“จะไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกต่อไป” เสียงของผู้ร่วมชุมนุมในเมืองแวนิเพ็ค รัฐแมนิโทบา ประเทศแคนาดา ตะโกนกู่ก้อง ก่อนที่รูปปั้นของควีนเอลิซาเบ็ธจะถูกดึงลงมาสู่พื้นดิน และนำหัวของรูปปั้นไปโยนลงในแม่น้ำ
นับตั้งแต่แคนาดาได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1867 ชาวแคนาดาก็ถือกันว่าวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปีเป็นวันชาติ และมักมีการเฉลิมฉลองกันในทุกเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่มีการค้นพบโครงกระดูกของเด็กชาวพื้นเมืองในแคนาดา บรรยากาศในเมืองแวนิเพ็คต่างออกไป
ชาวแวนิเพ็คนับพันคนได้พร้อมใจใส่เสื้อสีส้ม ออกมารวมตัวบริเวณรัฐสภาแห่งรัฐแมนิโทบา แสดงจุดยืนเคียงข้างชนพื้นเมืองแคนาดา หลังก่อนหน้านี้มีรายงานว่า พบโครงกระดูกเด็กชนพื้นเมืองแคนาดาฝังอยู่ใต้พื้นดิน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงเรียนประจำที่เปิดตามนโยบายของรัฐบาลอาณานิคมอังกฤษ
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทาสีแดงที่มือของรูปปั้นควีนวิคตอเรีย พร้อมเขียนข้อความว่า “ครั้งหนึ่งเราล้วนคือเด็กเหล่านั้น, พาพวกเขากลับบ้าน” ก่อนจะดึงรูปปั้นลงมากระแทกกับพื้น และปฏิบัติคล้ายกันกับรูปปั้นของควีนวิคตอเรียที่ 2
นับตั้งแต่อังกฤษเข้ามาปกครองแคนาดา ได้มีการพรากเด็กชนพื้นเมืองแคนาดากว่า 150,000 คนจากครอบครัว ให้เข้าสู่ระบบการศึกษาภาคบังคับ ห้ามพูดภาษาพื้นเมือง ห้ามปฏิบัติตัวตามวัฒนธรรม และมีการทารุณพวกเขาด้วยหลายวิธีการ โดยมีการประเมินว่าตลอดระยะกว่าศตวรรษของนโยบายดังกล่าว มีเด็กเสียชีวิตอย่างน้อยถึง 6,000 ราย
“เธอ (ควีนวิคตอเรีย) ไม่ได้มีความหมายอะไรกับฉันเลย ยกเว้นนโยบายและการล่าอาณานิคมของเธอที่ทำให้ฉันและคุณมายืนอยู่ตรงนี้ วินาทีนี้” Belinda Vandenbroeck หนึ่งในชาวแคนาดาพื้นเมืองที่เคยผ่านระบบการศึกษาจากอังกฤษกล่าวกับสำนักข่าว CBC เธอยืนยันว่าไม่รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ไม่เคยเป็นหนึ่งเดียว
ทางด้านโฆษกรัฐบาลอังกฤษได้แถลงการณ์ถึงการกระทำดังกล่าวว่า “เราขอประนามทุกการกระทำที่น่าอับอายต่อรูปปั้นของพระราชินี” ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “ความคิดเราอยู่ข้างชาวแคนาดาพื้นเมือง” และยืนยันว่าอังกฤษจะทำงานร่วมกับแคนาดาในประเด็นของชนพื้นเมืองที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
ในวันเดียวกัน ณ เมืองคาลการี รัฐอัลเบอร์ตาของแคนดา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานว่ามีโบสถ์อย่างน้อย 10 หลังที่ถูกพ่นด้วยสีแดงและส้ม รวมถึงมีการเขียนตัวเลข ‘215’ อันเป็นจำนวนศพเด็กพื้นเมืองที่พบครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รูปปั้นที่ครั้งหนึ่งเคยยืนตระหง่านแทนความภูมิใจถูกทุบทำลาย เมื่อปีที่แล้ว หลังกรณีของจอร์จ ฟลอยด์ ในสหราชอาณาจักรก็ได้มีการทุบทำลายรูปปั้นของ Edward Colston นักค้าทาสชื่อดังในเมืองบริสตอล หรือในสหรัฐฯ ก็มีการทำลายรูปปั้นของผู้นำฝ่ายสมาพันธรัฐเช่นกัน
ดูคลิปวีดีโอทุบทำลายรูปปั้นควีนอลิซาเบ็ธของสำนักข่าว APTN NEWS ได้ที่:
https://twitter.com/APTNNews/status/1410753619431919618
อ่านเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่:
https://thematter.co/brief/147134/147134
https://thematter.co/brief/144582/144582
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-57693683
https://www.bbc.com/news/uk-england-bristol-52955868
https://www.theguardian.com/…/queen-victoria-statue…
#Brief #TheMATTER