“เขาก็บันทึกไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าอันนั้นคือแนวปฏิบัติ เพราะว่าหลังจากนั้นจะต้องมีอีกหลายขั้นตอน ที่จะมาตกลงกันว่าจะปฏิบัติตามแนวทางไหน เพราะฉะนั้นอย่าไปซีเรียส ลืมไปได้เลย”
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่า เอกสารหลุดที่มีคำแนะนำไม่ให้ฉีดวัคซีน Pfizer โดส 3 ให้แก่บุคลากรการแพทย์ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบความน่าเชื่อถือของ Sinovac เป็นเอกสารจริง
อนุทินกล่าวว่า เอกสารดังกล่าว เป็นการให้ความเห็นจากการประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการ ซึ่งมีแพทย์ระดับอาจารย์มาร่วม โดยแพทย์ทุกคนไม่ได้รับเินเดือน แต่ล้วนแล้วแต่เสียสละมาทำงานให้ โดยลักษณะการทำงานจะเป็นการให้ความเห็นด้านวิชาการ ส่วนเอกสารที่หลุดออกมา เป็นเพียงแค่การบันทึกความเห็น ไม่ใช่แนวทางนโยบาย
อนุทินย้ำว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงแค่ความเห็นของแพทย์แต่ละคน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีคณะกรรมการ เพราะจะได้ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ติดสินใจเชิงนโยบาย ทั้งนี้ ความเห็นดังกล่าวไม่ใช่แนวทางปฏิบัติ และตนเองสงวนที่จะไม่พูดในกรณีความเห็นด้านวิชาการ ว่าควรฉีด Pfizer ให้แก่บุคลากรแพทย์ด่านหน้าหรือไม่
อนุทินระบุอีกว่า หากคณะกรรมการด้านวิชาการตกผลึกมาอย่างไร ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะนำแนวทางมาปฏิบัติตาม โดยหากมีการขอร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจัดหาหรือช่วยเหลืออะไร ตนก็จะทำตามนั้น เพราะเป็นหน้าที่ของตนในฐานะรัฐมนตรี
สำหรับข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีน Sinovac อนุทินกล่าวว่าต้องไปถามแพทย์ที่ออกความเห็นเอง โดยขอปล่อยให้คนมีหน้าที่ได้ทำงาน การวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็สามารถพูดได้หมด แต่ทุกคนมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ไม่ว่าใครจะคิดอะไร ประโยชน์ก็ตกที่ประชาชน Sinovac ก็มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหนือกว่าที่กำหนด ในจีนก็มีการฉีดกัน ไม่เว้นแม้แต่ประธานาธิบดีของเขา แต่ก็ไม่เห็นมีผลเสียอะไร
ส่วนด้านกรณีการรับมอบวัคซีน Pfizer 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐฯ จะอยู่ที่การเจรจาของกระทรวงการต่างประเทศ แล้วกระทรวงสาธารณสุขจะปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่ทางกระทรวงการต่างประเทศได้เจรจากับประเทศผู้มอบวัคซีน เช่นเดียวกับกรณีที่เจรจาการรับมอบวัคซีน AstraZeneca จากรัฐบาลญี่ปุ่น
อ้างอิงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=DH1S3xLm6EI
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2811537
https://www.hfocus.org/content/2021/07/22122
#Brief #TheMATTER