อินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า ทำให้สถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤต หมอติดเชื้อ COVID-19 เตียงรักษาคนไข้ไม่เพียงพอ ออกซิเจนขาดแคลน จนทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า อินโดนีเซียกำลังเดินหน้าไปอยู่จุดเดียวกับอินเดียในเวลาไม่ช้า
คำถามที่ตามมาคือ อะไรทำให้อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ฉีดวัคซีนได้มากที่สุดในโซนอาเซียนตกอยู่ในภาวะที่ระบบสาธารณสุขใกล้ล่มสลาย ซึ่งในวันนี้ The MATTER จะมาสรุปคร่าวๆ ให้ฟังกัน
- หากดูกราฟผู้ติดเชื้อใหม่ จะเห็นว่าอินโดนีเซียเริ่มมีอัตราผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จะอยู่ในระดับ 4,000-5,000 ราย ก่อนจะพุ่งขึ้นเป็นหลักหมื่นรายในช่วงต้นเดือนมิถุนายน และแตะ 2 หมื่นรายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจุบันมียอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 57,561 ราย (30 มิถุนายน)
- ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น สวนทางกับทรัพยากรสาธารณสุขที่ลดน้อยลงทุกวันโดยเฉพาะบุคคลากรทางการแพทย์ หลังเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานว่า แพทย์ชาวอินโดนีเซียกว่า 400 คนติดเชื้อ COVID-19 และมีแพทย์เสียชีวิตมากกว่า 20 ราย (เฉพาะเดือนมิถุนายนเดือนเดียว) แม้จะได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 โดสแล้วก็ตาม
เหตุการณ์นี้ ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า วัคซีน Sinovac มีประสิทธิภาพยับยั้ง COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า หรือสายพันธุ์อินเดียได้จริงหรือไม่
- Sinovac เป็นวัคซีนตัวหลักที่ใช้อินโดนีเซียใช้ โดยสมาคมการแพทย์อินโดนีเซียเปิดเผยว่า ปัจจุบันแพทย์ชาวอินโดนีเซียประมาณ 90% หรือประมาณ 1.6 แสนคนได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac แล้ว และเมื่อเทียบกับอัตราแพทย์ที่เสียชีวิตก็ยังถือว่าน้อย ประกอบกับเมื่อดูข้อมูลการเสียชีวิตของแพทย์ก่อนฉีดวัคซีนกับหลังฉีดวัคซีน พบว่า อัตราการเสียชีวิตน้อยลงมาก จากที่ 2 เดือนก่อนมีแพทย์เสียชีวิตจาก COVID-19 ราว 60 คน แต่หลังฉีดลดลงเหลือเกือบ 30 คน
- แม้ว่าข้อมูลสถิติชี้ไปในทิศทางนั้น แต่ชาวอินโดนีเซียหลายคนกลับมองว่า ไม่ควรมีแพทย์ หรือประชาชนคนใดเสียชีวิตจาก COVID-19 หลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มอีก หากยังมีตัวเลขเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ รัฐบาลควรพิจารณานำเข้าวัคซีนตัวอื่นที่มีประสิทธิภาพกว่า มาฉีดเพื่อคุมการรระบาด
- เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้กระแสความไม่เชื่อมั่นวัคซีนในอินโดนีเซียยิ่งเพิ่มสูงขึ้น หลายคนเลือกที่จะปฏิเสธการรับวัคซีน แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดเกือบจะเข้าขั้นวิกฤต นั่นทำให้แม้ว่าอินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนได้สูงสุดในโซนอาเซียน แต่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วราวๆ 5% ของประชากรเท่านั้น
- สำหรับอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การระบาด COVID-19 ในอินโดนีเซียกระจายไปกว้างขวางอย่างรวดเร็ว คือการเคลื่อนย้ายของประชาชนชาวมุสลิมในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งจะมีการเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนายังจุดต่างๆ
ประกอบกับ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า ขึ้นชื่อเรื่องการติดเชื้อที่รวดเร็ว เพียง 5-10 วินาทีหลังการสัมผัส ยิ่งทำให้หลังพฤษภาคมที่ผ่านมา การระบาดในอินโดนีเซียไม่ได้เป็นเพียงการระบาดเป็นคลัสเตอร์ย่อมๆ แต่กลับกระจายไปหลายพื้นที่ในประเทศอย่างรวดเร็ว
- อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อินโดนีเซียเดินทางมาถึงจุดที่ระบบสาธารณสุขใกล้ล่มสลาย คือ ความลังเลใจในการออกมาตรการคุมเข้มของรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงกิจกรรมที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ เช่น การจำกัดการเดินทางทางอากาศ หรือทางเรือ ที่เป็นกิจกรรมหลักในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ
เฮอร์มาวัน สปุตรา นักระบาดวิทยาและสมาชิกของสมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของชาวอินโดนีเซีย (IAKMI) ออกมาเตือนว่า การปิดร้านอาหาร หรือการให้นักเรียนเรียนออนไลน์ไม่ได้ทำให้การระบาดหยุดลง แต่ต้องทำควบคู่กับกำกับจำกักการเดินทางสาธารณะ
- อย่างที่กล่าวไปข้างต้น อินโดนีเซียกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตบุคคลากรแพทย์น้อยลงเรื่อยๆ จากการติดเชื้อ สวนทางกับผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจนเตียงรักษาพยาบาลไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในกรุงจาการ์ตา ที่มีอัตราการครอบครองเตียงสูงถึง 93% ขณะที่โรงพยาบาลบางแห่งมียอดครองเตียงเกิน 100%
ซิติ นาเดีย ทาร์มิซี โฆษกของกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า “โรงพยาบาลเต็มแล้ว เนื่องจากจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้น จากการเคลื่อนย้ายข้ามพื้นที่ของประชาชน การไม่ยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดอย่างการรักษาระยะห่าง และไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย และทุกอย่างยิ่งแย่ลงเมื่อสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในปัจจุบันคือไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า”
แจน เกลฟานด์ หัวหน้าคณะผู้แทนของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) บอกว่า “การระบาดของสายพันธุ์เดลต้ากำลังทำให้อินโดนีเซียเข้าใกล้ชุดวิกฤตของสาธารณสุขมากขึ้นทุกที”
- เมื่อเตียงไม่พอ หมอไม่มี ชาวบ้านก็ต้องดิ้นรนหาทางรอดด้วยตัวเอง ส่งผลให้ความต้องการออกซิเจนในตลาดสูงขึ้น ราคาถังออกซิเจนพุ่งขึ้นเป็น 140 ดอลลาร์ จากปกติ 50 ดอลลาร์ เตาฟิก ฮิดายัต วัย 51 ปี เปิดเผยว่า เขากำลังเข้าคิวเพื่อเติมออกซิเจน สำหรับภรรยา และลูกชายที่ติด COVID-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้พยายามตระเวนหาที่อื่นๆ แต่ก็ไม่มีแล้ว ส่วนผู้ขายก๊าซอกซิเจนในพื้นที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สต็อกของเขาก็หมดแล้วเช่นกัน
- ปัจจุบันอินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,178,272 ราย ทำให้หลายฝ่ายกังวลใจว่า อินโดนีเซียกำลังจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับอินเดียในช่วง 2 เดือนก่อนหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลเองก็พยายามปรับแนงทางการรักษา โดยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้ผู้ป่วย ออกไปแพร่เชื้อข้างนอก
แต่หนึ่งในสิ่งที่หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลควรทำมากที่สุดในเวลานี้ คือการจัดสรรวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งไวรัสกลายพันธุ์มาฉีดให้ทั้งประชาชน และหมอโดยเร็ว อย่างน้อยหากติดเชื้อแต่อาการไม่รุนแรง ก็จะช่วยลดภาระให้ระบบสาธารณสุขไปได้มากทีเดียว
อ้างอิงจาก
https://www.straitstimes.com/…/indonesia-to-impose-hard…
https://www.aljazeera.com/…/indonesia-on-edge-of…
https://www.dw.com/…/indonesia-covid-health…/a-58013647…
https://edition.cnn.com/…/indonesia-oxygen…/index.html
https://www.thejakartapost.com/…/oxygen-prices-leap-in…
https://news.google.com/covid19/map?hl=th…