นั่นพีช นี่ก็พีช! ขนาดคำบอกรักยังเป็น “I Peach You So Much” เลย ก็เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มีแต่ลูกพีชเต็มไปหมดเลยนะคะซิส!
เชื่อเถอะว่าเทรนด์นิยมพีชยังไม่จบอยู่แค่นี้ เพราะใครต่อใครเขาก็เม้าท์กันว่า ประเทศไทยกำลังนำเข้าเครื่องดื่มวีทผสมพีชเข้ามาอีก ทุกคนก็เลยรอลิ้มรสเปรี้ยวๆ หวานๆ ของเครื่องดื่มชนิดนี้เต็มไปหมด
ซึ่งเพื่อนๆ รู้ไหมว่า เจ้าผลไม้สีส้มอมชมพูชนิดนี้ มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์มากกว่าเป็นแค่ผลไม้รูปหัวใจ ฉะนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักลูกพีชในฐานะส่วนผสมที่ดีที่สุดของเครื่องดื่มวีทจากหมู่บ้านฮูการ์เด้นประจำซัมเมอร์นี้กัน
ภารกิจประจำหมู่บ้าน กับการตามหาผลไม้ฤดูร้อนที่ดีที่สุดในโลก
ทุกซัมเมอร์ที่หมู่บ้านฮูการ์เด้น ประเทศเบลเยียม – หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำเครื่องดื่มวีท – จะมีธรรมเนียมหนึ่งที่ไม่เหมือนหมู่บ้านอื่นคือ เหล่านักปรุงเบียร์ (Brew Master) จะหารือกันเพื่อคิดค้นสูตรเครื่องดื่มวีทผสมวัตถุดิบใหม่ๆ เอาไว้ดื่มในช่วงซัมเมอร์เสมอ
สิ่งนี้จึงกลายเป็นภารกิจประจำหมู่บ้าน ที่ทุกคนจะออกค้นหาผลไม้ฤดูร้อนที่ดีที่สุดมาเป็นส่วนผสมหลัก เพื่อให้ได้สูตรเครื่องดื่มวีทประจำซัมเมอร์ที่ไม่เหมือนใคร
เราพบกันเพราะพีชลิขิต
วันหนึ่งในตลาดเล็กๆ ของหมู่บ้าน กลิ่นหอมๆ ของผลไม้ชนิดหนึ่งลอยมาเตะจมูกนักปรุงเบียร์หน้าใหม่ เขาก็เลยค้นพบ ‘ลูกพีช’ ที่นำเข้ามาขายจากตอนใต้ของฝรั่งเศสริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์และมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด
ถึงแม้ลูกพีชจะมีหลากหลายพันธุ์ แต่ไม่นานเขาก็ค้นพบว่า สายพันธุ์ Baby Gold & Catherine เป็นสายพันธุ์ที่พิเศษกว่าสายพันธุ์อื่น เพราะมีกลิ่นหอมจากธรรมชาติ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และคงความสดใหม่ได้นานกว่าสายพันธุ์อื่น เหล่านักปรุงเบียร์จึงตัดสินเลือกพีชสายพันธุ์นี้มาทำเป็นส่วนผสมเครื่องดื่มวีทประจำซัมเมอร์
ผลไม้ธรรมดาที่เต็มไปด้วยตำนาน
แม้ลูกพีชจะเป็นผลไม้ธรรมดาที่เราสามารถหาซื้อกันได้ตามท้องตลาด แต่เจ้าพีชก็มีสารพัดตำนานที่เล่าขานในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการมาถึงในแถบยุโรปจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ที่เขาเป็นผู้นำเข้าลูกพีชหลังจากเอาชนะฝั่งเปอร์เซียได้ ทำให้พีชเป็นที่รู้จักในชาวกรีซและโรมันตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสตกาล
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อทางศาสนาในคัมภีร์ไบเบิ้ลที่เปรียบเทียบป้อมปราการเหมือนต้นพีช (ในไบเบิลใช้คำว่าต้นมะเดื่อ) เพียงแค่เขย่า ผลไม้สุกก็ตกลงมาใส่ปากผู้กินแล้ว เป็นบทที่กล่าวเกี่ยวกับความวิบัติที่เลี่ยงไม่ได้ซึ่งกำลังคืบคลานเข้ามา
แต่ก็มีบางความเชื่อที่มองว่าพีชสะท้อนความสุขของชีวิต ความพึงพอใจที่เต็มไปด้วยความสุขจากสุขภาพ การงาน ความรักและความสัมพันธ์ที่ดี และยังเป็นช่วงเวลาที่ความปรารถนาจะเป็นจริง
ประวัติศาสตร์จริง จากจีนสู่ยุโรป
จริงๆ แล้วลูกพีชมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน แหล่งเพาะปลูกแรกตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือระหว่างแอ่งทาริมและเนินเขาทางเหนือของเทือกเขาคุนหลุน ต่อมาแพร่กระจายมาปลูกกันมากขึ้นในแถบเปอร์เซียและอาณาจักรอียิปต์โบราณ
