ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น แต่ถึงอย่างนั้น การติดเชื้อ COVID-19 ของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อต้นเดือน ทำให้ ตามกำหนดเดิมในวันที่ 15 ตุลาคม (16 ตุลาคม เวลาไทย) ที่ทรัมป์ และผู้ท้าชิง โจ ไบเดน จะต้องมาดีเบตกันในครั้งที่ 2 กลับต้องยกเลิก และเปลี่ยนรูปแบบไป เป็นการปราศรัยแบบทาวน์ฮอลแทน ผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี และเอบีซี
โดยทรัมป์ขึ้นเวทีที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ส่วนไบเดนจะขึ้นเวทีที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทั้งสองรายการออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งประเด็นแรก ที่สำคัญในช่วงเวลานี้คงไม่พ้นการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ซึ่งไบเดนได้หยิบหัวข้อนี้มาโจมตีการรับมือของทรัมป์ และเรียกร้องให้มี “มาตรฐานระดับชาติ” เพื่อต่อสู้กับการระบาดที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 215,000 ราย แคนคิเดตจากเดโมแครตได้ออกมาตำหนิทรัมป์ หลังจากมีคำพูดออกว่า “นั่นเป็นเรื่องของผู้ว่าการรัฐ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของฉัน” พร้อมบอกว่านี่เป็นความรับผิดชอบของผู้นำ
ในฝั่งของทรัมป์ พิธีกรและผู้เข้าชมรายงานได้ถามถึงวิธีการรับมือกับ COVID-19 ว่าทำไมเขาจึงไม่สนับสนุนให้ชาวอเมริกันสวมใส่หน้ากาก โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้ทุกคนสวมหน้ากากอย่างแน่นอน แม้ว่าความจริงแล้วเขาแทบจะไม่สวมหน้ากากเลย นี่ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมที่ชอบล้อเลียนไบเดนและคนอื่นๆ ที่สวมใส่หน้ากากอนามัย นอกจากนี้เขายังปฏิเสธที่จะตอบว่าเขาสนับสนุนนโยบาย “ภูมิคุ้มกันหมู่” หรือไม่ แต่เขายืนยันว่าสหรัฐฯ จะเป็นผู้ชนะในศึก COVID-19 วัคซีนที่ช่วยป้องกันผู้คนกำลังเดินทางมาถึง และทันทีที่เรื่องนี้จบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งกว่าที่เคย
อีกหนึ่งประเด็นทางด้านสาธารณะสุขที่มีการพูดถึงในการสัมภาษณ์ครั้งนี้คือ ระบบประกันสุขภาพ ซึ่งผู้ร่วมฟังวิสัยทัศน์ได้ถามทรัมป์ถึงแผนการลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลรักษาพยาบาล ทรัมป์ตอบชัดเจนว่าเขาจะยกเลิก Obamacare และจะแทนที่ด้วยโครงการอื่น อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่าโครงการใหม่นี้จะมีลักษณะอย่างไร แต่เขายืนยันว่าโครงการดูแลสุขภาพของเขาจึงมีคุณภาพขึ้น แต่ราคาถูกลง และพร้อมจะดูแลชาวอเมริกันในทุกสถานการณ์
สำหรับฝั่งไบเดน นโยบายที่เรียกคะแนนให้เดโมแครตได้ไม่น้อยเลยคือ การสนับสนุนความเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQ โดยในการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ เขายืนยันว่า ในยุคของเขาจะไม่มีการเลือกปฏิบัติใดๆ อีก ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ซึ่งการที่ไบเดนพูดถึงประเด็นนี้ในแคมเปญหาเสียง ทำให้มีการเปรียบเทียบกับนโยบายของทรัมป์ ที่ยกเลิกกฎระเบียบที่ปกป้องคนข้ามเพศด้วย
