ย้อนกลับไปช่วงปี 1950 โปรเจคเตอร์แบบ CRT ถือกำเนิดขึ้น
โดยลักษณะเด่นของเครื่องก็คือมีเลนส์สามสี แดง เขียว น้ำเงิน เมื่อปรับมุมตกกระทบของแสงทั้งสามสีให้ซ้อนทับกัน ภาพที่มีสีสันสดใสก็จะไปปรากฎอยู่บนพื้นผิวต่างๆ ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะถูกพัฒนาเป็นโปรเจคเตอร์แบบ LCD ที่คนส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกันตอนสมัยเรียน
แต่โปรเจคเตอร์ทั้งสองชนิดนั้นต่างก็ใช้หลอดภาพเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งมักมีอายุการใช้งานสั้น และมีข้อจำกัดหลายข้อ ‘เลเซอร์โปรเจคเตอร์’ จึงถูกพัฒนาขึ้น เพื่อนำพาเทคโนโลยีการฉายภาพก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง
เราขออนุญาตขึ้นสไลด์และฉายภาพให้เห็นความแตกต่างจากโปรเจคเตอร์ระบบหลอดภาพ ที่ทำให้เลเซอร์โปรเจคเตอร์เป็นนวัตกรรมความสว่างสดใสแห่งอนาคต
โปรเจคเตอร์แบบ CRT ที่นิยมใช้กันในสมัยก่อนนั้นจะมีหลอดรังสีแคโทด 3 หลอดเป็นแหล่งกำเนิดแสง ก่อนจะฉายภาพผ่านเทคโนโลยีเลนส์สามสี ได้แก่ แดง เขียว น้ำเงิน แล้วควบรวมทั้งสามสีฉายออกมาเป็นภาพบนพื้นผิว จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโปรเจคเตอร์ 3 ตา ต่อมาได้พัฒนามาเป็นแบบ LCD ที่ใช้หลอดไฟ ULTRA HIGH POWER เป็นแหล่งกำเนิดแสง และใช้เทคโนโลยีกระจกสะท้อนกรองแสงเพื่อแยกแสงออกเป็นสามสี
แต่เมื่อเราสามารถใช้แสงเลเซอร์เป็นแหล่งกำเนิดแสงได้ ประสิทธิภาพของเลเซอร์โปรเจคเตอร์ก็สว่างไสวไม่มีหลอดภาพไหนเทียบได้เลย
ด้วยพลังการถ่ายทอดระดับความสว่างได้สม่ำเสมอทั้งภาพ ให้สีสันที่คมชัดกว่าโปรเจคเตอร์ที่ใช้หลอดภาพ อีกทั้งแหล่งกำเนิดแสง หรือ Laser Light Source นั้นก็ไม่ต้องใช้เวลาในการวอร์มตัวเองจนความร้อนได้ที่ พัดลมระบายความร้อนในเลเซอร์โปรเจคเตอร์จึงทำงานน้อยกว่า ลดเสียงรบกวนไปได้เยอะเลย ยังไม่นับว่าอายุการใช้งานก็มากกว่าหลอดภาพ ที่ยิ่งใช้ก็ยิ่งเสื่อมสภาพ สีสันของภาพหม่นลงไปตามกาลเวลา
แค่นี้ก็พอจะเห็นภาพแล้วว่าเลเซอร์โปรเจคเตอร์เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่ Epson ทำให้เลเซอร์โปรเจคเตอร์เป็นได้มากกว่านั้น ด้วยการเป็นแบรนด์แรกที่พัฒนาโดยนำแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์ แผง Inorganic LCD และวงล้อเรืองแสงเข้าด้วยกัน หรือที่เรียกว่า 3LCD
3LCD คือเทคโนโลยีฉายภาพที่ทำให้เลเซอร์โปรเจคเตอร์ของ Epson ล้ำหน้าไปกว่าใคร ด้วยชิป 3 แผงที่แยกออกจากกันเพื่อสร้างแสงสีแดง เขียว น้ำเงิน โดยเฉพาะ ทำให้สีที่ฉายออกมาสดใสเหมือนจริง แสดงค่าสีได้กว้างกว่าปกติถึง 3 เท่า เก็บครบได้ทุกเฉด ต่างจากโปรเจคเตอร์ทั่วไปที่ใช้เทคโนโลยี 1 Chip DLP ที่ใช้วงล้อสีหมุนให้เกิดแสงสีแดง เขียว น้ำเงินตามลำดับ และผสมเป็นสีต่างๆ ที่จอรับภาพ ซึ่งอาจทำให้ภาพที่ฉายออกมาเป็นเส้นสีและพร่ามัว ทำให้เกิดปัญหา ‘Rainbow Effect’