ส่วนการเดินทางมาฝั่งยุโรปนั้น ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นคนนำลูกพีชเข้ามา แต่โดยทั่วไปจะยกเครดิตให้ผู้ค้าส่งแถบเมดิเตอร์เรเนียน (อาจเป็นชาวฟินีเซียนหรือชาวกรีซ) ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งถิ่นฐานทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ก่อนลูกพีชจะแพร่หลายไปทั่วยุโรปและเดินทางไปยังแถบอเมริกาเหนือ
ซึ่งส่วนใหญ่จะยังจำกัดการเพาะปลูกเฉพาะในสวนของหมู่คนชั้นสูง จนกระทั่งศตวรรษที่ 19 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มปลูกลูกพีชเชิงการพาณิชย์ แล้ววิวัฒนาการการปลูกถ่ายกิ่งพันธุ์นำไปสู่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่จนถึงปัจจุบัน
Baby Gold & Catherine สายพันธุ์พีชยอดนิยมในการประกอบอาหาร
ลูกพีชที่ปลูกอยู่ในหลายแห่งบนโลก มีหลากหลายสายพันธุ์มาก แต่ลูกพีชจากยุโรปจะถูกมองว่าดีกว่าภูมิภาคอื่นเสมอ โดยเฉพาะสายพันธุ์ Baby Gold & Catherine จากประเทศฝรั่งเศสที่คนนิยมนำมาทำอาหารและขนมเป็นหลัก
เนื่องจากลูกพีชสายพันธุ์นี้มีกลิ่นหอม รสชาติหวานอมเปรี้ยว และสามารถคงความสดใหม่ได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น มีเนื้อแน่นสีทองสวย อุดมด้วยวิตามินเอมากเป็นพิเศษ สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด อบแห้ง หรือแปรรูปเป็นผลไม้กระป๋อง กระทั่งพีชกระป๋องก็กลายเป็นสินค้าหลักของประเทศแถบนี้ไปแล้ว
วงชีวิตสั้น แต่ประโยชน์ฉันยาว
พีชนิยมปลูกโดยการเพาะเมล็ดในดิน เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย หรือกรวดที่ระบายน้ำได้ ชื่นชอบภูเขาสูงที่มีอากาศหนาวเย็นประมาณ 10 ºC ตลอดทั้งปี จะออกดอกและผลบ้างในปีที่ 3 แต่จะออกผลได้ตลอดทั้งปีในช่วงปีที่ 4-15 สามารถเก็บเกี่ยวได้เฉพาะช่วงมิถุนายนถึงปลายสิงหาคม อย่างไรก็ตาม วงจรชีวิตของพีชนั้นสั้นเมื่อเทียบกับผลไม้อื่น บางภูมิภาคจึงต้องปลูกต้นพีชใหม่ซ้ำทุกๆ 8 – 10 ปี
แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือสรรพคุณของพีชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก มีทั้งไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ แม็กนีเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและวิตามินบีบางชนิด ซึ่งจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ปกป้องแสงแดด ทำให้สุขภาพดีทั้งภายในและภายนอกทีเดียว
แรงบันดาลใจของงานศิลปะ
แม้กระทั่งในวงการศิลปะ ลูกพีชเองก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน โดยมีให้เห็นตั้งแต่ภาพวาดบนฝาผนังสองชิ้นในเฮอร์คิวลาเนียม – เมืองโรมันโบราณในประเทศอิตาลี – ที่ปัจจุบันถูกแสดงในพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติในเมืองเนเปิลส์
ต่อมาในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาก็มีศิลปินหลายคนที่มักจะวาดรูปลูกพีชประกอบในผลงาน เช่น ผลงาน Girl with Peaches ของ วาเลนติน เซรอฟ (Valentin Serov) ศิลปินชาวรัสเซียที่วาดเด็กสาวนั่งอยู่บนโต๊ะในมือถือลูกพีช หรือศิลปินบางคนก็วาดพีชในเชิงสัญญะแทนหัวใจก็มี
ส่วนในปัจจุบันสีส้มอมชมพูของพีช ยังเป็นเทรนด์ของสีพาสเทลที่นิยมในวงการแฟชั่น ไม่ว่าจะแต่งหน้า ทำสีผม หรือแต่งตัวสีพีชๆ ก็รอด เป็นความสวยหวานละมุนที่สาวทุกคนโปรดปราน
สูตร 6+1 กับเครื่องดื่มวีทผสมพีชประจำซัมเมอร์
