“สินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นสิ่งที่น่าลงทุนอยู่ไหม?”
คำถามที่มักถูกเอ่ยขึ้นมา หลังจากที่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลตก แต่ทันทีที่เหรียญต่างๆ ราคาดีดตัวขึ้น กระแสก็กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะในปี 2025 อ้างอิงจากบทความ Standard Chartered predicts bitcoin will hit $500,000 in the next three years โดย Finextra editorial team หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลจากธนาคาร Standard Chartered ได้ให้ความเห็นว่าราคาของ Bitcoin อาจพุ่งขึ้นไปแตะ 2 แสนดอลลาร์ต่อ 1 BTC เลยทีเดียว สะท้อนให้เห็นว่า สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนของผู้คนในยุคนี้ เพราะราคาของเหรียญต่างๆ ยังคงเปลี่ยนแปลงไปตามตลาด ไม่ต่างกับสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้นหรือทองคำ
แต่ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด คือเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มศูนย์การซื้อขาย (Exchange) หรือกระดานเทรด ที่ขาดความโปร่งใส มีการปิดตัวลงไปมากมาย ทำลายความเชื่อมั่นของเหล่าเทรดเดอร์และนักลงทุนอย่างมาก นอกจากนี้อุปสรรคของความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุน การจัดการความเสี่ยงต่างๆ ก็กลายเป็นกำแพงใหญ่ที่ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
เพื่อลดกำแพงดังกล่าว มาดูกันว่า คุณสมบัติของแพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดี และน่าเชื่อถือนั้นมีอะไรบ้าง
เทรดคล่อง เหรียญเยอะ
ปัจจัยแรกๆ คือเรื่องของสภาพคล่อง ซึ่งหมายถึง ปริมาณการซื้อขาย หรือ Trading Volume ที่ควรมีปริมาณสูงแบบสม่ำเสมอ เปรียบได้กับตลาดที่คึกคัก ทำให้ราคาเหรียญผันผวนต่ำกว่า ทั้งยังซื้อขายได้คล่องตัวขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือความหลากหลายของเหรียญในการเทรด ซึ่งควรมีตัวเลือกมากเพียงพอต่อความต้องการ โดยต้องเป็นเหรียญที่มีแหล่งที่มาน่าเชื่อถือ ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อจากเหรียญของมิจฉาชีพได้
และที่สำคัญคือการ Pair คู่เหรียญ หรือการจับคู่เหรียญหลัก เข้ากับสกุลเหรียญอ้างอิง (Base Pair) เช่น BTC และ USDT ให้สามารถซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน และที่สำคัญคือการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเทรดที่สมเหตุสมผล
ปลอดภัย เชื่อถือได้
จากกรณีเคสการปิดตัวของแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกิดขึ้นหลากหลายเคส ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์และนักลงทุนอย่างมาก ทำให้หนึ่งในปัจจัยที่ต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณาก่อนการเทรด คือเรื่องของความปลอดภัยและความน่าเชื่อ โดยจุดเริ่มต้นง่ายๆ สำหรับในไทยเองคือต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ก่อนเป็นอย่างแรก นอกจากนั้นคือระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม อย่างเช่นการเข้าสู่ระบบโดยใช้การยืนยันตัวตนสองชั้น 2FA (Two-Factor Authentication) การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ที่นำไปฝากหรือเทรดจะปลอดภัย ไม่สูญหาย หรือถูกแฮ็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์มรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้
Upbit แพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Trust ได้
จากคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้น ชวนมารู้จักกับ Upbit แพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เชื่อถือได้จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2564 โดยมีจุดเด่นคือมีเหรียญพร้อมให้เทรดในแพลตฟอร์มมากกว่า 166 เหรียญ โดยมีการคัดสรรเหรียญที่ดีมาให้เลือกเทรด ความพิเศษคือการ Pair คู่เหรียญในตลาด BTC และ USDT กับเหรียญที่น่าสนใจได้บนแพลตฟอร์มได้ พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยการรองรับการเทรดด้วย API
หัวใจสำคัญที่สุดคือเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ทาง Upbit มุ่งมั่นตั้งแต่แรกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเทรดเดอร์และนักลงทุน โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จากสำนักงาน ก.ล.ต. สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย ส่วนในประเทศเกาหลีใต้เองนั้น Upbit Korea ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Upbit Thailand ก็ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเป็น Virtual Asset Service Provider ตาม ACT ON REPORTING AND USING SPECIFIED FINANCIAL TRANSACTION INFORMATION ของสาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้การกำกับดูแลโดย Financial Intelligence Unit (FIU), Financial Services Commission (FSC) ส่วนด้านมาตรฐานความปลอดภัย มีการเข้าระบบด้วย 2FA รวมถึงมีระบบ Automated Surveillance ที่ช่วยแจ้งเตือนการถอนสินทรัพย์ดิจิทัลไปยังวอลเล็ตที่น่าสงสัย และการตรวจสอบโดยระบบหลังบ้านที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการแฮ็กจากเหล่า Scammer ที่พร้อมมาโจรกรรมในทุกรูปแบบอีกด้วย
ไม่เพียงแค่ระบบการจัดการความปลอดภัยที่รัดกุมของแพลตฟอร์มเท่านั้น Upbit ยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์ การใช้ Stablecoins เป็นช่องทางฟอกเงิน และการเปิดบัญชีม้า ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแล มีการให้ความรู้ในการรับมือการทุจริตกับนักลงทุน รวมไปถึงการนำ Travel Rule ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันการรับหรือโอนสินทรัพย์ดิจิทัลไปยังวอลเล็ตที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับผู้ได้รับใบอนุญาตมาปรับใช้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมได้อย่างโปร่งใสมากที่สุด
นอกเหนือไปจากนั้น Upbit ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ในฐานะขององค์กรด้านการเงินที่มีการใช้เทคโนโลยีซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการใช้ทรัพยากรด้านพลังงานมีโครงการเพื่อการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการประเมินการปล่อยคาร์บอนฟุตปริ้นท์ขององค์กร และได้รับการรับรองว่าเป็นองค์กร Net Zero เป็นที่เรียบร้อย
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
Writer: Wichapol Polpitakchai
Graphic Designer: Yanin Jomwong
อ้างอิงข้อมูลจาก