ปกติแล้วมนุษย์เราเวลาป่วยเป็นอะไร ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนในรูปแบบต่างๆ ว่ากำลังป่วยอยู่นะ ช่วยดูแลดีๆ หน่อย ถ้ายังเผลอใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ร่างกายก็อาจลงโทษเราด้วยอาการเจ็บป่วยรุนแรงไปเลย
สำหรับ ‘โลก’ แล้ว หลายครั้งที่ส่งสัญญาณว่ากำลังป่วยหนัก ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น สิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นพิษ สัตว์ทะเลที่ล้มหายตายจากจำนวนมาก ระบบนิเวศทางธรรมชาติที่กำลังล่มสลาย และอาการอื่นๆ อีกมากมาย แต่มนุษย์เรากลับไม่ได้สนใจมากนัก หรือสุนทรพจน์ของสาวน้อย Greta Thunberg ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอะไรเท่าไร อาจเป็นเพราะอาการป่วยของโลกไม่ได้มีผลกระทบกับมนุษย์เราโดยตรง แต่ถ้าจู่ๆ วันหนึ่งโลกเกิดล่มสลาย หัวใจวายไปต่อหน้าต่อตา โลกไม่สามารถเป็นพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เราจะทำอย่างไร
หนทางช่วยเหลือโลกของมนุษย์เรา ในฐานะที่ยังต้องพึ่งพาอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ อาจไม่ต้องเคลื่อนไหวหรือทำอะไรใหญ่โต เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปสู่การลดขยะพลาสติก ผ่านกิจกรรม ‘ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า’ ก็เป็นการปั๊มหัวใจให้โลกกลับมาแข็งแรงแล้ว
โลกกำลังเป็นไข้ตัวร้อน
ถ้าหากเปรียบอาการป่วยของโลก อย่างอุณหภูมิของอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นน่าจะคล้ายๆ กับอาการที่เราป่วยเป็นไข้ตัวร้อน แล้วอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น โดยปกติแล้วตั้งแต่ปี 1880 เป็นต้นมา โลกจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเป็นปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 0.8 องศาเซลเซียสทุกๆ สิบปี แต่นับตั้งแต่ปี 1975 เป็นต้นมา อุณหภูมิโลกกลับสูงขึ้นถึง 0.15 – 0.20 องศาเซลเซียส หรือเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สาเหตุก็มาจากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกระทำของมนุษย์ อย่างเช่นการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมไปถึงก๊าซมีเทนที่เกิดจากการฝังกลบขยะที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ หลายคนอาจคิดว่าอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นนิดหน่อย ไม่น่าจะส่งผลอะไรต่อเราสักเท่าไร แต่จริงๆ แล้ว เหตุวินาศภัยยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ล้วนเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น ทั้งภาวะแห้งแล้งรุนแรง น้ำท่วมฉับพลัน หรือกระทั่งคลื่นความร้อนที่เกิดในยุโรป ที่ส่งสัญญาณว่าโลกกำลังป่วยและย้ำเตือนให้เราเริ่มตระหนักกันได้แล้ว
โลกกำลังมีอาการอาหารไม่ย่อย
เวลาที่เราเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาหารไม่ย่อย อาจทำให้เรารู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว หรือหนักเข้าจนถึงขั้นอาเจียน ลองจินตนาการดูว่าถ้าเป็นโลกที่กระเพาะเต็มไปด้วยขยะพลาสติก ไม่สามารถย่อยสลายได้ในเวลาอันสั้น สะสมจนกลายเป็นกองขยะมหึมา อาการของโลกจะน่าเป็นห่วงขนาดไหน เพราะด้วยปริมาณการผลิตพลาสติกทั่วโลกที่สูงถึง 380 ล้านตันต่อปี แต่กลับมีพลาสติกเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล และกว่า 8 ล้านตันที่ไหลลงทะเลจนทำให้เกิดภาพสะเทือนใจของสัตว์ทะเลที่ล้มตาย ซึ่งที่มาของขยะพลาสติกที่มากที่สุดก็ไม่ได้มาไกลจากไหน มาจากแพ็คเกจจิ้งใส่ของ แก้วน้ำ หลอด ถุงก๊อบแก๊บ ฯลฯ ซึ่งเป็น Single-Use พลาสติกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้นั่นเอง สิ่งที่น่าตกใจไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อมนุษย์เราโดยตรงด้วย จากผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย แคนาดา พบว่า เรากลืนกินชิ้นส่วนไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย เฉลี่ยถึงปีละกว่า 5 หมื่นอนุภาคที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารและน้ำดื่ม และยังหายใจเอาไมโครพลาสติกในอากาศเข้าไปอีกในปริมาณเกือบเท่ากันอีกด้วย