ข้อดีข้อสำคัญอย่างการประหยัดพลังงานที่มากกว่า เลเซอร์โปรเจคเตอร์ของ Epson ก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน เพราะช่วยยืดอายุการใช้งานยาวนานถึง 20,000 ชั่วโมง สามารถฉายภาพในค่าความสว่างเท่ากับโปรเจคเตอร์ทั่วไป แต่ใช้กำลังไฟฟ้าน้อยกว่า ได้ประสิทธิภาพสูงไม่เปลี่ยน แถมไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาอีกด้วย ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย Maintenance และประหยัดค่าไฟ สบายกระเป๋าแน่นอน
เมื่อใช้เลเซอร์ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดภาพ ผลที่ตามมาก็คือปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพราะในกระบวนการผลิตหลอดภาพนั้นมีสารปรอทผสมอยู่ด้วย แค่หันมาใช้เลเซอร์โปรเจคเตอร์ก็เหมือนช่วยโลกทางอ้อม แถมใช้งานได้นานกว่าหลอดภาพอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้วเลเซอร์โปรเจคเตอร์ของ Epson ยังมีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง เพราะระบบระบายความร้อนถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้หลายรูปแบบได้ยืดหยุ่นกว่า ไม่ว่าจะเอาเครื่องไปติดตั้งตรงไหนก็หายห่วง
คงจะเห็นกันแล้วว่าเลเซอร์โปรเจคเตอร์ตอบโจทย์ยุคปัจจุบันมากแค่ไหน ทั้งประหยัดพลังงาน ประหยัดเงินในกระเป๋า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
และเมื่อเทคโนโลยี 3LCD เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะ Epson ที่ทำให้เลเซอร์โปรเจคเตอร์แสดงศักยภาพได้มากกว่าเดิม ผสมผสานกับดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานรูปแบบต่างๆ แล้ว ก็ยิ่งทำให้โปรเจคเตอร์ของ Epson ช่วยตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย เช่น งาน Mapping ภาพนิทรรศการ สินค้า ป้ายโฆษณาลงบนพื้นผิวต่างๆ เปิดโอกาสให้นักออกแบบได้เล่นสนุกกับการฉายภาพที่ไม่จำกัดสถานที่ หรือจะฉาย Mapping กลางแจ้งบนอาคารขนาดใหญ่ก็ทำได้เช่นกัน
หรือจะนำมาใช้เพื่อความบันเทิงภายในบ้านก็ได้ เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ฮิตซื้อโปรเจคเตอร์เอาไว้ดูซีรีส์หรือหนังเรื่องโปรดแบบจอยักษ์ ให้อารมณ์เหมือนมีโรงภาพยนตร์ส่วนตัว ซึ่ง Epson ก็มีเลเซอร์โปรเจคเตอร์ระยะฉายภาพสั้นที่สามารถวางใกล้ผนังได้เลย ไม่ต้องหาที่วางหรือแขวนบนเพดานห่างจากจอหลายเมตรเหมือนแต่ก่อน ประหยัดพื้นที่ไปได้เยอะ
ถ้ากำลังมองหาโปรเจคเตอร์ที่จะช่วยฉายไอเดียให้กลายเป็นภาพคมชัดและสีสันสวยสดใสดังใจ เลเซอร์โปรเจคเตอร์จาก Epson คือคำตอบที่พร้อมฉายแสงไปกับคุณ