เตียงนุ่มในห้องแอร์เย็นฉ่ำ โซฟาตัวยาวที่บีบให้สองเราแนบชิด หน้ากระจกเห็นสีหน้าเร้าอารมณ์ เปียกปอนใต้ฝักบัว เราต่างมีพื้นที่โปรดสำหรับกิจกรรมเข้าจังหวะ ยิ่งได้หย่อนกายลงตรงนี้เมื่อไหร่ ยิ่งทวีคูณความเสวได้มากเท่านั้น
แต่หลายคนกลับไม่ปรารถนาร่วมรักใต้ชายคาอย่างมิดชิด ทว่ากระหายความตื่นเต้น รอดเร้นสายตาผู้อื่น ยิ่งต้องหลบซ่อนเท่าไหร่ ไฟรักก็ยิ่งโหมกระหน่ำ ใต้ความตื่นเต้นนั้นมีอะไร ทำไมหลายคนถึงชื่นชอบเซ็กซ์นอกสถานที่กันนะ?
“ถ้าเบื่อเรื่องบนเตียง ออกไประเบียงบ้างก็ได้”
ประโยคสองแง่สองง่ามที่เราได้ยินกันบ่อยๆ อาจเรียกเสียงขำขันจากความทะลึ่งตึงตังของการย้ายกิจกรรมทางเพศที่ควรอยู่ในที่ลับไปอยู่กลางแจ้ง มองว่านี่ช่างเป็นเรื่องแฟนตาซี ใครมันจะไปทำอย่างนั้นกันล่ะ เฉลย มีเพียบ! โดยผลสำรวจจากสื่อ swnsdigital พบว่า ชาวอเมริกันกว่า 76% เคยมีเซ็กซ์นอกสถานที่ และจุดปักหลักความเสวยอดนิยม ได้แก่ รถยนต์ สนามหลังบ้าน ชายหาด เส้นทางเดินป่า และจุดพักรถบนทางหลวง และชาวอเมริกันอีก 69% มักเลือกสถานที่ที่เสี่ยงจะถูกจับได้
ฉากหลังเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงจินตนาการ แต่เป็นรสนิยมหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก จนสามารถนับเป็นหนึ่งหมวดหมู่แยกออกมาจากรสนิยมอื่นๆ ได้เลยล่ะ อย่างที่เราอาจเคยผ่านตาในชื่อ Public หรือ Outdoor นั่นเอง ตั้งแต่ระดับมือใหม่ ย้ายไปหน้าต่าง ให้คนตึกข้างๆ สงสัยเล่นๆ ว่าเงาตะคุ่มหลังม่านนั้นคืออะไร ขยับไปสูดอากาศริมระเบียง เบาะเคียงข้างในรถที่จอดลับตาคน ไปจนถึงนอกสถานที่แบบฮาร์ดคอร์ อย่างสถานที่กลางแจ้งซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการพบเห็นของผู้คน
กิจกรรมนอกสถานที่ที่ว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นการมีเซ็กซ์แบบสอดใส่อย่างที่เราเคยทำในที่รโหฐานเสมอไป อาจเป็นแค่การลูบไล้ เล้าโลม หรือช่วยตัวเอง (และคนอื่น) ก็ได้ แต่โดยรวมมันคือการย้ายกิจกรรมที่เราเคยคิดว่าควรทำในที่ลับตาคน ในพื้นที่ส่วนตัวอย่างสบายใจ ไปหลบลี้หนีสายตาผู้คนด้านนอก ให้มันตื่นเต้นเอาเล่นๆ ส่วนคนที่ไม่ได้ชื่นชอบกิจกรรมนี้อาจรู้สึกว่า หากมีความกังวลแล้วจะมีอารมณ์ได้ยังไงกัน แต่ในทางตรงกันข้าม คนที่ชื่นชอบกิจกรรมนอกชายคาเหล่านี้ พวกเขากลับรู้สึกว่ายิ่งรู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ ยิ่งกระตุ้นให้พวกเขามีอารมณ์มากเท่านั้น
แล้วอะไรกันทำให้บางคนแปรเปลี่ยนความเสี่ยงเป็นความเร้าใจ?
