นักวิชาการบอกตรงกันว่า สิงคโปร์คือประเทศเล็กๆ ที่กำลังเดินหน้าสู่การปล่อยมลพิษเป็น 0 ชนิดที่ไม่มีประเทศไหนเทียบได้ และไปไกลชนิดที่เกินมาตรฐานกลางโลกไปแล้ว
.
สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์คือโปรเจกต์ ‘Tengah’ ซึ่งในภาษามาเล มีความหมายว่า ‘ศูนย์กลาง’ เป็นเมืองสีเขียวนำร่องทางฝั่งตะวันตกของประเทศ ที่ไม่ใช่แค่เมืองม็อกอัพเท่านั้น แต่เป็นเมืองที่เปิดให้ประชาชนจองที่อยู่อาศัยและเตรียมย้ายเข้าเรียบร้อยแล้ว
.
ทำไม Tengah จึงสำคัญสำหรับสิงคโปร์? เพราะสิงคโปร์แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ เล็กกว่านิวยอร์ก และมีประชากรไม่กี่ล้านคน แต่กลับมีการปล่อยคาร์บอนหรือมลพิษสูงถึง 50 เท่าของขนาดประเทศ ดังนั้นการเกิดขึ้นของเมือง Tengah จึงมาสอดรับกับเป้าหมายที่สิงคโปร์อยากจะลดการปล่อยมลพิษลงครึ่งหนึ่งภายในปี ค.ศ.2050
.
ความล้ำๆ ของ Tengah คือท่อขยะพลังสูญญากาศที่ดูดขยะลงใต้ดิน รวมถึงถนนใต้ดินสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เรียกว่าเป็นเมืองแห่งอนาคตอย่างแท้จริง และที่น่าสนใจที่สุดคือ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาดยักษ์เพื่อผลิตพลังงานความเย็นในเมือง (สำคัญมากเพราะสิงคโปร์ร้อนเท่าบ้านเรา เผลอๆ ร้อนกว่า)
.
เพราะสิงคโปร์มองว่า เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการลดโลกร้อนของประเทศ คือการลดใช้ ‘เครื่องปรับอากาศ’ ด้วยความเป็นประเทศร้อนชื้น และคนมีรายได้ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงมีการติดแอร์ในทุกที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน หรือในที่สาธารณะ สิงคโปร์จึงกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนเครื่องแอร์ มากกว่าจำนวนประชากรในประเทศเสียอีก ขณะที่เทรนด์โลกบอกว่า มนุษย์มีความต้องการพลังงานในการสร้างความเย็นเพิ่มขึ้นปีละ 13% โดยเฉพาะในอาคารและในยานพาหนะ
.
งานวิจัยในหลายประเทศบอกตรงกันว่า วิธีหนึ่งในการลดความร้อนในเมืองที่ง่ายที่สุด ในระดับโครงสร้างเมือง ก็คือการสร้างระบบพลังงานความเย็นใต้เมือง (Underground Cooling Plant) ซึ่งจะให้ความเย็นได้ระยะกว้างหลายช่วงตึก ปัจจุบันสิงคโปร์ได้มีการสร้างโครงสร้าง Underground Cooling Plant ซึ่งอยู่ใต้ดินในย่านศูนย์กลางการเงิน Marina Bay ต่อท่อกระจายสู่ตึกหลายตึกในเมือง
.
ส่วนที่เมือง Tengah จะเพิ่มเติมด้วยการใช้โซลาร์พาวเวอร์ขนาดใหญ่ติดตั้งบนอาคารที่พัก และมีท่อน้ำเย็นต่อถึงกันทั่วตึกเพื่อสร้างความเย็น ซึ่ง SP Group ประเมินว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานลงได้มากถึง 30% โดยผู้อยู่อาศัยเลือกได้ว่าจะใช้ความเย็นจากระบบกลาง หรือจะซื้อแอร์มาติดเอง ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมคนให้เลือกใช้พลังงานทางเลือกใหม่ทันที
.
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี ค.ศ.2018 Tengah เปิดให้จองแฟลต 8,000 ห้อง และมีผู้อาศัยราว 1,000 ห้องเลือกใช้พลังงานส่วนกลาง โดยส่วนใหญ่ผู้พักอาศัยที่นี่จะเป็นคู่แต่งงานใหม่ ขณะที่ภายในปี ค.ศ.2023 Tengah เตรียมจะเปิดให้จองเพิ่มอีก 42,000 ยูนิต
.
ความน่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องคือการผลักให้ยานพาหนะของเมืองใหม่นี้ อยู่ใต้ดินเกือบทั้งหมด ทั้งเส้นทางรถไฟ ถนนทางเข้าเมือง รวมไปถึงลานจอดรถ การออกแบบนี้เพื่อให้บนดินมีพื้นที่สำหรับสวน การทำเกษตรในเมือง และเส้นทางการเดินและจักรยานของประชาชน
.
นอกจากนี้เมืองใหม่ยังมีการออกแบบระบบจัดเก็บขยะโดยคิดถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยระบบลำเลียงขยะด้วยลมอัตโนมัติ โดยเมื่อผู้พักอาศัยทิ้งขยะลงในช่อง ระบบจะดูดขยะไปเก็บรวมกันผ่านท่อใต้ดินที่ติดตั้งเป็นระบบ ลดกลิ่นและกันการรั่วไหลของสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งในอนาคต Tengah มีแผนจะใช้ขยะเปลี่ยนเป็นพลังงานก๊าซ ซึ่งยังอยู่ในช่วงต้นของการวิจัยและทดลอง
.
อ้างอิงข้อมูลจาก