นอกจากนี้ไบเดนยังได้ตอบคำถามถึงจุดยืนเรื่องการบรรจุศาลฎีกาเพิ่มเติม (court packing) โดยเขาสาบานเป็นครั้งแรกว่า ประชาชนจะได้รู้แน่นอนว่าเขาสนับสนุนแนวคิดนี้หรือไม่ ระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้ดำเนินรายการได้ถามโจไบเดนอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาจะเพิ่มจำนวนผู้พิพากษาในศาลสูงสุดของประเทศหรือไม่ หลังจากที่วุฒิสมาชิกลงคะแนนเสียงยืนยันผู้พิพากษาเอมี โคนีย์ บาร์เรตต์ (Amy Coney Barrett) ไบเดนตอบเพียงแค่ว่าเขาจะพิจารณาอีกครั้ง
ตัดภาพมาที่ฝั่งตัวแทนจากรีพับลิกันอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ก็โดนจี้คำถามเรื่องหนี้สิน หลังจากสำนักข่าว The New York Times รายงานว่า ทรัมป์ติดหนี้เจ้าหนี้อยู่ประมาณ 400 ดอลลาห์ ซึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งนี้เขายอมรับว่าเราติดหนี้จำนวนนี้จริง แต่เขาอ้างว่าเงินกู้จำนวนนี้เกิดจากการด้อยโอกาสทางการเงิน และบอกว่าเงินกู้บางส่วนของเขาเป็น “การสนับสนุนอันสมควรได้จากสถาบันการเงิน” และเมื่อโดนจี้ถามว่าเจ้าหนี้ของเราเป็นชาวต่างชาติหรือเปล่า เขาตอบออกมาชัดเจนว่า “ผมไม่ได้เป็นหนี้รัสเซีย”
อย่างไรก็ตามประเด็นเรื่องการเสียภาษีของเขายังเป็นที่สงสัยของคนอเมริกัน หนึ่งในผู้ชมในห้องส่งได้ถามทรัมป์ว่า นับตั้งแต่เป็นประธานาธิบดีมา เขาจ่ายเงินเพียงปีละ 750 ดอลลาร์จริงหรือไม่ เขาตอบเพียงแค่ “นั่นเป็นตัวเลขตามกฎหมาย” ก่อนที่ผู้ชมจะโต้ตอบกลับไปว่า 750 ดอลลาห์มันแค่ค่าธรรมเนียบการยื่นฟ้อง และประชาชานส่วนใหญ่ในประเทศอาจจ่ายมากกว่าเขา
แม้ว่าทรัมป์จะโดนโจมตีอยู่บ้างในระหว่างแสดงวิสัยทัศน์ แต่เขายังมุ่งแสดงความสำเร็จของตัวเองในการบริหารประเทศพร้อมบอกว่า ในยุคของเขา มีการลดภาษีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะทางฝั่งของไบเดนมีนโยบายเก็บภาษีเพิ่ม เพื่อนำเงินมาดูแลสาธารณูปโภคของประเทศให้ดีขึ้น นี่จึงเป็นนโยบายที่เป็นจุดตัดสินใจของคนอเมริกันได้เลย
และนอกจากจะอธิบายถึงความสำเร็จในการบริหารงาน ทรัมป์ยังแสดงความกังวลใจถึงเรื่องการโกงบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ เขากล่าวว่าบัตรเลือกตั้งหลายพันใบที่มีชื่อของเขาถูกทิ้งไว้ในถังขยะ พร้อมบอกว่าเขาจะโอนอำนาจอย่างสันติแน่นอน หากการเลือกตั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริต อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครเห็นหลักฐานบัตรเลือกตั้งที่ถูกทิ้งเหล่านั้น และแม้ว่าผู้ชมในห้องส่งจะให้ข้อมูลกับเขาว่า ผู้อำนวยการ F.B.I. ได้ยืนยันแล้วว่าการโกงเลือกตั้งเป็นไปได้ยาก ทรัมป์ตอบกลับเพียงแค่ว่า “”โอ้จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเขาก็ทำงานได้ไม่ดีนัก”
ตลอดการสัมภาษณ์ทรัมป์ยังได้เลี่ยงตอบคำถามหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีสมคบคิด QAnon นโยบายสนับสนุนการต่อต้านทำแท้ง หรือการสนับสนุนแนวคิด White Supermacy หรือกลุ่มผิวขาวสุดโต่งด้วย
วันตัดสินอนาคตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งต้องบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญอย่างมากกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยการดีเบตครั้งสุดท้ายของ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งนี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
อ้างอิง
https://www.nytimes.com/…/15/us/trump-biden-town-halls…
https://edition.cnn.com/…/us-election-town…/index.html
https://time.com/5900628/biden-trump-town-halls/
#Brief #TheMATTER