เกือบ 1 ปี หลัง ผบ.ทบ.ประกาศ ‘คำสัญญา’ ต่อสาธารณชนว่าจะแก้ไขปัญหา หลังเหตุ #กราดยิงโคราช คุณคิดว่า การปฏิรูปธุรกิจเชิงพาณิชย์บนที่ดินราชพัสดุของกองทัพบก จะมีความคืบหน้าไปถึงไหน?
.
ต้นสัปดาห์ก่อน The MATTER โทรศัพท์ไปสอบถามกับ ยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่บริหารจัดการที่ดินราชพัสดุ ถึง ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ในการใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุของกองทัพบก (ทบ.) ที่มีรวมๆ กันกว่า 1,000,000 ไร่ ทั่วประเทศ
.
หากใครยังจำกันได้ ทบ.เคยทำ MOU ร่วมกับกรมธนารักษ์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ว่าจะร่วมกันจัดการที่ดินราชพัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่ดินราชพัสดุของ ทบ.ทั้งหมด มีกว่า 300,000 ไร่ที่หน่วยงานยังใช้ประโยชน์อยู่ อีก 700,000 ไร่ ถูกประชาชนบุกรุก ขณะที่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ เช่น สนามมวย สนามม้า สนามกอล์ฟ โรงแรม ก็จะปรับวิธีคิดค่าเช่า เพื่อให้นำเงินเข้าคลังได้มากขึ้น รัฐบาลจะได้มีรายได้มาใช้จ่ายในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป
.
ยุทธนาบอกว่า กรณีที่ดินราชพัสดุของ ทบ. ที่ประชาชนบุกรุก พบว่ามีจำนวนประชาชนเกี่ยวข้องกว่า 1.2 แสนราย ให้มาทำสัญญาเช่าร่วมกับ ทบ.และกรมธนารักษ์แล้ว 7 หมื่นราย ในปีนี้จะให้ได้เพิ่มอีก 3 หมื่นราย คาดว่าจะได้ครบทั้งหมดภายในปี พ.ศ.2565 ในกรณีประชาชนเหล่านั้นให้ความร่วมมือ แต่กรณีไม่ให้ความร่วมมือ ก็คงต้องฟ้องขับไล่ต่อไป
.
ส่วนธุรกิจเชิงพาณิชย์ เช่น สนามมวย สนามม้า สนามกอล์ฟ โรงแรม ยุทธนากล่าวว่า กรมธนารักษ์จะเก็บค่าเช่าในอัตรา 5% ของมูลค่าที่ดินนั้นๆ (ไม่ใช่จากตัวเลขรายได้หรือกำไรสุทธิ) คำนวณย้อนหลังสามปี โดยจะคำนวณไปก่อนยุค COVID-19 ที่บางแห่งทำธุรกิจไม่ได้ แต่อาจจะให้ส่วนลดสำหรับบางแห่งที่มีผลประกอบการขาดทุน เช่นอาจจะลดจากอัตรา 5% เหลือ 3%
.
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทบ.ยังส่งข้อมูลให้กับกรมธนารักษ์ไม่ครบถ้วน โดยอ้างว่าที่ผ่านมาติดสถานการณ์ COVID-19 ทั้งนี้ ตนทราบมาว่า นอกจากโรงแรมและสนามกอล์ฟที่สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็ยังมีโรงแรมที่ จ.เชียงใหม่อีกแห่ง ที่ ทบ.จ้างให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการแทน โดยจะจ่ายค่าเช่าที่ดินให้กับกรมธนารักษ์ แล้วนำเงินส่วนที่เหลือเป็นสวัสดิการให้กับกำลังพล
.
“จากการประเมิน การปรับปรุงการใช้ประโยชน์จากที่ดินราชพัสดุ ทั้งของ ทบ. รวมไปถึงกองทัพเรือ กองทัพอากาศ รัฐวิสาหกิจไปจนถึงหน่วยงานราชการอื่นๆ น่าจะทำให้กรมธนารักษ์ได้รับเงินจากค่าเช่าเพิ่มมากขึ้นปีละหลายพันล้านบาท ไม่ใช่แค่ 1,500 ล้านบาท ตามที่เคยแถลงข่าวไว้” อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าว
.
สำหรับผลประกอบการของธุรกิจเชิงพาณิชย์ในที่ดินราชพัสดุของ ทบ. ชั้นสนามม้า สนามมวย สนามกอล์ฟ และโรงแรม The MATTER เคยได้รับข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องใน ทบ. พบว่ามีอยู่อย่างน้อย 43 โครงการ สร้างรายได้รวมกันปีละกว่า 724 ล้านบาท (จุดที่ทำรายได้ให้มากที่สุดก็คือ สนามกอล์ฟรามอินทรา 149 ล้านบาท โรงแรมสวนสนประดิพัทธิ์ 112 ล้านบาท สนามม้าโคราช 94 ล้านบาท โรงแรมบางปู 86 ล้านบาท และสนามกอล์ฟสวนสนประดิพัทธ์ 57 ล้านบาท) เมื่อนำมาหักค่าใช้จ่ายต่างๆ พบว่าเป็นกำไรสุทธิราว 75 ล้านบาท
.
อยากชวนทุกๆ คนให้มาติดตามให้กองทัพบกทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อไป เพราะมันหมายถึงการที่รัฐบาลจะได้มีเงินมาพัฒนาประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วย
.
.