แม้ว่าจะมีการรณรงค์เรื่องการลดใช้พลาสติกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เกิดผลให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก เพราะด้วยคุณสมบัติของพลาสติกเองที่เป็นวัสดุอันเยี่ยมยอด ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราแสนสะดวกสบาย เมื่อมีเหตุผลให้ต้องเลิกใช้หรือใช้น้อยลงก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก การเริ่มต้นจึงต้องเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลาสติกก่อน ซึ่งทำได้ง่ายๆ ผ่านกิจกรรมโครงการ ‘ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า’ ด้วยการลดใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้ง อย่างเช่น แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก กล่องพลาสติก ให้น้อยลง หันมาใช้วัสดุอย่างอื่นทดแทน ก็เป็นการช่วยให้โลกย่อยอาหารได้สบายขึ้นแล้ว
โลกกำลังติดเชื้อทางเดินหายใจ
เช่นเดียวกับภาวะโลกร้อน และปริมาณขยะพลาสติกล้นเมือง สาเหตุที่ทำให้โลกติดเชื้อทางเดินหายใจก็มาจากการกระทำของมนุษย์เราเช่นกัน คงไม่ต้องบอกว่าอากาศที่เราหายใจอยู่ทุกวันนี้นั้นเลวร้ายขนาดไหน PM 2.5 ที่หวนกลับมาหลายต่อหลายครั้งก็น่าจะบอกอะไรกับเราได้ดี ข้อมูลจาก WHO เปิดเผยว่าทุกวันนี้กว่า 9 ใน 10 ของคนทั่วโลกต้องหายใจเอาอากาศเสียๆ เข้าไป และมีงานวิจัยล่าสุดบอกว่ามีผู้เสียชีวิตจากอากาศเป็นพิษถึงปีละกว่า 9 ล้านคน ในไทยว่าอากาศแย่แล้ว แต่ยังไม่เท่ากับประเทศในแถบเอเชียใต้อย่าง บังกลาเทศ ปากีสถาน และอินเดีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอากาศแย่ที่สุดในโลกของปี 2018 ซึ่งกว่า 91 ของผู้ที่เสียชีวิตมีสาเหตุจากมลพิษทางอากาศ ซึ่งนอกจากจะทำให้สุขภาพย่ำแย่แล้ว มลพิษในอากาศยังส่งผลกระทบไปยังภาพรวมของเศรษฐกิจของโลก ทำให้สูญเสียรายได้จากแรงงานที่เสียชีวิต รวมไปถึงการสูญเสียงบประมาณในการจัดการเรื่องอากาศอีกมหาศาล
หัวใจโลกกำลังล้มเหลว มาช่วยกันปั๊มหัวใจให้โลกกลับมาแข็งแรง
อาการของโลกที่กำลังป่วยหนักด้วย 3 อาการที่กล่าวมาข้างต้น คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้หัวใจของโลกกำลังล้มเหลว พื้นที่ที่เราต้องอาศัยอยู่ทุกวันอาจไม่ได้ทำให้เรารู้สึกสบายอย่างเดิม ในฐานะของผู้อยู่อาศัย เราก็ควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือโลกไหม ‘ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า’ จึงเป็นแคมเปญที่เกิดขึ้น เพื่อให้เราทุกคนได้ช่วยเหลือโลกด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด ด้วยการลดใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้ง อย่างเช่น แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก กล่องพลาสติก ฯลฯ ให้น้อยลง หันมาเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองด้วยการใช้วัสดุอย่างอื่นทดแทน ความพิเศษคือถ้าหากอัพโหลดภาพถ่ายการใช้ไปที่เว็บไซต์ www.ลดเปลี่ยนโลก.com จะเป็นการสะสมคะแนนแลกเปลี่ยนเป็นเงินสนับสนุนงานวิจัยเพื่อสิ่งแวดล้อมและลดปัญหามลภาวะให้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รวมทั้งเปลี่ยนคะแนนสะสมส่วนบุคคลเป็นของรางวัลได้อีกด้วย เพียงเท่านี้ก็เป็นการช่วยปั๊มหัวใจให้โลกกลับมาแข็งแรงแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://earthobservatory.nasa.gov/world-of-change/DecadalTemp
https://www.bbc.com/thai/features-46389037
https://www.bbc.com/thai/features-48541027