นอกจากสถานการณ์ COVID-19 ในบ้านเราที่น่าเป็นห่วง ในอีกมุมหนึ่งของโลกกำลังเกิดการปะทะอย่างดุเดือด ระหว่างปาเลสไตน์ และอิสราเอล ซึ่งล่าสุดมีผู้บาดเจ็บแล้วมากกว่า 200 คน
สำหรับชนวนเหตุความขัดแย้งในครั้งนี้คืออะไร The MATTER จะมาสรุปให้ฟัง
- อย่างที่หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าดินแดนปาเลสไตน์ และอิสราเอลเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งกันมาอย่างช้านาน อธิบายคร่าวๆ ก่อนว่า พื้นที่ประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ดั้งเดิม แต่ในปี ค.ศ.1948 ขบวนการไซออนิสต์ของยิวได้ประกาศตั้งประเทศอิสราเอล และขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากอาหรับ ให้ไปอยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซา และเวสต์แบงก์
- ประกอบกับทั้งสองกลุ่มศรัทธากันคนละศาสนา และต่างต้องการเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์นครเยรูซาเลม ทำให้เกิดความขัดแย้งกันมาตลอด และสถานการณ์ก็ยิ่งแย่ลงไปอีก หลังสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่าการตั้งถิ่นฐานของชาวยิว ในดินแดนปาเลสไตน์ไม่ถือเป็นการผิดกฎหมาย
- สำหรับชนวนเหตุความขัดแย้งในครั้งนี้ เกิดจาก 2 เหตุการณ์ใหญ่ๆ โดยเริ่มต้นจากรัฐบาลอิสราเอลบังคับใช้มาตรการควบคุมการรวมตัว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอด ส่งผลชาวชาวปาเลสไลน์ที่นับถือศาสนาอิสลามไม่สามารถทำพิธีสวดมนต์บริเวณประตูดามัสกัส ซึ่งเป็นประตูศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่านครเยรูซาเลม
- อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางการอิสราเอล ได้ยกเลิกมาตรการปิดกั้นพื้นที่ประตูดามัสกัส ทำให้บรรยากาศระหว่างสองกลุ่มผ่อนคลายลง แต่หลังจากนั้นไม่นาน อิสราเอลได้ทำการฟ้องร้องเพื่อขับไล่ครอบครัวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในย่านชีคจาร์ราห์ ในเยรูซาเลมตะวันออก เนื่องจากต้องการนำพื้นที่ดังกล่าวไปเป็นที่อยู่อาศัยให้ชาวยิว ทำให้ชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจอย่างมาก ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายสั่นคลอนอย่างหนัก
- ความขัดแย้งนี้ลากยาวมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และเริ่มมีการใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจรัฐบาลอิสราเอลที่แสดงให้เห็นว่าไม่ให้ความร่วมมือต่อพิธีกรรมทางศาสนา อีกทั้งยังขับไล่พวกเขาออกไป ขณะที่ชาวอิสราเอลเองก็ไม่พอใจที่ปาเลสไตน์ก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
- อับเดล ฟาตาห์ สกาฟี ชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งที่ถูกขับไล่ระบุว่า อิสราเอลต้องการยึดครองเยรูซาเลม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวยิว มุสลิมและคริสเตียน และต้องการกลืนกินดินแดนทั้งหมด ด้วยการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกไป
- แม้ทั้งสองฝ่ายจะปะทะกันมาเรื่อยๆ แต่เหตุการณ์รุนแรงเริ่มต้นขึ้นจริงๆ ในวันที่ 7 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจของอิสราเอลได้โจมตีชาวปาเลสไตน์ด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง รวมถึงใช้กระสุนยาง และระเบิดควัน เพื่อสกัดกั้นผู้ชุมนุมชาวปาเลสไตน์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการกระทำของชาวยิวเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ขณะที่ชาวปาเลสไตน์มีเพียงมัสยิดอัล-อักซอเป็นที่กำบัง และมีอาวุธเป็นก้อนหิน และสิ่งของ ที่ถูกเขวี้ยงใส่เจ้าหน้าที่อิสราเอลเท่านั้น
- อิสราเอลยังโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มฮะมาส ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหนึ่งของปาเลสไตน์ และมีกองกำลังติดอาวุธ ขณะที่กองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ ก็ยิงจรวด 4 ลูกไปยังอิสราเอล แต่จรวดทั้งหมดถูกสกัดทำให้เดินทางไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่ผู้คนในฉนวนกาซาเดินหน้าโต้ตอบด้วยการปล่อยบอลลูนไฟไปยังทางตอนใต้ของอิสราเอล เพื่อให้เกิดเหตุไฟไหม้
- ภาพเหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างสองกลุ่มแพร่กระจายไปทั่วโลก สร้างความกังวลใจให้กับนานาชาติ รวมถึงองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ออกมาแถลงการณ์ โดยเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์ รูเพิร์ต โคลวิลล์ โฆษก UN กล่าวว่า “เราเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการขับไล่ชาวปาเลสไตน์” และเตือนว่าพฤติกรรมที่อิสราเอลกำลังทำ อาจเข้าข่าย ‘อาชญากรรมสงคราม’
- ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน และอังกฤษ ก็ออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลยุติแนวคิดที่จะลุกล้ำและสร้างอาณานิคม 540 ในพื้นที่ Har Homa E ของดินแดนเวสต์แบงก์ และหยุดการขยายดินแดนเข้าไปในพื้นที่ของปาเลสไตน์ ขณะที่ประเทศจอร์แดน ก็ออกมาประณามว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อิสราเอลเป็นการลิดรอนสิทธิของชาวปาเลสไตน์ และเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน
- นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มสี่ว่าด้วยตะวันออกกลาง (Quartet on the Middle East) ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ว่า เป็นกังวลต่อสถานการณ์ในเยรูซาเลมตะวันออก หลังมีผู้บาดเจ็บจากการปะทะหลายร้อยราย พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการใช้ความรุนแรง มีความอดทนอดกลั้น และหยุดพฤติกรรมดังกล่าวก่อนจะทำให้ทุกอย่างบานปลาย
- แต่ถึงเช่นนั้น สถานการณ์ระหว่าง 2 กลุ่มก็ยังไม่ดีขึ้น ชาวยิวยังออกมาเดินขบวน และโบกธง เนื่องในวันเยรูซาเล็ม เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่อิสราเอลเข้าไปยึดครองเยรูซาเลมตะวันออกในปี ค.ศ.1967 การเดินขบวนดังกล่าว ถูกมองว่าจงใจยั่วยุให้ชาวปาเลสไตน์โกรธแค้น
- เหตุการณ์ความขัดแย้งส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก สภาเสี้ยววงเดือนแดงของปาเลสไตน์รายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์บาดเจ็บจากเหตุการณ์รุนแรงนี้แล้วกว่า 278 คน โดยผู้บาดเจ็บ 5 รายมีอาการสาหัส
- ขณะที่หลายฝ่ายมองว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะยุติลงอย่างใด โดยเฉพาะเมื่อทางอิสราเอลก็ไม่มีทีท่าจะถอยในศึกครั้งนี้ เนื่องจากในการประชุมคณะรัฐมนตรีพิเศษ ก่อนวันเยรูซาเลม เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า “จะไม่ยอมให้กลุ่มหัวรุนแรงใดๆ เข้ามาทำลายความสงบในเยรูซาเลม เราจะบังคับใช้กฎหมาย และสั่งการอย่างเด็ดขาด”
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/…/evictions-jerusalem-israeli…
https://www.aljazeera.com/…/european-powers-tell-israel…
https://www.theguardian.com/…/dozens-injured-in-clashes…
https://www.washingtonpost.com/…/822ce066-af68-11eb…