การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนตัดสินใจ “เลือกแพลตฟอร์ม” ลงทุน
เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) มีความผันผวนอย่างมาก เช่น ปี 2565 เป็นปีแห่งฝันร้ายสำหรับนักลงทุน เมื่อราคาสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทว่าปลายปี 2567 บิตคอยน์ก็กลับมาทำสถิติใหม่อีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดที่ยังเปิดโอกาสสำหรับนักลงทุนอยู่
ด้วยแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจึงมีบทบาทสำคัญต่อผู้ลงทุน การเลือกแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย โปร่งใส และมีมาตรฐาน จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน
บทความนี้เราได้รวบรวมเช็คลิสต์ที่ควรพิจารณาก่อนเลือกใช้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
เช็ค “ความโปร่งใส” ด้วยใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.
แม้โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลจะเต็มไปด้วยโอกาส แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจคือ “ความโปร่งใส” โดยแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าเชื่อถือจะต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงานของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
หากแพลตฟอร์มนั้นไม่มีใบอนุญาต ก็อาจมีความเสี่ยงสูงจากการฉ้อโกง การเก็บสินทรัพย์ลูกค้าอย่างไม่ได้มาตรฐานระบบการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรม หรือปิดตัวลงโดยไม่มีการรับผิดชอบ
ฉะนั้นก่อนจะเทรดกับแพลตฟอร์มใดก็ตาม ลองเข้า เว็บไซต์ ก.ล.ต. แล้วเช็คให้แน่ใจว่า แพลตฟอร์มที่คุณใช้ได้รับใบอนุญาตจริงหรือไม่ ?
เช็ค “ความปลอดภัย” ให้ดี ไม่ใช่แค่คิดไปเอง
โลกสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มไปด้วยแฮ็กเกอร์และโจรไซเบอร์ที่พร้อมขโมยเงินของคุณตลอดเวลา แพลตฟอร์มที่ดีต้องมีระบบป้องกันแน่นหนา ซึ่งหากพูดถึงความปลอดภัยแล้ว คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ “แพลตฟอร์มนี้ป้องกันการแฮ็กได้หรือไม่ ?” แต่ต้องถามให้ลึกไปอีกว่า “แพลตฟอร์มมีมาตรการเรื่องความปลอดภัยอย่างไร มีการตั้งรับเรื่องนี้อย่างไรและสามารถรับผิดชอบต่อประเด็นปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง”
ฉะนั้นมาตรฐานความปลอดภัยที่แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต้องมี คือ
• ระบบรักษาความปลอดภัยระบบ: ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม เช่น การยืนยันตัวตน, การยืนยันตัวตนสองขั้นตอนผ่าน 2FA, การเข้ารหัสข้อมูล, การใช้รหัสเฉพาะเพื่อการถอนทรัพย์สิน (Fund Password) เป็นต้น
• ระบบความปลอดภัยของสินทรัพย์ลูกค้า: มีการเรื่องใช้ผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมาตรฐาน ซึ่งมีการบริหารการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเหมาะสมใน Hot/Cold Wallet หรือการจำกัดที่อยู่กระเป๋าเงินที่สามารถถอนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลควรมีการตรวจสอบสินทรัพย์ของตนเองอย่างสม่ำเสมอทั้งในแง่คุณภาพและจำนวน
• ประวัติการถูกแฮ็ก: ตรวจสอบประวัติว่าแพลตฟอร์มเคยถูกแฮ็กมาก่อนหรือไม่ ? และพวกเขามีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ?
