Disney+ Hotstar ประกาศเตรียมเปิดให้บริการในไทย 30 มิถุนายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป โดยจะนำเสนอคอนเทนต์จากดิสนีย์พลัสออริจินัล, มาร์เวล, พิกซาร์, Star Wars รวมไปถึงเนชั่นแนลจีโอกราฟิก และคอนเทนต์จากผู้ผลิตในประเทศไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน
ทั้งหมดรวมเป็นภาพยนตร์กว่า 700 เรื่อง และซีรีส์กว่า 14,000 ตอน ในนั้นรวมไปถึงซีรีส์ที่หลายคนรอคอยอย่าง Loki, The Falcon and the Winter Soldier และ Wanda Vision ด้วยค่าบริการ 799 บาท/ปี สามารถดูพร้อมกันได้ 2 จอ และดาวน์โหลดมาเก็บได้ (ตามเงื่อนไข) ขณะที่ AIS ในฐานะพาร์ตเนอร์ให้บริการท้องถิ่น ประกาศเปิดให้สมัครได้ก่อนใครในราคาพิเศษระหว่าง 8-27 มิถุนายน พ.ศ.2564 (ระบบจะคิดค่าบริการ 29 มิถุนายน เป็นต้นไป) ตกเดือนละ 35 บาท และดูฟรี 1 เดือน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมี Hot Star ห้อยท้าย? Hotstar เป็นบริการสตรีมมิ่งรายใหญ่ในอินเดีย และเป็นบริษัทย่อยของ ‘21st Century Fox’ ซึ่งหลังจากที่ Disney ซื้อกิจการของ 21st Century Fox มาแล้วจึงรวม ‘Disney+’ และ ‘Hotstar’ เข้าด้วยกันเพื่อเป็นโมเดลไปเปิดให้บริการในภูมิภาคอื่นๆ หรือในประเทศที่ประชากรรายได้เฉลี่ยต่ำ
โดย Disney+ Hotstar จะมีความแตกต่างตรงที่การเปิดพร้อมกันได้เพียง 2 จอ ระบบเสียงเป็น Dolby Digital 5.1 ขณะที่ Disney+ ซึ่งเป็นสตรีมมิ่งตัวเต็มจะเปิดรับชมพร้อมกันได้ 4 จอ และใช้ระบบเสียงเป็น Dolby Atmos
Content by Narisara Suepaisal
#Brief #business #TheMATTER