ย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน ทั่วโลกต่างตกใจกับเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่เมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ซึ่งมีสาเหตุจากการรั่วไหลของสารเคมีแอมโมเนียมไนเตรทที่ถูกเก็บไว้อย่าผิดวิธี จนทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ บ้านเรือนถูกทำลาย และมีผู้เสียชีวิตมากมายจากเหตุการณ์นี้
.
การสูญเสียนั้นยังติดเป็นแผลในใจสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งนั่นรวมถึงฮายัด นาซา (Hayat Nazer) ศิลปินหญิงสัญชาติเลบานอน ผู้ถ่ายทอดความเจ็บปวดของเธอออกมาเป็นงานศิลปะรูปแบบต่างๆ รวมถึงรูปปั้นหญิงสาวไร้ชื่อที่ทำขึ้นจากเศษเหล็ก
.
ฮายัด กล่าวว่า เธอแทบจะจำช่วงเวลาที่เลบานอนสงบสุขไม่ได้เลย และในวันที่เกิดเหตุระเบิดขึ้น เธอกำลังเดินทางมาที่เมืองเบรุต แต่สุดท้ายกลับต้องพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้าย มีผู้เสียชีวิต 190 คน บาดเจ็บมากกว่า 6,000 คน และอีกกว่า 300,000 คนต้องออกจากบ้าน กลายเป็นผู้พลัดพลาก
.
เลบานอนในเวลานั้นเปราะบางมาก ประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะตกต่ำจากความวุ่นวายทางการเมือง และเศรษฐกิจล่มสลาย อีกทั้งยังมีการระบาดของ COVID-19 ฮายัดกล่าวว่า น้ำหนักของสิ่งเหล่านี้เกือบทำให้ประเทศเล็กๆ เป็นอัมพาต และมันทำให้หัวใจของเธอบอกช้ำ
.
เช่นเดียวกับผู้อาศัยจำนวนมากในเบรุต เธอรวบรวมกำลัง พยายามทำความสะอาดเศษซาก และฟื้นฟูเมืองให้กลับมารุ่งเรืองเช่นในอดีต ตอนนั้นเธอจึงเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างงานศิลปะชิ้นนี้
.
เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่ฮายัดเดินไปตามถนนในเบรุต และรวบรวมโลหะบิดเบี้ยว เศษแก้ว รวมถึงของใช้ที่ผู้คนทิ้งเอาไว้เพื่อมาใช้ในงานประติมากรรม เธอเล่าว่า เธอเดินทางไปยังบ้านของคนอื่นๆ และบอกพวกเขาว่า “ฉันแค่อยากให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะนี้” ซึ่งหลังจากนั้นมีคนมากมายมอบสิ่งของมีค่าต่างๆ แก่เธอ
.
เมื่อฮายัดเตรียมของจนพร้อมแล้ว เธอจึงนำมาประกอบเป็นรูปผู้หญิงไร้ชื่อคนหนึ่งที่ชูธงชาติเลบานอน เส้นผมและชุดของเธอปลิวไปตามสายลม ที่ฐานของรูปปั้นมีนาฬิกาเรือนใหญ่วางอยู่ เข็มหยุดเดิน ณ เวลา 6:08 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดการระเบิด และตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือเบรุต สถานที่เกิดเหตุระเบิด เพื่อให้คนรุ่นหลังระลึกถึงช่วงเวลาเจ็บปวดของเหตุการณ์นี้ และไว้อาลัยแก้ผู้เสียชีวิตทุกคน
.
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮายัดสร้างงานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปัญหาทางสังคมและการเมืองของเลบานอน ก่อนเกิดเหตุระเบิด เลบานอนต้องเผชิญหน้ากับความวุ่นวายอย่างหนักจากการประท้วงต่อต้านกลุ่มผู้นำเป็นเวลาหลายเดือน ในขณะนั้นฮายัดตัดสินใจลาออกจากงานประจำซึ่งเกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อช่วยผู้อพยพ และมาสร้างงานศิลปะเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
.
ฮายัดตัดสินใจอัพโหลดภาพงานศิลปะชิ้นนี้ของเธอลงบน Instagram ส่วนตัว เนื่องจากงานศิลปะสะท้อนสังคมส่วนใหญ่ มักถูกทำลายโดยหน่วยงานที่ไม่ต้องการให้มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เธอกลัวว่าจะเกิดชะตากรรมเดียวกันกับผลงานล่าสุดนี้
.
ฮายัดกล่าวว่าทิ้งท้ายว่า “หลังจากเหตุการระเบิด คุณสามารถสร้างบ้าน และอาคารต่างๆ กลับมาได้ แต่สิ่งที่คุณไม่สามารถนำกลับมาได้คือความทรงจำ และรัฐบาลของเรากำลังพยายามกำจัดทุกสิ่งที่เตือนให้เรานึกถึงสิ่งที่พวกเขาทำกับเรา นั่นคือสิ่งที่ทำให้โปรเจ็กต์นี้พิเศษมากขึ้น มันคือการต่อสู้ เรากำลังเปล่งเสียงของเราผ่านงานศิลปะ เรากำลังเล่าเรื่องราวของเราเอง”
.
.
อ้างอิงจาก