เช็คความปลอดภัยให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มเสมอ เพราะความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการสูญเสียเงินทั้งหมดของคุณไปตลอดกาล
เช็ค “ความรู้” ให้ข้อมูลผู้บริโภค
การลงทุนมีความเสี่ยงจริง แต่ที่เสี่ยงกว่า คือการลงทุนโดยไม่มีข้อมูลอะไรเลย
ทั้งนี้แพลตฟอร์มที่ดีควรให้ข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญแก่ผู้ใช้งาน เช่น อัตราค่าธรรมเนียม สภาพคล่องของตลาด การแสดงผลคำสั่งซื้อขาย (Orderbook) การแจ้งข้อมูลสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัลกับลูกค้าอย่างทันท่วงที หรือข้อมูลที่เป็นความรู้ อย่างบทวิเคราะห์ เทรนด์แนวโน้ม และข่าวสารเกี่ยวกับวงการสินทรัพย์ดิจิทัล ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนมองเห็นภาพรวมของตลาด สร้างความโปร่งใส สามารถบริหารความเสี่ยง และสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ การอัปเดตความเคลื่อนไหวของแพลตฟอร์ม เช่น การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่หรือแนวทางการดำเนินงานในอนาคต ก็เป็นอีกปัจจัยที่สะท้อนถึงความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มนั้นๆ นักลงทุนจึงควรเลือกใช้บริการจากแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลครบถ้วน ไม่ใช่เป็นแค่เพียงแพลตฟอร์มซื้อขายได้ แต่ต้องช่วยให้ทุกคนลงทุนได้อย่างชาญฉลาดด้วย
เหมือนที่ทุกคนเข้าใจแหละว่า ข้อมูลคืออาวุธสำคัญของนักลงทุนเสมอ
เช็ค “ความสะดวก” ใช้งานง่าย ซื้อ-ขาย และฝาก-ถอนคล่อง
ไม่มีใครอยากเสียเวลาหาปุ่มซื้อขาย หรือรอแอปโหลดจนพลาดโอกาสในการลงทุนหรอก แพลตฟอร์มที่ดีต้องออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เสถียร และตอบสนองได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ขณะที่ฟังก์ชันต้องมีครบถ้วน เช่น การออกคำสั่งแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์ของนักซึ่งมีกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกัน
อีกปัจจัยที่สำคัญคือ ความสะดวกในการฝาก-ถอนเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล ระบบต้องรองรับการโอนที่รวดเร็ว มีหลายช่องทาง และไม่ยุ่งยาก เพื่อให้นักลงทุนสามารถควบคุมจังหวะการลงทุนได้แบบเรียลไทม์
ความซับซ้อนของระบบไม่ควรเป็นอุปสรรคในการลงทุน ฉะนั้นแพลตฟอร์มที่ดีต้องมีการออกแบบ UI (User Interface) ที่คลีน ใช้งานง่าย ไม่สร้างความสับสนยุ่งยาก หรือแฝง Dark Pattern ให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าผู้ใช้จะเป็นมือใหม่หรือเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพ ทุกคนควรสามารถเข้าถึงและใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม
เช็ค “ความหลากหลาย” ที่ไม่จำกัดโอกาส
ปิดท้ายที่เช็คลิสต์เล็กๆ ที่ใครหลายมองข้ามกับความหลากหลายของสินทรัพย์ที่แพลตฟอร์มรองรับ
นั่นก็เพราะแพลตฟอร์มที่ดีไม่ควรจำกัดโอกาสของนักลงทุนไว้เพียงเหรียญดังๆ ไม่กี่เหรียญ หากแพลตฟอร์มมีเพียงเหรียญยอดนิยมนั่นอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในเหรียญทางเลือกอื่นๆ หากแพลตฟอร์มรองรับสินทรัพย์ที่หลากหลายก็จะช่วยให้นักลงทุนปรับกลยุทธ์ได้ยืดหยุ่นขึ้น และกระจายความเสี่ยงได้ดียิ่งกว่า
เพราะตัวเลือกที่มากขึ้น ย่อมเท่ากับโอกาสที่มากขึ้นนั่นเอง
“ความโปร่งใส ความปลอดภัย ความสะดวกในการใช้งาน และความหลากหลายของสินทรัพย์”
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Upbit ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับนานาชาติที่ขับเคลื่อนด้วย เทคโนโลยีบล็อกเชนชั้นนำ
ในประเทศไทยเอง Upbit Thailand ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ทำให้นักลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่า ทุกการซื้อขาย ปลอดภัย โปร่งใส และได้มาตรฐานระดับโลก พร้อมระบบความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงและรองรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลาย
เพราะอนาคตของการลงทุน ต้องอยู่บนแพลตฟอร์มที่มั่นคงและเชื่อถือได้ ฉะนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดี ก่อนตัดสินใจ “เลือกแพลตฟอร์ม” ลงทุน
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต