แบบนั้นสิสวย แบบนี้สิหล่อ เมื่อ ‘มาตรฐานความสวย’ หรือ Beauty Standard ทำให้ใครหลายคนกำลังบอบช้ำและพยายามอย่างหนักที่จะเข้าไปอยู่ใน ‘กรอบ’ ที่สังคมตีไว้จนลืมไปว่าความงามนั้นเป็นเรื่องที่ปัจเจกและมาตรฐานดังกล่าวกำลังปิดกั้น ‘ความหลากหลาย’ ของมนุษย์เอาไว้อยู่
แต่การมี ‘ผิวที่ดี’ นั้นแตกต่างออกไปเพราะเราไม่ได้หลอมรวมตัวเองเข้าไปอยู่ในกรอบนั้น แต่เป็นการอนุญาตให้ตัวเองได้ ‘ดูดี’ ในแบบที่เป็นอยู่ควบคู่ไปกับการมีผิวที่ ‘สุขภาพดี’ โดยปราศจากการกำหนดเฉดสี ขนาด หรือรูปร่าง
The MATTER จึงพูดคุยกับแบรนด์สกินแคร์สัญชาติไทยอย่าง ‘VIV Skin’ ที่มีผู้ก่อตั้งคือคุณจุ๋ย―วรัทยา นิลคูหา นักแสดงสาวผู้หลงรักความเป็นไทยและมีหุ้นส่วนคนสนิท ได้แก่ คุณเหม๋―กสิณีณัฐ พงศ์ชวนันทน์ และคุณตาล―ณัชชา พงษ์ภูริพัฒน์ โดยทั้ง 3 สาวเชื่อว่ามาตรฐานความสวยเป็นของทุกคนและการดูแลผิวไม่ใช่การทำตามค่านิยมของสังคมแต่คือวิธีง่ายๆ ที่เราจะได้บอกรักตัวเอง
ซึ่งในที่สุดพวกเธอก็ช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ขมิ้นโกลด์เซรั่มบำรุงผิวหน้าจนสำเร็จและไปคว้ารางวัลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรดีเด่นระดับชาติประจำปี 2563 กลับมาได้
ตอนนี้สังคมพูดถึง ‘มาตรฐานความสวย’ กันมากขึ้นสำหรับเรามองว่ามาตรฐานความสวยคืออะไร
จุ๋ย : สำหรับเรามันไม่ได้มีมาตรฐาน เราไม่สามารถวัดได้ว่าใครสวยใครหล่อหรือมีดีกรีวัด 1-10 เราเชื่อว่าแต่ละคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้มีความเท่าเทียมกัน มีความสวย ความหล่อ ความดูดีในแบบของตัวเอง เรามองว่าความดูดีของแต่ละคนมันอยู่ที่ทัศนคติข้างในหรือสิ่งที่เขาอยากจะให้ตัวเองเป็นมากกว่า
ความสวยความงามเป็นสิ่งที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ทำไมทุกวันนี้เราถึงยังรักษาความเยาว์ให้คงอยู่ตลอดไป
เหม๋ : เรามองว่าการดูแลตัวเองคือการบอกรักตัวเองอย่างหนึ่ง มันคือการเห็นคุณค่าในตัวเองแล้วกลับมาดูแลตัวเอง ในรุ่นราวคราวเดียวกันคนที่ดูแลตัวเองสม่ำเสมอกับคนที่ไม่ได้ดูแลตัวเอง จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลย
จุ๋ย : แต่เรามีเพื่อนคนหนึ่งที่มีความคิดแบบตะวันตก โดยเขาให้คุณค่ากับร่องรอยริ้วรอยให้ค่ากับสิ่งที่มันดูเป็น aging เราว่ามีคนคิด 2 แบบ คือแบบที่ดูแลตัวเองด้วยครีมหรือสกินแคร์ต่างๆ กับแบบที่ไม่เป็นไรฉันโอเค แต่เราเป็นคนที่เลือกดูแลตัวเอง ให้ตัวเองสุขภาพดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผิวพรรณ สุขภาพ หรือด้านในร่างกายเพราะเราก็ไม่อยากให้ข้างในเราดูเป็นคนอายุเยอะทั้งๆ ที่เราเพิ่งอายุแค่นี้เอง ก็อยากให้มันไปช้ากว่าวัยหรือไปพอดีๆ กับวัยก็คือเป็นไปตามธรรมชาติแหละ แต่ธรรมชาติในแบบที่เราดูแลตัวเองไปด้วย
“เรามองว่าการดูแลตัวเองคือการบอกรักตัวเอง
มันคือการเห็นคุณค่าในตัวเองแล้วกลับมาดูแลตัวเอง”
เหม๋
