลก
ไปรษณีย์ไทย คือบริษัทหนึ่งในนั้นที่ยืนระยะ ฝ่าทุกคลื่นลม ไปพร้อมๆ กับพัฒนาตัวเอง ทำจุดแข็งให้ดียิ่งขึ้น และปรับปรุงบริการใหม่ๆ เพื่อแข่งขันในตลาดที่มีผู้เล่นบริษัทขนส่งเพิ่มมากขึ้นทุกที
“จุดแข็งของเราก็คือบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คน (Postman Network) ที่รู้ลึกรู้จริงในทุกพื้นที่ และพร้อมจะให้บริการด้วยความจริงใจ กระตือรือร้นเหมือนวัยรุ่นอายุ 14 ปี แต่มีประสบการณ์กว่า 140 ปีที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น” ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึงหนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้บริษัทยืนระยะมาได้ยาวนาน
ไม่ใช่แค่มีนักขนส่งมืออาชีพแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย เพราะในตลาดธุรกิจขนส่งปัจจุบันมีการแข่งขันด้านราคาอย่างเข้มข้น ไปรษณีย์ไทยจึงใช้จุดแข็งนี้พร้อมกับปรับมุมมองการทำงานว่าเราไม่ได้เพียงขนส่งของ แต่เป็นการส่งมอบคุณค่าและความสุขถึงผู้คน
“เราจึงให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนระบบขนส่งตามความเหมาะสมกับขนาดและลักษณะสิ่งของที่แตกต่างกัน (Parcel Defined Logistic) ตั้งแต่การรับฝาก-ส่งต่อ ไปจนถึงการนำจ่ายที่รวดเร็วในราคาที่เหมาะสม ซึ่งในปีนี้เราได้เพิ่มจำนวนทั้งทีมขาย ทีมขน ทีมแคร์ ให้มากขึ้น เพื่อให้ดูแลลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการได้มากยิ่งขึ้น”
พร้อมส่งความสุขทั่วโลก
ดร.ดนันท์ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ถึงแม้ธุรกิจในประเทศของบริษัทจะมีสามด้าน โดยมีธุรกิจหลักก็คือขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ บริการ EMS ในประเทศ ไปรษณีย์ลงทะเบียนในประเทศ และพัสดุไปรษณีย์ในประเทศ ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 44.11% จัดส่งวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 6 ล้านชิ้นกับธุรกิจสื่อสาร ได้แก่ จดหมาย ไปรษณียบัตร ไปรษณียภัณฑ์ในประเทศ สิ่งของตีพิมพ์ การเงินค้าปลีก
แต่อย่างไรก็ตาม หากมองถึงอนาคตและจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของไปรษณีย์ไทยแล้ว ธุรกิจระหว่างประเทศคือสิ่งที่สามารถสร้างความแตกต่าง
“บริการเด่นๆ ของเราก็อย่างเช่น EMS World ส่งด่วนทั่วโลก ซึ่งรายได้สะสมในช่วงไตรมาส 1-3 ของปีนี้สูงถึง 2,000 ล้านบาท และเราก็ยังมีบริการ Courier Post ส่งด่วนพรีเมียมที่การันตีเวลาจัดส่ง พร้อมดำเนินการพิธีการศุลกากรให้
“อีกบริการยอดนิยมของเราก็คือ ePacket บริการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนสำหรับผู้ค้าขายออนไลน์ เพราะเรามีอัตราราคาส่งสำหรับสิ่งของน้ำหนักเบา ตั้งแต่ 100 กรัมขึ้นไป ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของไปรษณีย์ไทย เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ ที่มักจำกัดน้ำหนักเริ่มต้นสูงกว่า 5 กก.
“ผมมองว่าบริการขนส่งระหว่างประเทศมีความท้าทายสูง เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เช่น การส่งของไปต่างประเทศจะต้องมีการสำแดง (declare) สิ่งของ จำนวน มูลค่า ซึ่งเงื่อนไขการพิจารณาโดยศุลกากรปลายทางแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน แต่ไปรษณีย์ไทยให้บริการครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งนำเข้าและส่งออก มีคลังสินค้า จัดการพิธีการศุลกากร จนสิ่งของไปถึงมือผู้รับ ภายใต้ชื่อบริการ Courier Lite นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังมีช่องทางขนส่งที่หลากหลาย ทั้งทางบก ทางเรือ ทางราง และทางอากาศอีกด้วย” ดร.ดนันท์กล่าว
แคมเปญพิเศษ Unbox Happiness เปิดโลกการส่ง ให้ใจไปถึง
และเพื่อต่อยอดบริการขนส่งระหว่างประเทศ ดร.ดนันท์จึงอยากแนะนำ ‘Unbox Happiness เปิดโลกการส่ง ให้ใจไปถึง’ แคมเปญพิเศษช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี 2567 กับบริการส่งความรู้สึกในรูปแบบวิดีโอที่สร้างขึ้นจากรูปภาพหน้าตรงและเสียงพูดของผู้ใช้บริการ ก่อนประมวลผลผ่านระบบ AI บนเว็บไซต์ ที่ไปรษณีย์ไทยจัดทำขึ้น ซึ่งแปลงภาษาพูดได้ถึง 7 ภาษา ทั้งอังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน แล้วสร้างเป็นคิวอาร์โค้ด พิมพ์ลงบนโปสการ์ด กระดาษ โพลารอยด์ หรือสติกเกอร์ ใส่ลงกล่องพร้อมสิ่งของก่อนส่งไปรษณีย์
“ไม่ว่าจะส่งของขวัญให้คนในครอบครัว เพื่อนสนิท คนพิเศษ ก็สามารถส่งวิดีโอความคิดถึง ความรัก ความห่วงใย ไปถึงผู้รับได้ กระทั่งพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ หรือแบรนด์สินค้า ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะส่งคำขอบคุณถึงลูกค้าคนสำคัญได้ เพราะการส่งของทางไกลไม่ใช่แค่การส่งของ แต่ยังเป็นการส่งความรู้สึกไปด้วย” ดร.ดนันท์กล่าวเสริม
นอกจากความรู้สึกที่ถูกส่งไปถึงผู้รับได้แล้ว ไปรษณีย์ไทยยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับบริการขนส่งระหว่างประเทศ อาทิ
- ส่วนลด EMS World ส่งด่วนทั่วโลก สูงสุด 25% สำหรับปลายทางยอดนิยม (จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมนี)
- Courier One Price ราคาเบาๆ เหมาจ่าย ‘สะดวก ส่งเต็มกล่อง ไม่ต้องวัดปริมาตร’ สำหรับผู้ใช้บริการ Courier Post ด้วยราคาสุดคุ้ม เริ่มต้นสำหรับปลายทางยอดนิยม เช่น เกาหลีใต้ 1,600 บาท อังกฤษ ออสเตรเลีย 1,700 บาท และ สหรัฐอเมริกา 1,800 บาท
- ส่วนลดสมาชิก POST Family ที่มียอดใช้บริการต่างประเทศตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป รับส่วนลดสูงสุด 10%
(ติดตามเงื่อนไขและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.thailandpost.co.th/th/index หรือ ทางเฟซบุ๊กเพจ facebook.com/thailandpost.co.th)
ไปรษณีย์ไทย มุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่อนาคต
ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการยังไม่สิ้นสุดเท่านี้ ดร.ดนันท์กล่าวว่าในอนาคตบริการขนส่งระหว่างประเทศนั้น ไปรษณีย์ไทยจะจับมือร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้การขนส่งเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและประหยัดยิ่งขึ้น รวมถึงออกแบบบริการที่จะช่วยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจของไทยแข็งแรงมากขึ้นด้วย
“เราจะพัฒนาบริการระหว่างประเทศในรูปแบบใหม่เพื่อรองรับความต้องการให้ได้หลายกลุ่มธุรกิจ ทั้งในลักษณะของ B2B B2B2C B2C และ C2C
“เช่น บริการขนส่งสินค้า (Cargo Mode) เพื่อรองรับลูกค้าที่มีรูปแบบการขนส่งแบบ Commercial Channel แทนการขนส่งผ่านช่องทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ โดยสามารถใช้บริการได้แบบครบวงจร ณ จุดเดียว ตั้งแต่การดำเนินพิธีการศุลกากร การชำระค่าภาษีอากร จนถึงการนำจ่าย (Last Mile Delivery)
“อีกบริการหนึ่งคือ Fulfillment World เป็นบริการคลังสินค้าครบวงจร (Fulfillment) บนพื้นที่เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (eCommerce Free Zone) ภายใต้เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ EEC จากเดิมที่ผู้นำเข้าสินค้ามาจำหน่ายต้องชำระภาษีทันทีที่นำสินค้าเข้าประเทศ ก็จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์งดเว้นการชำระภาษีทันทีเป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนไปได้ไม่น้อย”
ดร.ดนันท์เสริมอีกว่า บริการที่มีอยู่เดิมและเป็นจุดแข็งก็ยังเดินหน้าปรับปรุงต่อ ทั้งบริการ EMS World และ ePacket ที่สามารถติดตามและตรวจสอบได้ตลอดเส้นทางการจัดส่ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะขับเคลื่อนด้วยการนำเทคโนโลยีมาให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ผสมผสานกับศักยภาพด้านเครือข่ายการนำจ่ายระหว่างการไปรษณีย์ที่เข้าถึงผู้รับได้ทั่วโลก
และที่ขาดไปไม่ได้ คือ การให้บริการด้วยหัวใจและประสบการณ์ของการทำหน้าที่ผู้ส่งต่อความสัมพันธ์รอยยิ้ม และความสุขเคียงคู่คนไทย มาตลอด 140 ปี