เราคงเคยได้ประโยคที่ว่า “เรามีความคิดอย่างไร ชีวิตของเราก็จะเป็นอย่างนั้น” หรือ “ถ้ายอมแพ้ตั้งแต่ต้น ก็ไม่มีทางชนะ” นั่นเป็นเพราะความคิดและจิตใจของคนเรานั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตเรา ตั้งแต่การกระทำ หรือแม้กระทั่งสุขภาพร่างกาย
ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดมาก อย่างเคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลามีเหตุการณ์สำคัญๆ เช่น จะเข้าสอบ จะไปสัมภาษณ์งาน จะต้องมาเกิดท้องเสียทุกที จากที่กังวลประมาณหนึ่ง ยิ่งกังวลใจกันเข้าไปใหญ่ เพราะไหนจะธุระสำคัญ และยังต้องมาสาละวนกับการปวดท้องเข้าห้องน้ำ เหตุผลที่เป็นอย่างนั้น ก็เพราะในภาวะเครียดจะเกิดการปรับระดับของสารเซโรโทนินที่ส่งผลต่อการทำงานของลำไส้ที่ผิดปกติ เลยทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนและโป๊ะแตกกันเข้าไปใหญ่ ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่บ่งบอกว่าสภาพจิตใจคนเรามีผลต่อร่างกาย
ทีนี้ในแง่ของโรคภัยหรือสุขภาพก็ไม่ต่างกัน อย่างในทางการแพทย์เองก็มีการศึกษาหาความเชื่อมโยงระหว่างจิตใจกับร่างกาย หรือที่เรียกว่า Psychoneuroimmunology โดยเฉพาะการศึกษาหาว่าระบบประสาทส่งผลต่อภูมิคุ้มกันอย่างไร
อย่างงานวิจัยของศูนย์มะเร็งมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กโดย ดร. แซนดรา เลวี (Dr. Sandra Levy) ทำการศึกษากับผู้ป่วยหญิงโรคมะเร็งเต้านมจำนวน 75 ราย พบว่า กว่า 51% ของการลดลงของจำนวนเซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติหรือเซลล์ต่อสู้กับมะเร็ง(Natural Killer Cell-NK Cell) นั้นส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะตึงเครียดของผู้ป่วย ได้แก่ การยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ค่อยได้ ขาดกำลังใจ และมีความหดหู่ นอกจากนี้ในงานวิจัยไม่นานมานี้ ที่ทำการศึกษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น จำนวน 125 ราย ก็ยังพบข้อมูลคล้ายๆ กันว่าการมีสภาพจิตใจและอารมณ์ดีของผู้ป่วยส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของเซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติ
พูดอีกอย่างคือ ทัศนคติที่เป็นบวก เช่น การมีอารมณ์ดี การมีกำลังใจ มีความหวัง การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและพร้อมต่อสู้ เป็นยารักษาโรคอย่างหนึ่ง ที่ผู้ป่วยไม่ต้องฉีด ไม่ต้องทา ไม่ต้องกิน แต่ต้องสร้างยานี้ขึ้นมาจากภายใน ซึ่งก็คือภายในความคิดของเราเอง โดยวิธีที่จะช่วยให้มีทัศนคติที่เป็นบวกได้ อย่างเช่น
ดีลกับปัญหา สบตาความจริง
ในหนังสือ Life Strategies ของ ดร. ฟิลลิป แม็กกรอว์ (Dr. Phiilip McGraw) เขียนไว้ว่า สิ่งแรกที่เขาเห็นว่ามีผลทำให้คนเราเดินหน้าออกจากปัญหาได้ ก็คือ การยอมรับความจริง เพราะการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดไปแล้ว ทำให้เราไม่มัวแต่มาวนเวียนอยู่กับปัญหา เช่นว่า เอาแต่ถามตัวเองว่า ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้กับฉัน? ซึ่งสุดท้ายแล้วการเอาแต่ถามตัวเองไม่ช่วยแก้อะไร หากการลุกขึ้นมายอมรับว่ามันเกิดขึ้นไปแล้ว และจะเอาไงกับมันต่อต่างหาก คือก้าวแรกของการหลุดจากปัญหา
ใช้ความรักเป็นพลังชีวิต
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นว่าผู้ป่วยมีกำลังใจต่อสู้กับโรค ไม่ใช่เหตุผลเพราะตัวเองเป็นอันดับแรก แต่เพราะเพื่อผู้อื่นหรือสิ่งอื่น เช่น สู้เพื่อลูก สามี/ภรรยา พ่อแม่ หรือกระทั่งความฝัน ยกตัวอย่างสตีฟ จ็อบส์(Steve Jobs) ที่หลายคนทราบกันดีว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน จ็อบส์เองก็เป็นคนหนึ่งที่มีใจสู้กับโรคร้าย นั่นเพราะจ็อบส์อยากมีชีวิตต่อไปนานๆ เพื่อสานฝันหรืองานที่ตัวเองรัก ด้วยความปรารถนาที่จะให้โลกได้พบกับเทคโนโลยีเจ๋งๆ จากบริษัทแอปเปิ้ล ดังนั้น วิธีหนึ่งที่ช่วยดึงพลังใจออกมาได้ ก็คือการมีความรัก และใช้ความรักเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้
มองโลกสวยด้วยมุมมองบวก
การช่วยให้ตัวเรามีทัศนคติที่เป็นบวกได้อีกวิธีหนึ่งก็คือ การมองโลกในแง่ดี เช่น มองการเจ็บป่วยเป็นโอกาสให้ตัวเองได้ทบทวนคุณค่าสำคัญในชีวิต หรือเป็นโอกาสได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการดูแลสุขภาพใหม่ กล่าวคือ แทนที่จะมองว่าโรคภัยเป็นเรื่องโชคร้ายซึ่งรั้งแต่จะทำให้หดหู่และท้อใจลงเรื่อยๆ ก็เปลี่ยนมามองว่า เราจะเรียนรู้จากเรื่องนี้อย่างไรได้บ้าง หรือจะใช้ประโยชน์จากวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างไร ก็จะช่วยคลายความท้อแท้และเปลี่ยนมาเป็นพลังด้านบวกได้แทน
ทั้งนี้ แนวคิดการรักษาโรคมะเร็งที่ไม่ใช่แค่พึ่งพาวิธีการรักษาจากภายนอก แต่ยังสนับสนุนการรักษาจากภายใน คือมาจากกำลังใจของตัวผู้ป่วย ก็ยังเป็นแนวคิดสำคัญของ “โรงพยาบาลวัฒโนสถ” โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ในเครือ BDMS
โดยล่าสุด โรงพยาบาลวัฒโนสถได้ร่วมกับนักร้องดัง “แม็กซ์ ณัฐวุฒิ เจนมานะ” (Max Jenmana) ทำเพลง “เราจะไม่แพ้” ขึ้นมา เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับคนที่กำลังท้อแท้ในการต่อสู้กับโรคนี้ และยังทำเป็นมิวสิกวิดีโอบอกเล่า ผ่านชีวิตหญิงสาวที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ แต่เธอกลับต้องมาเจอกับโรคร้ายที่ไม่คาดคิด ก็คือ “มะเร็ง” ทำให้การสานฝันของเธอต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ แต่สุดท้ายหญิงสาวคนนี้ก็สามารถเอาชนะโรคร้ายและทำตามความฝันได้สำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัว เพื่อน ทีมแพทย์ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ใจที่สู้ของผู้ป่วยเอง
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังเปิดโอกาสให้เพลง “เราจะไม่แพ้” ได้เป็นหนทางในการช่วยเหลือผู้ป่วยคนอื่นๆ ด้วยการนำรายได้ทั้งหมดจากการดาวน์โหลดเพลงเพื่อมอบให้มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป
Link ฟังเพลง : https://www.facebook.com/Wattanosoth/videos/2254552724572328/
สามารถดาวน์โหลดเพลง “เราจะไม่แพ้” ได้ที่ *492292
อัพเดตข่าวสารและสาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับสุขภาพได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/Wattanosoth/
Youtube Channel : https://www.youtube.com/bangkokhospital
Website : https://www.bangkokhospital.com/wattanosoth/web/th และ เบอร์โทร 1719
อ้างอิง
https://www.self.com/story/stress-diarrhea-and-constipation
Introduction to the Philosophy of Science by Kenneth F. Schaffner & Wesley C. Salmon