ก่อนหน้านี้เครื่องดื่มวีทประจำหมู่บ้านฮูการ์เด้น ขึ้นชื่อด้วยรสชาติเฉพาะตัวจากส่วนผสมหลัก 6 อย่าง ได้แก่ ข้าวสาลี, น้ำแร่ธรรมชาติ, ฮ็อป, ยีสต์, เปลือกส้มเคียวราเซา (Curacao) และเมล็ดผักชี หมักบ่มกันจนเกิดเป็นรสชาติเฉพาะตัว
แต่อีกหนึ่งส่วนประกอบใหม่ที่ทำให้สูตรเฉพาะซัมเมอร์นี้สมบูรณ์มากขึ้นก็คือ สารสกัดจากพีชสายพันธุ์ Baby Gold & Catherine จากแหล่งปลูกที่อุดมสมบูรณ์แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาเติมเต็มส่วนผสม ทำให้เครื่องดื่มมีกลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวจากธรรมชาติแท้ๆ เหมาะสำหรับสร้างความเพลิดเพลิน และสร้างความสดชื่นผ่อนคลายในช่วงอากาศร้อนแบบนี้
สกัดจากน้ำพีชแท้ๆ และผลิตอย่างพิถีพิถัน
เมื่อเลือกพีชสายพันธุ์ดีที่สุดมาแล้ว กระบวนการผลิตก็ต้องยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
เริ่มจากการสกัดน้ำเข้มข้นจากลูกพีชธรรมชาติ เพื่อดึงเอารสชาติ กลิ่นหอม และสีที่แท้จริงออกมา ก่อนจะนำไปผสมในขั้นตอนการผลิตที่จะทำการหมักบ่มแบบลอยผิว (Double Fermentation) ถึง 2 ครั้ง แล้วบรรจุลงขวดทันทีโดยไม่ผ่านการกรองใดๆ (Unfiltered) เราจึงเห็นตะกอนจากธรรมชาตินอนก้นอยู่
ผลลัพธ์ที่ได้คือเครื่องดื่มสีเหลืองปนส้มแบบธรรมชาติของผลพีชอย่างที่เราเห็นนั่นเอง
ดีไซน์น่ารักจากศิลปินฝรั่งเศส
บรรจุภัณฑ์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยรายละเอียดสุนทรียะ เมื่อ Packaging กระป๋องอะลูมิเนียม ขนาด 500 ml. ได้รับการออกแบบโดยศิลปินฝรั่งเศสผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เขาเลือกใช้สีพีชโทนหวานสดใส พื้นหลังขาวสะอาด ตัดกับภาพวาดสีน้ำรูปลูกพีชสายพันธุ์ยุโรป เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์เครื่องดื่มวีทประจำหมู่บ้านฮูการ์เด้นคุณภาพระดับโลก และสร้างการจดจำในชั้นวางให้โดดเด่นจากเครื่องดื่มชนิดอื่น
4 ขั้นตอนการดื่มแบบฉบับฮูการ์เด้น
4 Step of Drinking เป็นวิธีการดื่มที่จะดึงรสชาติที่แท้ทรูของเครื่องดื่มออกมา โดยเริ่มจาก
1. ใช้แก้วหกเหลี่ยมแบบฉบับดั้งเดิมของหมู่บ้านฮูการ์เด้นที่ต้องแช่เย็นจัด
2. บรรจงรินเครื่องดื่มวีทผสมพีชใส่แก้วให้ได้ประมาณ 2 ใน 3 ส่วนแล้วหยุด
3. จากนั้นหมุนกระป๋องวนๆ ไปรอบๆ เพื่อให้ตะกอนธรรมชาติที่นอนก้นอยู่กระจายตัว
4. แล้วค่อยๆ รินเครื่องดื่มที่เหลือก็พร้อมดื่มอย่างเพลิดเพลินทันที
นี่เป็นเอกลักษณ์การดื่มเพื่อให้ได้อรรถรสสูงสุด และเป็นธรรมเนียมที่เล่าขานกันมากกว่า 500 ปี
จับคู่อาหารหลากหลาย ได้ทั้งถั่ว ของว่าง และสเต็ก
การดื่มระหว่างรับประทานอาหารเป็นกิจกรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยแต่ละเครื่องดื่มก็จะมีอาหารที่ทานแล้วส่งเสริมรสชาติให้อร่อยมากขึ้น อย่างเครื่องดื่มวีทผสมพีชนี้มีคำแนะนำว่าให้ดื่มคู่กับถั่วพีแคนอัลมอนด์ หรือจำพวกขนมของว่าง Homemade Trail Mix ก็เข้ากัน แต่ถ้าจริงจังขึ้นมาหน่อย แนะนำให้ลองดื่มคู่กับ สเต็กเนื้อ สเต็กหมู ที่ต่างก็เข้ากันได้อย่างลงตัว เพราะรสชาติของพีชจะช่วยเพิ่มรสหวานให้มื้ออาหารของคุณจนประทับใจไม่รู้เบื่อแน่นอน
สำหรับใครที่อยากลิ้มลองรสชาติเครื่องดื่มวีทผสมพีช ประเทศไทยจะออกวางจำหน่ายเฉพาะช่วงซัมเมอร์ในรูปแบบกระป๋อง 500 ml. เป็นระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น! สาวกพีชทุกคนต้องห้ามพลาดเลยนะ