เฝ้ารอวันหยุดยาวกันอยู่รึเปล่า?
แต่ละวินาทีที่ผ่านไปในแต่ละวัน มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจเผลอเหม่อมองหน้าต่าง แอบวางแผนทริปวันหยุดในใจ นั่งทำงานได้สักพักก็ลืมตัวไถฟีดเฟซบุ๊กอ่านรีวิวที่เที่ยวใหม่ๆ เพื่อหลีกหนีจากลูปกิจวัตรที่วนเวียนตามเข็มนาฬิกาแบบไม่มีวันจบสิ้น
ว่ากันว่าคนไทยทำงานหนักเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย จากการวิเคราะห์ของนิตยสาร Journal of Management การบ้างาน โหมงานหนักนั้นทำร้ายร่างกายเราได้จริงๆ และมีผลพิสูจน์แล้วว่าต่อให้เป็นสมาชิกระดับพรีเมียมของชมรมคนรักงานที่แอบขนเอกสารไปนั่งปั่นจนดึกดื่นที่บ้าน ก็กลับไม่ได้ทำให้เราเป็นพนักงานที่ดีขึ้นแต่อย่างใด เพราะเมื่อสุขภาพถอดถอย สิ่งที่รอคอยอยู่ปลายทางก็หนีไม่พ้นความยุ่งยากที่มาพร้อมกับความเจ็บป่วยทางกาย ความสัมพันธ์ที่พังทลาย อย่างที่ Malissa Clark ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่ง UGA กล่าวไว้ว่า การลุยงานหนักตลอดเวลานั้นส่งผลให้สมองมีกลไกการทำงานที่ไม่ต่างจากการใช้สารเสพติดเลยทีเดียว
หากเหนื่อยจากงานหนัก สิ่งที่ต้องทำคือหาเวลาพักไม่ใช่หาทางลาออกลูกเดียว โดยเฉพาะมิลเลนเนียล ซึ่งไม่ได้ให้คุณค่าแก่การสะสมเงินทองไว้ใช้ยามแก่ หรือความเป็นใหญ่เป็นโตแบบคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ จึงมีแนวโน้มสูงมากที่จะลาออกจากงานที่เพิ่งทำได้ไม่กี่เดือน หลายคนไม่รู้ว่าการทำงานที่ว่าหนักแล้ว การหาเวลาพักผ่อนให้บาลานซ์ชีวิตได้ ไม่บ้างานจนเกินไป หรือเอื่อยเฉื่อยจนสนิมเกาะ ก็เป็นเรื่องที่ยากไม่แพ้กัน เพราะต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตไม่ให้ตัวเองกลายเป็นเครื่องจักรกลที่ทำงานตลอดวันตลอดคืน
ไม่ต้องรอหยุดยาวถึงค่อยออกไปใช้ชีวิตก็ได้ เพราะสำหรับบางคน ขอแค่ได้เปลี่ยนสถานที่นอน หนีจากชีวิตที่จำเจทุกวัน ก็นับว่าเป็นการพักผ่อนแล้ว เติมพลังชีวิตด้วยการใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่าด้วยสิ่งง่ายๆ ที่ใกล้ตัว จึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการชาร์จแบตให้เต็มที่ก่อนกลับไปลุยงานกันอีกครั้ง
ดูพระอาทิตย์ตกดิน
เหมือนที่หมออิมบอกกับนายยุ่น ในฟรีแลนซ์…ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (2014) ว่าให้หาเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกดินกับเขาบ้าง เพราะมีการศึกษาพบว่าช่วงเวลาที่นั่งมองดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปนั้น คนที่เฝ้าดูจะรู้สึกเหมือนกับเวลาเดินช้าลงอย่างมีนัยสำคัญ ชะลอสปีดของชีวิตให้ช้าลงเพื่อดื่มด่ำโมเมนต์ตรงหน้า อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นการเสียเวลาแต่ให้ลองมองว่าเป็นการเฉลิมฉลองการมาถึงของค่ำคืน อย่างที่ผู้คนในซานโตรินี่ ฮาวาย หรือมาวอิ ใช้เวลาไม่กี่นาทีนี้ร้องไชโยกึกก้อง ส่งเสียงปรบมือเพื่อขอบคุณสิ่งต่างๆ ที่ช่วยให้ผ่านพ้นมาได้อีกวัน
สัมผัสสายน้ำ
ไม่ว่าจะลงไปแหวกว่าย หรือนั่งมองระลอกคลื่นฟังเสียงของกระแสน้ำเฉยๆ ก็ทำให้เรามีความสุขได้ง่ายๆ แม้จะไม่ได้มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดถึงผลของสายน้ำที่มีต่ออารมณ์ของมนุษย์โดยตรง แต่แน่นอนว่าในทางใดทางหนึ่ง การได้อยู่กับน้ำซึ่งเป็นสิ่งที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนเรามาตั้งแต่บรรพกาล ทำให้จิตใจของเราสงบ ผ่อนคลายได้อย่างน่าฉงน ซึ่งส่งผลให้สมองสร้างสารโดปามีน เซโรโทนิน และออกซิโทซิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมา และการสานสัมพันธ์กับธรรมชาตินั้นก็ยังเป็นประโยชน์สำหรับคนที่คร่ำเคร่งกับการทำงาน ให้เวลาตัวเองได้คิดทบทวน จัดระเบียบความยุ่งเหยิงในหัวให้เข้าที่เข้าทางด้วย
กินดื่มอย่างรื่นรมย์
วันหยุดทั้งทีอย่าหมกตัวอยู่ในห้องสั่ง fast food ผ่านแอปฯ มากินเหงาๆ คนเดียว แล้วใส่ไม่ยั้งจนพุงเต่ง เพราะมองว่าเป็นเมจิกโมเมนต์ในวันหยุดซึ่งนานทีมีครั้ง (แต่จริงๆ ทุกวันที่ออกไปกินข้าวกลางวันก็คิดแบบนี้) จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังเบื้องลึกของผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัย Memphis พบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะกินเยอะกว่าปกติเมื่อออกไปกินอาหารนอกบ้าน เพราะมองว่าเป็นช่วงเวลาพิเศษที่นับเป็นข้อยกเว้น จึงมักจบลงด้วยการกินเยอะเกินพอดี สะสมแคลอรี่มากกว่าที่ร่างกายต้องการจริงๆ ไหนๆ ก็เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ก็ลองเปลี่ยนจากเมนูเดิมๆ ลองชิมอาหารแปลกใหม่ ที่ดีต่อสุขภาพให้ตัวเองเป็นการตอบแทนร่างกายที่เราใช้งานมาอย่างหนักหน่วงดีกว่า
ทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ
“โลกนี้ไม่มีหรอกคนแปลกหน้า จะมีก็แต่เพื่อนที่ยังไม่ได้พบพานกันเท่านั้น” ไหนๆ ก็มาเที่ยวทั้งที อย่าปิดกั้นตัวเองจากโลกที่ไม่คุ้นเคย ลองเปิดใจฟังที่กวีชาวไอริชเขาว่าสักหน่อย อาจจะพบว่ารู้ตัวอีกทีก็มีเพื่อนเพิ่มอีกหนึ่งคนเพียงแค่เริ่มจากการขยับมุมปากส่งยิ้มให้กัน ซึ่งนอกจากจะดีต่อใจแล้วยังดีต่อสมองอีกด้วย เพราะขณะที่มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการทำความรู้จักคนใหม่ๆ หรือแม้แต่การนั่งคุยสัพเพเหระกับเพื่อน เซลล์ประสาทจะหลั่งออกซิโทซินออกมาแบบล้นทะลัก จนทำให้สมองรู้สึกเหมือนได้รับรางวัล ดังนั้นนอกจากให้รางวัลตัวเองเป็นการพักผ่อนในวันหยุดแล้วก็อย่าลืมให้รางวัลสมองด้วยการใช้ช่วงเวลาดีๆ ไปกับคนที่เราสบายใจจะอยู่ด้วย
ยืดเส้นยืดสาย
การพักผ่อนไม่จำเป็นต้องนอนอืดดูซีรีส์ในห้องพักเพียงอย่างเดียว หากต้องการคงความฟิตของร่างกายไว้อยู่เสมอ เพื่อให้พร้อมกลับไปทำงานที่เรารักต่อได้แบบไม่งอแง การออกกำลังกายในวันหยุดนี่แหละที่เราจะได้มีทางเลือกให้ตัวเองมากกว่า ใช้สิทธิ์วันพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นการออกกำลังกายในสถานที่ใหม่ๆ กีฬาใหม่ๆ ทั้งว่ายน้ำ ดำน้ำ ปีนเขา เล่นเซิร์ฟ หรือแม้แต่เดินเล่นริมทะเล ก็ได้ทั้งนั้น ใช้เวลากับการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องถูกจำกัดด้วยเวลาเหมือนทุกวันที่ต้องลากตัวเองไปยิมที่แน่นขนัดหลังเลิกงาน
ทำทุกอย่างที่ว่ามานี้ได้ครบจบในตัวที่ EDGE Central Pattaya คอนโดที่ตั้งอยู่ใจกลางของพัทยากลาง ยกความผ่อนคลายมารวมไว้ให้แบบไม่ยั้ง ทั้ง Hot Party Pool และ Sunset Terrace สระน้ำอุ่นเหนือเส้นขอบฟ้าพร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินที่ชั้น 30 ได้แบบไม่มีสิ่งบดบังรบกวนสายตา เมื่ออาทิตย์ลับตาจะเปลี่ยนมาแช่สระปกติชมดาวก็ไม่ติดขัด หรือจะสัมผัสที่สุดของความเพลิดเพลินและผ่อนคลาย ที่ชั้น 31 ด้วยการว่ายน้ำใน Champagne-Gold Infinity Pool สระว่ายน้ำสีทองแชมเปญที่ถูกออกแบบมาให้ความรู้สึกราวกับได้เป็นส่วนหนึ่งของทะเลตรงหน้า ยิ่งสวยจับใจยามสะท้อนแสงสีทองของดวงอาทิตย์เป็นประกายระยิบระยับ แล้วมาจิบเครื่องดื่มดีๆ บน Sky Lounge พร้อมพบปะผู้คนใหม่ๆ ใน Social Room ที่มีทุกสิ่งตอบรับความสะดวกสบายของทุกคน นอกจากนี้ยังมีฟิตเนสที่ออกแบบมาเพื่อคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ ทั้งเซท Free weight และเครื่องต่อยมวยแบบ Interactive boxing ที่เหมือนมีโค้ชส่วนตัวมาสอนต่อยมวยแบบ 1 ต่อ 1 การตกแต่งภายในและเครื่องออกกำลังกายครบครันพร้อมชมวิวเมืองพัทยา
เปลี่ยนวันหยุดธรรมดา ให้กลายเป็นวันพักผ่อนอันน่าประทับใจไปด้วยกัน ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ เปิดพรีเซลล์ที่ Hilton พัทยา ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมโทร 1685 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://goo.gl/eTe8ya
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.huffingtonpost.com/2014/04/04/make-time-for-sunset_n_5066629.html
https://www.inverse.com/article/36910-oxytocin-love-hormone-brain
https://www.healthytravelblog.com/2014/08/22/why-you-should-exercise-while-on-vacation/
Content by Suwicha Pitakkanchanakul
Illustration by Kodchakorn Thammachart