แล้วอย่างในปัจจุบันเราเริ่มรณรงค์กันว่าความสวยความงามไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของคน แต่รูปร่างหน้าตาก็ดูเหมือนจะยังสำคัญอยู่ดีตรงนี้มองว่ายังไงบ้าง
จุ๋ย : มันเกี่ยวกับหลายๆ อย่าง ไม่ได้อยู่แค่ในบริบทที่จะพูดว่าอันนี้คือความสวยงาม แต่ว่ามันคือความดูดีความเหมาะสมทั้งช่วงเวลา สถานที่แล้วก็โอกาสทั้งหมดต้องมารวมกัน
การมีผิวที่ดีถือเป็นการดูแลตัวเองอย่างหนึ่งสำหรับ VIV Skin แล้วนิยามของคำว่าผิวที่ดีคืออะไร
จุ๋ย : เราไม่ได้ให้คุณค่าของผิวที่สีผิวนะ เวลาใครเห็นเราผิวดีแล้วถามว่าใช้อะไรเราก็บอกว่าเราใช้ VIV Skin แต่ว่าสิ่งที่ทุกคนจะได้คงไม่เท่ากัน มันก็จะดีขึ้นที่สุดเท่าที่ตัวเองเป็นได้
เหม๋ : ใช่ สวยที่สุดในแบบของเรา เรามองว่าเรื่องผิวคือตัดสีผิวออกไปก่อน เราจะให้ความรู้กับลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายเสมอว่าสิ่งที่เราบำรุงไม่ใช่แค่เรื่องสีผิวอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องความชุ่มชื้น ซึ่งคือพื้นฐานของผิวที่ดีอย่างแท้จริงเพราะเมื่อผิวพรรณเราแข็งแรงมันจะเปล่งประกายความสวยออกมาเอง ซึ่งความแข็งแรงที่ว่านั่นก็คือผิวที่ตึงกระชับ ชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ไม่เป็นสิวง่าย ไม่แพ้ง่าย
แล้วการที่มีผิวดีส่งเสริมความมั่นใจในรูปลักษณ์ของเรายังไงบ้างเมื่อเทียบกับการแต่งหน้าหรือแต่งตัว
ตาล : เราว่ามันเป็นพื้นฐานเลยแหละ ถ้าเราต้องออกไปใช้ชีวิตการที่มีพื้นฐานผิวที่ดีจะทำให้เรามั่นใจขึ้นมาก ไม่ว่าจะทำอะไรไปเจอใครก็ไม่ต้องคอยกังวล
ฉะนั้นถ้าเรามีผิวที่ดีมันก็สะท้อนทำให้เรามีความมั่นใจในการใช้ชีวิต หรือแม้แต่จะออกไปทำกิจกรรมท่ามกลางแสงแดด ถ้าเรามีผิวที่แข็งแรงฟื้นฟูได้เร็วมันก็จะทำให้เรากล้าที่จะใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น
จุ๋ย : ความกลัว ความกังวล ความไม่สบายใจอะไรเหล่านี้ มันรบกวนความสุขของเรา ซึ่งบริษัทเรามีสโลแกนตัวหนึ่งนั่นก็คือ VIV Skin, Happy Skin คือมันไม่ใช่แค่ผิวที่มีความสุขแต่จิตใจเราก็มีความสุขตามไปด้วย เราจะให้คุณค่ากับความสุขเล็กๆ นี้มาก
“มันไม่ใช่แค่ผิวที่มีความสุข
แต่จิตใจเราก็มีความสุขตามไปด้วย
เราจะให้คุณค่ากับความสุขเล็กๆ นี้มาก”
จุ๋ย
ถ้าสมมติคนอ่านบทความนี้เป็นสิว มีปัญหาเกี่ยวกับใบหน้า หรือมีฝ้าเป็นจุดๆ ก็คงรู้สึกกังวลแล้วใช่มั้ย แต่การที่เราตื่นมาแล้วไม่พบว่ามีอะไรแปลกปลอมบนใบหน้า เราจะมีความสุขกับมันจนบางทีลืมไปเลยด้วยซ้ำเพราะว่าวันนี้เราไม่ได้กังวลอะไรเลย นั่นแหละคือความสุขเล็กๆ ที่อยู่กับตัวเอง
เราเลยมองว่ามันตอบโจทย์เรามาก เพราะเราต้องใช้หน้าทำมาหากินต้องพบปะผู้คนมากมาย ซึ่งพวกเขาจะมีความคาดหวังกับตัวจริงของเราว่าถ้าเจอเราตัวจริงจะเป็นยังไง มีผิวยังไงต้องหน้าตาแบบไหน ดังนั้นเราจึงต้องดูแลตัวเองให้ดีอยู่เสมอ และอีกอย่างเลยที่มั่นใจก็คือการออกนอกบ้านโดยที่สามารถเผยผิวหน้าสดได้ แค่ตื่นมาแปรงฟัน ทาแป้งฝุ่นเบาๆ แล้วก็ออกไปได้เลย
กังวลกับสุขภาพผิวของตัวเองบ้างมั้ย
จุ๋ย : ไม่เลย ผิวเราค่อนข้างแข็งแรง มีทริปหนึ่งที่ต้องไปถ่ายแบบกลางแจ้งที่ทะเล วันรุ่งขึ้นบางคนก็คือหน้าลอกเลย บางคนอีกวันเห็นเหมือนมีน้ำเหลืองไหลซิบๆ คือหน้าไหม้ขั้นรุนแรง แต่ในขณะที่เราดูแลตัวเองทั้งเรื่องผิวพรรณ เรื่องการกิน แล้วก็เรื่องการใช้ครีม กลายเป็นว่าในทริปนั้นเราเป็นคนเดียวที่หน้าไม่ลอก ก็เลยรู้สึกว่าความแข็งแรงของผิวมันมีผลเวลาที่เราจำเป็นต้องออกไปเจอสภาวะที่เราเลือกไม่ได้
ในฐานะของคนที่ทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิว พบว่าคนไทยส่วนใหญ่มีปัญหาผิวพรรณในเรื่องไหนมากที่สุด
จุ๋ย : ปัญหาของคนไทยอันดับหนึ่งเลยคือเรื่องฝ้ากระจุดด่างดำ แล้วจะกังวลเรื่องหน้าหมองคล้ำ ซึ่งสาเหตุก็มาจากแดดแต่ว่าคนไทยไม่ชอบใช้ครีมกันแดดเพราะว่ารู้สึกเหนอะหนะหน้า อาจทำให้เป็นสิวมากขึ้น แต่ว่าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ยิ่งต้องเจอแดดแบบบ้านเราถือว่าเป็นตัวการร้ายเลยแหละ บางครั้งมันไม่ใช่แค่แดดด้วยนะกับแสงไฟหน้าจอต่างๆ ที่มีแสงสีฟ้า และที่ตีคู่มาอีกก็คือเรื่องสิว เพราะบ้านเมืองเราอากาศร้อนพอเหงื่อออก หน้ามัน รูขุมขนกว้าง สิวก็เลยตามมา
และตอนนี้สิวที่เกิดจากผิวติดสารสเตียรอยด์ก็เป็นปัญหาผิวอันดับต้นๆ ของคนไทยเช่นกัน
เพราะอย่างนี้ด้วยหรือเปล่าเราก็เลยเลือกใช้วัตถุดิบไทยเป็นหลัก
จุ๋ย : จริงๆ เราผ่านการนำเข้าวัตถุดิบและสารสกัดหลายประเทศเลย ทั้งจากสวิตเซอร์แลนด์ ยุโรป และเอเชีย แต่ราคาก็แรงมากเช่นกัน ต่อมาเราก็ได้เล็งเห็นว่าจริงๆ สมุนไพรของไทยเราก็มีดีมากๆ เหมาะกับสภาพผิวคนไทย และอากาศเมืองร้อนอย่างบ้านเรา และยิ่งมีการวิจัยและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการสกัดสารสำคัญ อย่างของเราที่ชูสารสกัดในผลิตภัณฑ์ “วิฟสกินขมิ้นโกลด์เซรั่ม” จากขมิ้นชันเป็นหลัก เมื่อก่อนคนเขาจะเอามาตากแดดมาต้ม หรือใช้แบบสดๆ ซึ่งมันดึงตัวสารออกฤทธิ์สำคัญของสมุนไพรออกมาได้ไม่เยอะ และเก็บไว้ได้ไม่นาน สารสำคัญก็เสื่อมสลายไปโดยง่าย
แต่ของเราใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘เอนแคปซูเลชัน’ (encapsulation) ที่สามารถดึงสารสกัดสำคัญออกมาใช้ได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าแบบทั่วไป และยังช่วยยืดอายุสารสกัดไว้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น และด้วยความที่เราชอบอะไรไทยๆ อยู่แล้วก็เลยลองดู ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือเรารู้สึก ทึ่ง !!! เพราะมันเห็นผลลัพธ์ชัดเจน คนรอบข้างที่ได้ทดลองใช้ก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ต่างพากันชื่นชอบกันหมด feedback คือดีมากจริงๆ
ล่าสุดเราได้ไปถึงต้นน้ำของการผลิตนั่นก็คือจังหวัดน่าน หนึ่งในจังหวัดที่ปลูกขมิ้นได้ดีที่สุดในเมืองไทย กลายเป็นว่าการที่เราลงทุนซื้อวัตถุดิบไปรายได้นั้นได้กระจายสู่ชุมชน สู่พี่น้องเกษตรกรที่เป็นคนไทยด้วยกันจริงๆ เราซึ้งใจมากที่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้ช่วยทุกภาคส่วน ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายเอง เราก็อยากให้เขาเอารายได้ไปจุนเจือครอบครัว เพราะเราไม่ได้มองว่าเขาเป็นลูกค้าแต่เรามองว่าเขาเป็นหุ้นส่วนที่ต้องดูแลกัน ถ้าเกิดเขามีรายได้สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ดีขึ้น มีบ้าน มีรถ มีการศึกษาที่ดีให้กับลูกๆ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายขึ้น พวกเราเองก็มีความสุขทางใจไปด้วย
แล้วปีนี้ก็ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จ ด้วยการที่เราได้รับรางวัลเครื่องสำอางสมุนไพรดีเด่นระดับชาติ จากกรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ เลย เพราะเราต้องนำผลการวิจัยต่างๆ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติมานำเสนอให้คณะกรรมการฟัง เหมือนเข้าห้องสอบอีกรอบ แล้วเราก็ลุ้นกันนานมาก จนสุดท้ายผลประกาศออกมาว่าแบรนด์เราได้รับรางวัล เราดีใจกระโดดตัวลอยเลย ชาวบ้านในชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยนก็ได้รับรางวัลเหมือนกันแต่คนละสาขา เราก็ดีใจกับเขาด้วย
ในฐานะเจ้าของแบรนด์สกินแคร์อยากฝากอะไรถึงคนที่อยากดูดีไปพร้อมๆ กับการเป็นตัวของตัวเองบ้าง
จุ๋ย : เราไม่เห็นด้วยกับการวัดคุณค่าคนด้วยสีผิวรูปร่างหรือหน้าตา เพราะแต่ละคนเกิดมามีความสวยในแบบของตัวเอง เรามีสิทธิของความเป็นมนุษย์ที่เท่ากันฉะนั้นเราสามารถดูดีในแบบของเราได้
เหม๋ : ไม่จำเป็นต้องมีหน้าตาแบบพิมพ์นิยมถึงจะเรียกว่าสวย ไม่ต้องรอให้ใครมาตัดสิน มาบอกว่าแบบนี้คือสวยแบบนี้คือไม่สวย มั่นใจในตัวเองเถอะคุณสวยในแบบของคุณแล้ว
ตาล : ทุกคนมีร่องรอยตำหนิกันหมด ใครไม่เคยเป็นสิวบ้าง แต่ในขณะที่เรานั่งทุกข์เรามาหาทางทำให้รู้สึกดีขึ้นดีกว่าหรือคิดว่าจะทำยังไงดีให้หลุดพ้นจากความรู้สึกนี้
“ทุกคนมีร่องรอยตำหนิกันหมดใครไม่เคยเป็นสิวบ้าง
แต่ในขณะที่เรานั่งทุกข์เรามาหาทางทำให้รู้สึกดีขึ้นดีกว่า
หรือคิดว่าจะทำไงดีให้หลุดพ้นจากความรู้สึกนี้”
ตาล
จุ๋ย : เราก็ขอเป็นตัวแทนของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะให้ความเชื่อมั่นกับหลายๆ คนว่า ไม่ว่าจะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหนให้เรามั่นใจกับสิ่งที่เราเป็นแล้วให้คุณค่ากับตัวเองมากๆ เพราะบางคนหลงลืมที่จะให้คุณค่ากับตัวเองแต่กลับไปให้คุณค่ากับคนอื่น แคร์คำพูดของคนอื่นมากเกินไป
อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้กลับไปมองก็คือ ‘การมอบความสุขให้กับตัวเอง’ อะไรคือความสุขที่แท้จริงของเราความสุขของเราเป็นแบบไหน จงเลือกทำให้มันเป็นแบบนั้น
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ VIV SKIN ที่ https://www.facebook.com/vivskin
สนใจสมัครตัวแทน คลิก https://bit.ly/utmtmt_vivskinmember