กลายเป็นประเด็นร้อนในชั่วข้ามคืนที่เกือบทุกสำนักข่าวต่างพูดถึง สำหรับคำถามที่ว่า ‘แจ็ค หม่าหายไปไหน?’ หลังมีคนสังเกตว่ามหาเศรษฐีชาวจีนคนนี้หายหน้าหายตาไปจากพื้นที่สาธารณะนานกว่า 2 เดือน อีกทั้งยังไม่ได้ไปปรากฎตัวในรายการ ‘Africa’s Business Heroes’ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งที่เดิมทีแล้วแจ็ค หม่าจะต้องเป็นกรรมการตัดสินในตอนสุดท้ายนี้ แต่กลับมีผู้บริหารอีกท่านหนึ่งจาก Alibaba มาทำหน้าที่แทน
ด้วยการหายตัวไปนาน ประกอบกับเหตุการณ์เชิงลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับการ IPO หรือการเปิดขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรกของบริษัท Ant Group ซึ่งเป็นบริษัท Fintech ในเครือของ Alibaba ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าแจ็ค หม่าอาจเผลอทำอะไรที่ไปกระทบต่อผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ของประเทศจนนำมาซึ่งการบล็อค IPO บริษัท และหายตัวไปในที่สุด
แจ็ค หม่า ถือเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีน ด้วยจำนวนทรัพย์สินมหาศาล ประกอบกับการเป็นผู้ก่อตั้ง และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท Alibaba บริษัทอีคอมเมิร์ซขนาดยักษ์คู่แข่ง Amazon แม้เมื่อปี ค.ศ. 2019 เขาจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริหารของ Alibaba แล้ว แต่ก็ยังเป็นทำหน้าที่ดูแล Ant Group ซึ่งเป็นเจ้าของแอพลิเคชั่น ‘Alipay’ หรือแอพฯ ชำระเงินและศูนย์รวมบริการออนไลน์ของคนจีนที่เราเคยได้ยินชื่อกันนั่นเอง
แล้ว Ant Group เกี่ยวข้องอะไรกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของแจ็ค หม่า?
จุดเริ่มต้นของประเด็นคือ อยู่ดีๆ Ant Group ก็ถูกสั่งบล็อคการ IPO อย่างกระทันหัน ทั้งที่การ IPO ของ Ant Group ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นการ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ราว 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท แซงหน้าแชมป์เก่าอย่างบริษัท Saudi Aramco จากซาอุดีอาระเบียที่ IPO ไปด้วยมูลค่า 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ และแซงมูลค่า IPO ของ Alibaba เกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ การเบรค IPO ของ Ant Group จึงสร้างความสะเทือนในกับวงการการเงินอย่างมาก นักวิเคราะห์จากหลายสำนักจึงคาดการณ์ว่าคนที่จะทำการใหญ่เช่นนี้ได้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘สีจิ้นผิง’ ประธานาธิบดีของจีนนั่นเอง
แน่นอนว่าการคาดการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา แจ็ค หม่า ได้ขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการเงินที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนนั่งฟังอยู่ด้วยหลายคน ทั้ง อี้กัง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศจีน โจวเจียอี๋ รัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงหวังฉีซาน ผู้ช่วยของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงด้วย
ในการกล่าวสุนทรพจน์วันนั้น แจ็ค หม่าได้วิพากษ์วิจารณ์ระบบตรวจสอบของจีนว่าเป็นการขัดขวาง และหยุดยั้งการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมทั้งบอกว่าข้อตกลงในการกำกับดูแลด้านการธนาคารที่ออกโดย Basel Committee on Banking Supervision เป็น ‘คลับของคนแก่’ และอีกหนึ่งวาทะที่น่าจะสะเทือนหลายๆ คนได้ดีที่สุดคือ การเปรียบธนาคารจีนเป็นโรงรับจำนำ ที่ต้องใช้หลักประกันมูลค่าสูง จนทำให้ผู้ทำ SMEs รายย่อยไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนได้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่หม่าพูดนั้นเป็นความจริง
หลังจากแจ็ค หม่าขึ้นเวทีดังกล่าวไม่ถึง 2 สัปดาห์ คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์จีนรวมทั้งธนาคารแห่งชาติจีนได้เรียกผู้บริหารของ Ant Group รวมทั้งแจ็ค หม่าเข้าพบ ก่อนที่วันถัดมา Ant Group ก็โดนคำสั่งฟ้าผ่า ระงับการเปิด IPO ทำให้มหาเศรษฐีชาวจีนผู้นี้สูญเงินไปกว่า 34.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปในพริบตา จนสำนักข่าว The New York Times ยกย่องให้คำพูดของแจ็ค หม่าเป็น ‘The most expensive speech in history’ ไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าคำพูดของแจ็ค หม่า ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้ Ant Group โดนระงับการ IPO แต่ด้วยมูลค่าธุรกิจมหาศาล ประกอบกับอิทธิพลที่จะตามมาในอนาคต Ant Group จึงถูกจับตาเป็นพิเศษจากหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากแอพฯ Alipay มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ใช้งานสัญชาติจีนมากกว่าหนึ่งร้อยล้านคน อีกทั้งยังมียอดธุรกรรมทางการเงินสูงถึง 18 ล้านล้านดอลลาห์ หรือราวๆ 5.4 ร้อยล้านล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังแสดงความกังวลว่ารูปแบบการปล่อยกู้โดยไม่มีหลักประกันผ่านระบบออนไลน์ของ Ant Group อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน และระบบธนาคารของจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดการผูกขาดตลาดการเงินในอนาคต ทางการจึงมีคำสั่งให้ระงับการ IPO จนกว่าจะมีการแก้ไขให้เป็นไปตามระเบียบที่ยอมรับได้
การล้ม IPO ก่อนจะเปิดขายไม่ถึง 48 ชั่วโมง เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของผู้มีอาจใหญ่สุดในจีน อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนทางอ้อมถึงเหล่ามหาเศรษฐีคนอื่นๆ ในประเทศไม่ให้กระทำการใดๆ ที่ส่อเป็นภัยต่อภาพรวมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งจีน และประเทศ หากไม่อยากถูกสกัดดาวรุ่ง รานา มิตเตอร์ (Rana Mitter) ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีน จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (University of Oxford) กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์พยายามแสดงอำนาจให้เห็นว่าแจ็ค หม่าไม่มีทางที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าพรรคได้ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าจีนเป็นประเทศที่เหมาะจะทำธุรกิจ และช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แจ็ค หม่าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์กระอักกระอ่วนเช่นนี้ แต่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของใหญ่ของมหาเศรษฐีชาวจีนผู้นี้ว่าจะสามารถกอบกู้อาณาจักรการเงินของตนเองให้กลับมาเฟื่องฟูได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีตัวแปรสำคัญอย่าง ‘สีจิ้นผิง’ เข้ามาร่วมวงด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2020/12/24/technology/china-jack-ma-alibaba.html
https://qz.com/1946723/theres-no-place-for-a-jack-ma-in-todays-china/
https://www.aljazeera.com/economy/2020/10/26/bb-ant-group-set-to-surpass-aramco-as-biggest-ever-ipo
https://www.nytimes.com/2020/11/06/technology/china-ant-group-ipo.html
#Explainer #TheMATTER