.
ในช่วงบ่ายของการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎณ จากพรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปราย สนับสนุนให้สภารับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมด
.
โรมเริ่มจากกล่าวว่า เข้าใจสมาชิกรัฐสภาทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะบางคนอาจได้รับผลประโยชน์จากการคงอยู่ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เขามองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อเปิดให้มีการตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งชาติ ควรต้องทำ เพื่อทำให้รัฐธรรมนูญมีที่มาจากตัวแทนและความต้องการของประชาชนจริงๆ
.
ส่วนความกังวลในด้านงบประมาณ ที่บางฝ่ายมองว่าอาจต้องใช้กว่า 15,000 ล้านบาทในการจัดทำประชามติ เขาเชื่อว่าประเทศสามารถจัดสรรเงินจำนวนนี้ได้ เช่นยกเลิกการสั่งซื้อเรือดำน้ำสักลำ เพราะเงินจำนวนนี้คุ้มค่า และมันจะพาประเทศออกจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้
.
โรมพูดถึงความสำคัญของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า โจทย์ใหญ่และประเด็นสำคัญคือ การทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์มาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และอยู่ใกล้ชิดกับระบอบประชาธิปไตยให้มากขึ้น เพราะปัญหาในขณะนี้ ก็เกิดจากการที่สถาบันกษัตริย์อยู่ห่างจากประชาธิปไตย และคนบางกลุ่มได้ใช้ประโยชน์ในช่องว่างดังกล่าว เพื่อหาผลประโยชน์เข้าตนเอง
.
เขากล่าวในตอนหนึ่งด้วยว่า สมาชิกรัฐสภาทุกคนน่าจะรู้ดี ถึงเสียงเรียกร้องของประชาชนภายนอก ที่ต้องการให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ทำให้สถาบันกษัตริย์มีความโปร่งใส และอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญโดยแท้จริง และถึงแม้ไม่ได้ออกไปร่วมการชุมนุมก็อาจจะได้ยินจากเสียงของลูกหลานในบ้าน
.
สุดท้าย โรมเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนใช้มโนธรรมสำนึกอย่างสูงสุด เอาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง และโหวตรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และทำให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ขึ้น เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ
.
โดยระหว่างที่ โรม อภิปรายอยู่นั้น ได้มีสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล และสมาชิกวุฒิสภาลุกขึ้นประท้วงหลายครั้ง รวมถึงถูกประธานรัฐสภาตักเตือนเนื่องจากมีการเอ่ยถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
.
นอกจากนี้ ในช่วงแรกของการอภิปราย โรมได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า ขณะนี้กำลังมีข่าวว่า วุฒิสภากำลังพยายามตกลงกัน เพื่อคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เสนอชึ้น ไม่ว่าจากพรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน