การมีวัคซีน COVID-19 ‘ทางเลือก’ เป็นหนึ่งในข้อเสนอของคนไทยหลายๆ คนเรียกร้อง ยิ่งมากยี่ห้อ มากจำนวน ยิ่งดี
ด้านหนึ่ง จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เตรียมจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน พร้อมแอบแง้มมาว่าเป็นของ Sinopharm รัฐวิสาหกิจของจีน (ส่วน Sinovac เป็นเอกชนจีน) แต่สิ่งที่ชวนถามต่อไปก็คือ แล้ว Sinopharm ไหน? เพราะวัคซีน COVID-19 แบรนด์นี้ แท้จริงแล้วมี 2 ตัว ที่มาจากแหล่งผลิตที่แตกต่างกัน
โดยตัวหนึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้อยู่ในทะเบียนใช้งานฉุกเฉิน (EUL – emergency use listing) ส่วนอีกตัวอยู่ระหว่างยื่นขอ
วัคซีนจาก Sinopharm ใช้เทคโนโลยีเชื้อตายเช่นเดียวกับ Sinovac ข้อแตกต่างก็คือ ประสิทธิภาพในการป้องกันโรค COVID-19 ที่เอกสารจากกรมควบคุมโรคระบุไว้ว่า สูงถึง 79.4% หลังฉีดครบ 2 เข็ม
ที่บอกว่า Sinopharm มี 2 ตัว คือตัวหนึ่งถูกพัฒนาที่ปักกิ่ง โดยบริษัท Beijing Bio-Institute of Biological Product (BIBP) จึงมักใช้ชื่อย่อว่า BIBP-CorV ซึ่งตัวนี้ถูกรับรองให้ใช้ฉุกเฉินโดย WHO แล้ว เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2564 อีกตัวถูกพัฒนาที่อู่ฮั่น โดยบริษัท Wuhan Institute of Biological Products (WIBP) จึงมักใช้ชื่อย่อว่า WIBP-CorV ที่อยู่ระหว่างยื่นเรื่องให้ WHO รับรอง
ที่น่าสนใจก็คือ ในกราฟิกของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเผยแพร่ไม่กี่วันก่อน ระบุว่า วัคซีนจาก Sinopharm ที่กำลังขอขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในไทย มีชื่อการค้าว่า COVILO ซึ่งวารสาร Nature ระบุว่าเป็นตัวที่มาจากอู่ฮั่น (WIBP-CorV) แต่จากเอกสารข่าวของ WHO กลับระบุว่าเป็นตัวที่มาจากปักกิ่ง (BBBIP-CorV) ที่รับรองให้ใช้ฉุกเฉินแล้ว
ในงานแถลงข่าวเปิดตัววัคซีนทางเลือกที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในวันที่ 28 พ.ค.2564 ทางผู้เกี่ยวข้องอาจจะต้องให้ความชัดเจนว่า วัคซีน Sinopharm ที่กำลังจะนำเข้ามาให้กับคนไทย จะเป็นตัวที่ผลิตจากแหล่งใด ระหว่างปักกิ่งหรืออู่ฮั่น
เพื่อเป็นข้อมูลให้กับประชาชนใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกฉีดวัคซีนนี้หรือไม่
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/nithi.mahanonda/posts/10159281408923895
https://extranet.who.int/pqweb/sites/default/files/documents/Status_COVID_VAX_18May2021.pdf
https://www.nature.com/articles/s41392-021-00621-4.pdf?origin=ppub
https://apps.who.int/iris/rest/bitstreams/1346940/retrieve
https://www.fda.moph.go.th/SitePages/News.aspx?IDitem=1278
#Brief #TheMATTER