หากใครเป็นแฟนคลับศิลปินเจ้าของฉายาเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อปอย่าง ‘บริทนีย์ สเปียร์ส’ คงได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับการฟ้องศาลเรียกร้องให้มีการเปลี่ยน ‘ผู้พิทักษ์’ ทรัพย์สิน ชีวิต สุขภาพ และงานทั้งหมด หลังก่อนหน้านี้ เจมี สเปียร์ส พ่อแท้ๆ ของเธอได้รับสิทธินี้ไป แต่ในวันนี้ บริทนีย์ได้ออกมาประกาศว่า “เธอต้องการชีวิตของเธอคืน”
บริทนีย์ สเปียร์ส ได้ขึ้นแถลงต่อศาลในการพิจารณาฟ้องร้องให้พ่อของเธอยุติการเป็นผู้พิทักษ์ หลังจากละเมิดสิทธิในการใช้ชีวิตของเธอมานานกว่า 13 ปี นับตั้งแต่ ปี ค.ศ.2008 ที่ศาลมอบอำนาจให้เจมี่ สเปียร์ส พ่อของเธอควบคุมทรัพย์สิน อาชีพ และทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตส่วนตัวของเธอ
“ฉันต้องการให้เจมี่ สเปียร์สยุติบทบาทในการเป็นผู้ดูแลทรัพย์สิน และชีวิต ภายใต้การปกครองของเขา มันไม่ได้ส่งผลดีใดๆ กับตัวฉันเลย” บริทนีย์ เล่าว่า เธอถูกบังคับให้ทำงานอย่างหนัก พ่อของเธอขัดขวางไม่ให้เธอมีชีวิตรักที่ปกติ ไม่ให้แต่งงานและไม่ให้มีลูก เธอถูกกีดกันจากคนรักและเพื่อนๆ รวมถึงยังไม่ได้รับอนุญาตให้ไปพบแพทย์
บริทนีย์กล่าวว่า “ที่ผ่านมาฉันโกหก บอกกับคนทั้งโลกว่าฉันไม่เป็นไร ฉันยังมีความสุขดี แต่มันไม่ใช่” พร้อมเล่าว่า สถานการณ์ที่เธอเจอไม่ต่างอะไรกับการค้ามนุษย์ บริทนีย์ต้องทำงานอย่างหนัก แต่ไม่มีสิทธิในการใช้ทรัพย์สินของตัวเองได้อย่างอิสระ ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.2018 เธอกล่าวว่าเธอถูกบังคับให้แสดงคอนเสิร์ตในขณะที่ร่างกายไม่พร้อม โดยขู่ว่าหากไม่ทำทางบริษัทจะฟ้องร้องเธอ “ฉันกลัว… ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นทาสของใคร” บริทนีย์กล่าวในชั้นศาล
หลังจากเริ่มถูกกดดันให้ขึ้นแสดง เธอเริ่มแสดงอาการต่อต้าน จากนั้นผู้บริหารทั้งหมดก็กล่าวว่าหาว่าเธอไม่ได้กินยาตามที่หมอสั่ง และบังคับให้เธอเข้ารับการบำบัดที่ในเวสต์เลค ซึ่งเต็มไปด้วยปาปารัสซี่ นั่นยิ่งทำให้บริทนีย์ยิ่งอยู่ในภาวะเครียด และเมื่อถึงจุดหนึ่ง เธอถูกบังคับให้กินลิเทียม (Lithium) ยาทางจิตเวชที่ใช้รักษาอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งมันทำให้อาการของเธอยิ่งแย่ลงอีก “ฉันรู้สึกมึนเมาตลอด ฉันไม่สามารถแม้แต่จะพูดคุยกับแม่หรือพ่อ… แต่พวกเขานิ่งเฉย และไม่เคยช่วยอะไรฉันเลย”
ในการพิจารณาคดี บริทนีย์ขอให้เธอได้มีโอกาสพูดถึงเหตุการณ์ทั้งหมด หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอถูกห้ามไม่ให้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อหน้าสื่อ บริทนีย์ยืนยันว่า เธอไม่ควรถูกควบคุมในเมื่อตัวเองสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด พร้อมเสริมว่า กฎหมายจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่รู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตที่สมบูรณ์
นี่เป็นครั้งแรกที่บริทนีย์ออกมาพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธออย่างเป็นทางการในรอบ 13 ปี และนั่นทำให้แฟนคลับหลายคนของเธอตกใจ และเศร้าสลด รวมถึงเรียกร้องให้ศาลตัดสินอย่างเป็นธรรม โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม โดยในระหว่างที่มีการพิจารณาคดี มีแฟนๆ บางส่วนมารวมตัวก่อนที่หน้าศาลพร้อมถือธง และสวมเสื้อ #FreeBritney เพื่อให้กำลังใจเธอจากด้านนอก
“ฉันต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับบริทนีย์ สเปียร์สคืออาชญากรรม” เทส บาร์กเกอร์ (Tess Barker) หนึ่งในพิธีกรช่องพอดแคสต์ Britney’s Gram กล่าว ขณะที่คาร์ลอส โมราเลส แฟนคลับวัย 26 ปีเสริมว่า “เธออยู่กับฉันมาตลอดชีวิต ดนตรีของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน และฉันมาที่นี่เพื่อสนับสนุนเธอ และตอบแทนบทเพลงเธอ”
นอกจากเหล่าแฟนคลับ เพื่อนดารายังออกมาสนับสนุนบริทนีย์ สเปียร์ส ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มารายห์ แครี่ (Mariah Carey) ที่ออกมาทวีตว่า “เรารักคุณบริทนีย์!!! เข้มแข็งไว้” ขณะที่แบรนดี้ นอร์วูด (Brandy Norwood) ก็ออกมาโพสต์ว่า “ขอส่งความรักและการสนับสนุนให้บริทนีย์และแฟนๆ ของเธอ” พร้อมติดแฮชแท็ก #FreeBritney
จัสติน ทิมเบอร์เลก (Justin Timberlake) อดีตคนรักเอง ก็ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยระบุว่า หลังจากทุกสิ่งที่เราได้เห็น เราทุกคนควรสนับสนุนบริทนีย์ ไม่ว่าอดีตของเราจะเป็นอย่างไร จะดีหรือร้าย จะนานแค่ไหน สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในวันนี้มันไม่ถูกต้อง ผู้หญิงควรมีสิทธิตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเธอเอง
บทสรุปของคดีนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอดูกันต่อไปว่าศาลจะตัดสินออกมาในทิศทางไหน ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลทั่วโลกต่างติดแฮชแท็ก #FreeBritney จนติดเทรนด์อันดับ 1 เพื่อให้กำลังใจเธอ และใช้แฮชแท็กนี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการต่อต้านการใช้ความรุนแรง รวมถึงการบังคับใช้แรงงานในครอบครัวอย่างไม่เป็นธรรม
อ้างอิงจาก
https://www.theguardian.com/…/britney-spears…
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-57586405