คำอธิบายจากดร.เจส โอเรลลี่ (Jess O’Reilly) ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ ชี้ให้เห็นว่า ตัวละครหลักในเรื่องนี้คือ โดปามีน สารสื่อประสาทที่มักหลั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อความพึงพอใจ เราจึงมักคุ้นเคยว่าเจ้าโดปามีน นี้จะหลั่งออกมาเมื่อเรามีความสุข กับเรื่องใต้สะดือก็เหมือนกัน แม้จะเป็นแค่ข้อความซุกซน ชมสื่อลามก (แต่เสวจริง) ไปจนลูบคลำทำจนเสร็จกิจ โดปามีน ก็จะออกมาทำหน้าที่ไม่มีเว้น จนสมองเราจดจำว่า โดปามีน เนี่ยมันเป็นเหมือนรางวัล พอเอาสิ่งนี้ไปประกอบกับกิจกรรมนอกสถานที่ ยิ่งเสี่ยง ต้องหลบ หรือต้องซ่อนเท่าไหร่ เมื่อเราทำสำเร็จโดปามีน จะยิ่งพรั่งพรูออกมามากเท่านั้น กลายเป็นว่าเซ็กซ์ที่ยิ่งเสี่ยงว่าจะมีคนเห็น ยิ่งให้ผลลัพธ์ที่หวานหอมราวกับแอปเปิ้ลในสวนเอเดน
คำอธิบายดังกล่าวยังสอดคล้องกับความเห็นของอารอน เบน-ซีฟ (Aaron Ben-Zeév) นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอารมณ์และความรัก ซึ่งกล่าวถึงการมีเซ็กซ์นอกสถานที่ว่า ความตื่นเต้นของเราจะทำงานเหมือนสัญญาณกันขโมย ยิ่งเราต้องเพ่งสมาธิไปกับการหลบเลี่ยงผู้คนเท่าไหร่ อารมณ์ของเราจะยิ่งเข้มข้นมากเท่านั้น แต่สิ่งกระตุ้นนี้จะได้ผลแค่ชั่วคราวเท่านั้น หากถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเดิมบ่อยๆ ก็จะไม่ตื่นเต้นกับสิ่งเร้านั้นอีกต่อไป
นั่นอาจหมายความว่า สิ่งที่เราเสพติดจริงๆ นั้นไม่ใช่ความต้องการเปิดเผยเรือนร่างให้ธารกำนัลได้เห็น หรืออยากจะประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะให้ใครดู แต่เราเสพติดความหอมหวานของโดปามีน หลังจากทำเรื่องแสนซนนั้นสำเร็จต่างหาก
หากวัดกันที่ความตื่นเต้น เซ็กซ์นอกสถานที่อาจเป็นรักรสชาติเย้ายวนที่เราอาจเผลอจินตนาการในใจกันสักครั้ง แต่หากมองในแง่กฎหมายบ้านเมืองของเราแล้ว การมีเซ็กซ์ในที่สาธารณะผิดหรือเปล่านะ?
คงต้องตอบว่า ผิดเต็มประตูเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นโชว์เรือนร่างวาบหวิว โชว์กิจกรรมเดี่ยวให้ใครเห็น หรือเซ็กซ์สอดใส่เต็มระบบ หากทำในที่สาธารณะแล้วมีคนพบเห็น เขาสามารถแจ้งตำรวจมารวบได้เลย เมื่ออิงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
เอ๊ะ! แต่ถ้าเราไม่ขายหน้า ออกไปทางชื่นชอบ แบบนี้จะไม่ผิดหรือเปล่า? ก็เขาบอกว่าต้องทำแล้วขายหน้านี่นา อันนี้ก็ไม่ได้นะ สิ่งนี้ก็ยังผิดในแง่ของกฎหมายอยู่ดี นอกจากคนทำจะผิดแล้ว คนที่เก็บภาพความประทับใจ หวังไปแบ่งปันรอยยิ้มบนโลกอินเทอร์เน็ต ก็จะโดนความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (4) เป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่นำภาพไปเผยแพร่ต่อในสังคมออนไลน์ จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (5) มีอัตราโทษเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เราหยิบเรื่องราวดังกล่าวนี้มาเล่า เพื่อให้ทุกคนได้ความเข้าใจเซ็กซ์ในหลากหลายมิติ โดยไม่ได้มีเจตนาสนับสนุนให้ใครทำผิดทั้งนั้น หากใครจะลองชิมรสรักนอกสถานที่ โปรดระมัดระวังไม่ให้ผิดกฎบ้านกฎเมืองด้วยนะ
อ้างอิงจาก