เปิดเวทีกันแล้ว กับหนึ่งในวาระทางการเมืองที่สำคัญและต้องจับตามอง อย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่ง The MATTER ได้สรุปประเด็นที่น่าสนใจ จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกมาให้ชมกันแล้ว
1.สุทิน คลังแสง ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งประเด็นซักถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เกี่ยวกับประสิทธิภาพ และความสามารถในการบริหารจัดการประเทศ โดยมีการยกเอาปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาหนี้สิน และการจัดสรรวัคซีน COVID-19 ที่ล่าช้ามาเป็นตัวอย่างของการบริหารงานที่ล้มเหลว นอกจากนี้ยังอภิปรายถึงประเด็นการทุจริต โดยมีการเอื้อผลประโยชน์ให้พวกพ้องของตน
2.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยระบุว่า ทั้ง 3 คนมีพฤติกรรมฉ้อโกง ปฏิบัติหน้าที่โดยเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง และยังสมคบคิดกับเจ้าของบ่อนพนันต่างๆ จนเป็นเหตุนำมาสู่การแพร่ระบาดของ COVID-19
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบคำถามเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินว่า ได้ชี้แจ้งทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 2 กับ ป.ป.ช. ไปเรียบร้อยแล้ว ที่เหลืออยู่ที่ทาง ป.ป.ช. จะเปิดเผยกับสาธารณะเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงปฏิบัติงานเพื่อผลประโยชน์ ประยุทธ์กล่าวว่าข้อมูลที่นำมาอภิปรายเป็นข้อมูลดิบ ที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ หากเป็นเช่นนั้นจริงให้ฟ้องร้องนอกสภา แต่ยืนยันว่า ไม่เคยรับประโยชน์ หรือเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบแม้แต่บาทเดียว
3.สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งประเด็นถึงกรณีของสนามมวยลุมพินี ซึ่งเป็นคลัสเตอร์แรกเริ่มของ COVID-19 ซึ่งจัดขึ้นหลังจากมีคำสั่งห้ามจัดงาน โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เพื่อนของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน รวมถึงปัญหาบ่อนการพนันที่เป็นผลจากการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบที พร้อมกับถามว่านายกฯ เซ็นตั้งตำรวจเองจริงหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอบายมุข ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มมาตรการและความเข้มข้นขึ้น กำกับดูแลไม่ให้มีการเล่นการพนันในทุกพื้นที่ ส่วนกรณีของสนามมวยลุมพินีนั้น ก็ได้สอบสวนไปแล้ว ซึ่งทำให้เกิดแนวปฏิบัติขึ้นมา
4.อมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ตั้งประเด็นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกรณีไม่แสดงรายการเกี่ยวกับบ้านพักในค่ายทหาร และการหนีภาษี มีความผิดตามมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญ และความผิดตามประมวลรัษฎากร จากการไม่นำค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าจากกองทัพ ไปรวมเข้าเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษี รวมถึง การรับประโยชน์ค่าไฟฟ้าเกิน 3,000 บาททุกเดือน
ประเด็นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบเอง แต่มอบให้ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แจง ซึ่งวิษณุได้ยกอนุมาตรา 6 มาตรา 42 ประมวลรัษฎากร ซึ่งระบุว่า ในเรื่องของข้าราชการที่ได้รับอนุญาตให้อยู่บ้านหลวง ได้รับรถหลวง เติมน้ำมันหลวง น้ำหลวง ไฟหลวง ต้องนำมาเสียภาษีในฐานะที่เป็นเงินได้พึงประเมิน ถ้านายกฯ จะต้องเสีย ก็ต้องเสียเหมือนกันทั้งประเทศ
วิษณุกล่าวว่า เงินได้ที่ทางราชการจ่ายให้เป็นเงินค่าเช่าบ้าน หรือเงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่ทางราชการให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า เงินช่วยการศึกษาบุตร เงินช่วยเหลือบุตร เบี้ยกันดาร เงินยังชีพ หรือเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา ไม่ต้องนำมาคำนวณในฐานะที่เป็นเงินได้พึงประเมิน
5.ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งประเด็นถามกรณี คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ ซึ่งมีบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมา และยังมีการเบี่ยงข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องความเร็วรถของดาบตำรวจวิเชียร และการสรุปคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อวรยุทธ อยู่วิทยา แม้ว่าจะมี กมธ.ท่านอื่นท้วงแล้ว แต่ กมธ.ที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันที่จะส่งเรื่องต่อ
ล่าสุด เวลา 21.20 น. ส.ส.ธีรัจชัย ยังคงอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ ส่วนประเด็นที่น่าสนใจพรุ่งนี้จะมีอะไรบ้าง รอติดตามชมกันได้นะ
*หมายเหตุ: อัพเดทข้อมูลถึงเวลา 21.20 น.
#อภิปรายไม่ไว้วางใจ #Recap #TheMATTER