ครบรอบ 44 ปี กับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 การนองเลือดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ซึ่งวันนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้จัดงาน “ครบรอบ 44 ปี 6 ตุลาฯ 2519” ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อร่วมกันรำลึกและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งไว้อาลัยวีรชนผู้สูญเสียในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ โดยภายในงานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ พิธีวางพวงมาลา-ดอกไม้ และยืนไว้อาลัยแด่เหล่าวีรชนผู้สูญเสีย พร้อมทั้งมอบรางวัล “จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย”
ในการกล่าวเปิดงาน บุญสม อัครธรรมกุล ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาว่า เป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของสังคมไทย และการขับเคลื่อนประชาธิปไตยของนิสิตนักศึกษาร่วมกับประชาชน และยังสะท้อนความตื่นตัวทางการเมืองในเชิงอุดมคติ ภายใต้คำขวัญของการจัดงานรำลึก 20 ปี 6 ตุลาฯ ที่ว่า “ขบวนการนักศึกษาประชาชนเดือนตุลากล้าต่อสู้เพื่อสังคมที่ดีงาม”
ขณะที่ น.ส.พร้อมพร พันธุ์โชติ นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การรำลึกในวันนี้เป็นสัญลักษณ์ที่ย้ำเตือนว่า เราต้องไม่พากงจักรความรุนแรงนั้นหวนกลับคืนมา การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เรายังต้องต่อสู้จนกว่าจะได้ซึ่งสิทธิ์ เสียงในการกำหนดสังคม และกติกาด้วย ส่วนด้าน น.ส.ลัลนา สุริโย ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า แม้จะมีการรำลึกเหตุการณ์นี้ แต่ก็มีคนพยายามลบเหตุการณ์นี้ แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด ภาพการต่อสู้ของวีรชนเพื่อประชาธิปไตยก็จะถูกจดจำถึงปัจจุบัน
ด้านจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้นำนักศึกษา ก็ได้กล่าวปาฐกถารำลึกเหตุการณ์นี้ โดยอธิบายความหมายของเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เกี่ยวข้องกับนักศึกษาทั่วประเทศและได้สร้างผลกระทบระดับประเทศ 2. นอกจากการสังหารโหดแล้ว วันเดียวกันยังมีการรัฐประหารล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ปิดฉากประชาธิปไตย ดึงประเทศถอยหลังกลับไปสู่ระบอบผด็จการโดยนายทุน ขุนศึก ศักดินา นานถึง 12 ปี 3. เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เป็นพัฒนาการต่อเนื่องจากเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ที่ไม่อาจแยกออกจากกัน
“การปลุกระดมให้เกิดความโกรธแค้นเกลียดชังจนถึงการเข่นฆ่านั้นมีการวางแผนและสั่งการอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างสถานการณ์ที่นำไปสู่การรัฐประหารในวันเดียวกัน โดยเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ถือเป็นกรณีต้นแบบของการกระทำความผิดร้ายแรงโดยไม่ต้องรับโทษ จนนำมาสู่อีกหลายเหตุการณ์ที่ตอกย้ำว่าสังคมไทยไม่มีหลักนิติธรรม” นายจาตุรนต์ กล่าว ทั้งยังชี้ว่าตนไม่เห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้จะซ้ำรอย 6 ตุลาฯ แต่จะมีโอกาสจะพัฒนาไปใกล้เคียงกับเหตุการณ์อย่าง 14 ตุลาฯ หรือพฤษภา 35 มากกว่าด้วย
นอกจากงานครบรอบที่จัดขึ้นที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์แล้ว ในช่วงนี้บริเวณโถงหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัย ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ “แขวน” 6 ตุลา on site museum โดยโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ 6 ตุลา ซึ่งปีนี้ ได้นำการถูกแขวนคอในเหตุการณ์นี้ มาเล่าผ่านเทคโนโลยี AR จำลองภาพอดีต ให้เราเห็นผ่านปัจจุบัน รวมถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นอื่นๆ อย่างภาพถ่าย ประตูแดง ลำโพง หนังสือพิมพ์เก่า และเสื้อผ้าของเหยื่อ ฯลฯ โดยเปิดให้ชมฟรีถึงวันที่ 11 ตุลาคมนี้
#Brief #TheMATTER