“ช่วงนี้คุณได้ร้องไห้บ้างไหม” คือคำถามที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของ ฮิเดฟูมิ โยชิดะ ผู้เรียกตัวเองว่าเป็นครูสอนร้องไห้ (tear teacher) ในประเทศญี่ปุ่น เขาเป็นผู้ทำอาชีพให้บริการพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนที่แบกรับความเครียดได้ร้องไห้และปล่อยตัวเองให้อ่อนแอบ้าง
งานที่โยชิดะเรียกว่า ‘rui-katsu’ ซึ่งหน้าที่หลักของเขาคือ ช่วยให้ผู้คนได้รู้สึกดีขึ้นด้วยการร้องไห้ ซึ่งสำคัญและจำเป็นมากๆ กับสังคมญี่ปุ่นที่ผู้คนจำนวนมากต้องแบกรับความเครียด ความกดดัน จากหน้าที่การงานและภาระที่ตัวเองแบกรับอยู่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำ การร้องไห้มักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในสังคมที่นิยม-เชิดชูความเข้มแข็งอีกด้วย
โยชิดะมองว่า การร้องไห้ไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่หรือเสียหาย มันจะดีเสียอีก ถ้าจะเราจะปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้บ้าง และตัวเขาเองก็เข้าใจว่า ผู้คนมากมายไม่กล้าที่จะร้องไห้ในที่ทำงานหรือในบ้าน เขาจึงอยากจะเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้คนได้ร้องไห้กันเต็มที่
ในบริการพื้นที่สำหรับร้องไห้นี้ โยชิดะได้ใช้ภาพยนต์ ละคร รวมถึงจดหมายต่างๆ เป็นสื่อกลางเพื่อสื่อความรู้สึกไปยังผู้ที่มาใช้บริการ
“ปัจจุบันคนญี่ปุ่นไม่ค่อยจะร้องไห้กัน หลายคนกลั้นน้ำตาเอาไว้ ตั้งแต่เด็กเราถูกสอนไม่ให้ร้องไห้ เมื่อโตขึ้นเราก็เลยกลายเป็นคนที่ปิดกั้นตัวเอง มันทำให้ผู้คนบางส่วนล้มป่วยและสะสมความเครียดเอาไว้” โยชิดะ ระบุ
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.2016 เคยมีการศึกษาที่พบว่า คนญี่ปุ่นมักจะเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ไม่ให้คนร่วมงานได้รับรู้ ทั้งเรื่องความเครียดและภาวะทางจิตใจ ท่ามกลางความกังวลว่า ค่านิยมการทำงานหนักมันได้ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้จริงๆ (ที่รู้จักกันในชื่อว่าโรค karoshi หรือการตายเพราะทำงานหนักมากเกินไป)
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/…/why-the-japanese-believe-that…
https://www.nytimes.com/…/tears-teacher-crying-japan.html
https://www.weforum.org/…/how-crying-once-a-week-is…/
#Brief #TheMATTER