Area 51 หนึ่งในพื้นที่ที่ถูกกล่าวขานว่าซ่อนความลับมากมาย ซึ่งใครหลายคนอยากไปเห็นสักครั้ง และดูเหมือนโอกาสนั้นจะมาถึงแล้ว หลังชาวไร่ครอบครัวหนึ่งหนึ่งประกาศขายฟาร์มปศุสัตว์ที่ตั้งอยู่ใกล้ Area 51 พร้อมวัวกว่า 100 ตัว ที่ได้รับสิทธิพิเศษสามารถเข้าไปกินหญ้าในพื้นที่สุดลึกลับได้
นักไล่ล่าเอเลี่ยนทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับถนนสาย State Route 375 และ The Black Mailbox หรือตู้ไปรษณีย์สีดำ ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางถนนอันแสนโดดเดี่ยว โดยสตีฟและเกล็นดา เมดลิน (Steve and Glenda Medlin) เจ้าของตู้ไปรษณีย์นี้เอง ที่เป็นผู้ประกาศขายกิจการต่างๆ พร้อมด้วยวัวมากกว่า 100 ตัว และที่ดินจำนวน 80 เอเคอร์ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับฐานทัพ Area 51 ด้วยราคาทั้งหมด 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สตีฟ และเกล็นดา ซื้อที่ดินและทรัพย์สินในพื้นที่แห่งนี้เมื่อราวๆ ปี ค.ศ.1973 ซึ่งในขณะนั้นการก่อตั้ง Area 51 ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเช่นทุกวันนี้ ตามรายงานของ Mystery Wire ประมาณหนึ่งทศวรรษหลังจากนั้น กองทัพอากาศของสหรัฐฯ ได้เริ่มเข้ามาสำรวจพื้นที่ และเริ่มรวบรวมที่ดินในระแวกนั้น 89,000 เอเคอร์เพื่อสร้างฐานทัพ ซึ่งที่ดินที่กองทัพต้องการ บางส่วนเป็นที่ดินที่ครอบครัวเมดลินใช้เลี้ยงสัตว์ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้วัวของเมดลินสามารถเข้าไปกินหญ้าในพื้นที่หวงห้ามได้ เพียงแต่ต้องติดต่อล่วงหน้าผ่านวิทยุที่ทางฐานทัพจัดเตรียมไว้
การประกาศขายพื้นที่ทำเลทอง ? สร้างความสนใจให้กับเหล่านักไล่ล่าเอเลี่ยนอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่บ็อบ ลาซาร์ (Bob Lazar) นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า เขาเคยทำงานอยู่ในฐานทัพ Area 51ในหน้าที่ทำวิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) เทคโนโลยีต่างๆ ที่พบจากดาวนอกโลก และที่ Area 51 มียานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวจอดอยู่ ฐานทัพแห่งนี้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องนอกโลก
บทสัมภาษณ์ของลาซาร์ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว และดึงดูดให้เหล่าผู้หลงใหลเอเลี่ยนมายังทะเลทรายอันเวิ้งว้างในรัฐเนวาดา นักเดินทางหลายคนขับรถไปจนถึงรั้วของ Area 51 และปักหลักค้างคืนอยู่เพื่อรอที่จะได้เห็นการปรากฎตัวของ UFO (Unidentified Flying Object)
ครอบครัวเมดลิน ซึ่งเป็นผู้เห็นความเฟื่องฟูการท่องเที่ยวเชิงเอเลี่ยนมาตลอด กล่าวว่า ด้วยเหตุผลบางอย่าง เหล่านักไล่ล่าเอเลี่ยนมักจะคิดว่าเอเลี่ยนจะปรากฎตัวในคืนวันอังคาร ไปจนถึงช่วงเช้ามืดของวันพุธ นั่นทำให้มีนักเดินทางแวะเวียนมาที่นี่อยู่เสมอ ครอบครัวของพวกเขาจึงสร้างตู้จดหมายสีดำขึ้นมาเพื่อให้เหล่านักเดินทางทิ้งจดหมายไว้ ซึ่งปัจจุบันตู้จดหมายนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการมาเยือนไปเรียบร้อยแล้ว
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 ครอบครัวเมดลินเปลี่ยนกล่องจดหมายสีดำเป็นกล่องจดหมายสีขาว โดยมีป่ายกำกับเขียนไว้ว่า ‘ALIENS’ และ ‘DROP BOX’ เพื่อหวังให้ผู้มาเยือนจากนอกโลกจะใช้กล่องจดหมายเหล่านี้ในการติดต่อกับมนุษย์โลก
แม้ว่า 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะไม่ใช่เงินก้อนเล็กๆ แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคน ที่ยอมทุ่มเงินจำนวนนี้ในการซื้อที่ดินสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และวัวที่มีอภิสิทธิ์เหนือวัวทั่วโลก เพื่อให้ตนเองมีโอกาสได้เข้าใกล้ และสังเกตการณ์หนึ่งในพื้นที่ที่ลึกลับที่สุดในโลกสักครั้ง
อ้างอิงจาก
https://www.vice.com/…/for-45-million-you-can-live…