หลังจากรอให้รัฐบาลชุดนี้แสดงท่าทีอะไรบางอย่างต่อวิกฤต COVID-19 ที่กระทบต่อชีวิตและรายได้ของคนทั้งประเทศ ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็แสดงสปิริตประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือน ระหว่างการประชุมด่วนของ ศบค.ชุดใหญ่ เช้าวันที่ 9 ก.ค.2564 ที่นัดไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้
หลังจากนั้น ก็มีคนใน ครม.อีกหลายๆ คนประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือนเช่นกัน อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
สิ่งที่ The MATTER สนใจและตั้งเป็นหัวข้อไว้ก็คือ “การประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือนของคนใน ครม. เพียงพอไหม?” ยังอยากให้ทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อยุติวิกฤต COVID-19 ครั้งนี้ที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ และไม่รู้ว่าเมื่อไร ประเทศไทยจะกลับไปสู่สภาวะปกติได้เสียที (ในขณะที่หลายๆ ชาติ ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติหรือใกล้เคียงปกติได้แล้ว)
1.) ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ รับเงินเดือน+เงินประจำตำแหน่ง รวมกัน 75,590+50,000=125,590 บาท การไม่รับเงินเดือน 3 เดือน เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปทำประโยชน์อื่นๆ จะเท่ากับ 376,770 บาท
ทั้งนี้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่ง ‘ควบ’ คือเป็นทั้งนายกฯ และ รมว.กลาโหม แต่ตามกฎหมายจะกำหนดให้รับเงินเดือนในตำแหน่งที่ได้เงินเดือนมากที่สุด เพียงตำแหน่งเดียว
2.) ส่วนการไม่รับเงินเดือนของ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกฯ จะอยู่ที่ 74,420+45,500=119,920 บาท (3 เดือนเท่ากับ 359,760 บาท) และจุติกับวราวุธ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) จะอยู่ที่ 73,240+42,500=115,740 บาท (3 เดือนเท่ากับคนละ 347,220 บาท) ส่วนเงินเดือนของรัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) จะอยู่ที่ 73,230+42,330=113,560 บาท
3.) ครม.ชุดปัจจุบัน มีจำนวน 36 คน ประกอบด้วยนายกฯ 1 คน / รองนายกฯ 6 คน / รัฐมนตรีว่าการ กับ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งไม่ควบตำแหน่งที่สูงกว่า 15 คน / รัฐมนตรีช่วยว่าการ ซึ่งไม่ควบตำแหน่งที่สูงกว่า 14 คน
ทั้งหมด รับเงินเดือนรวมกันอยู่ที่เดือนละ 4,171,050 บาท หากทุกคนประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือน จะรวมเป็นเงิน 12,513,150 บาท
4.) ขอแถมเป็นเกร็ดไว้นิดนึง ในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์กับอดีตแกนนำ คสช.คนอื่นๆ จะรับเงินเดือนเพียง ‘ทางเดียว’ เทียบกับก่อนเลือกตั้งในปี 2562 ที่คนกลุ่มนี้จะรับเงินเดือน ‘2 ทาง’ คือทั้งจากตำแหน่งใน ครม. และจากตำแหน่งใน คสช. เช่น พล.อ.ประยุทธ์ก็รับเงินดือนทั้งตำแหน่งนายกฯ กับหัวหน้า คสช.ด้วย (ระหว่างเดือน ส.ค.2557 – ก.ค.2562)
เรื่องนี้ The MATTER เคยเขียนเอาไว้แล้ว ไปย้อนดูกันได้ ชื่อบทความ “รับเงินเดือนหลายทาง เมื่อ คสช.ไม่ได้เสียสละเข้ามาปฏิรูปให้พวกเราฟรีๆ” https://thematter.co/quick-bite/thai-junta-salary/44219
5.) กลับมาสู่วิกฤต COVID-19 ย้อนกลับไปช่วงต้นปี 2563 ครม.เองก็เคยประกาศบริจาคเงินเดือน 1 เดือน เข้าไปสมทบ ‘กองทุนสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจาก COVID-19’ ของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ที่จนถึงกลางปี 2564 กองทุนนี้มียอดเงินบริจาครวม 28.3 ล้านบาท และได้เบิกจ่ายช่วยเหลือบุคลากรการแพทย์และผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายล้านบาท
6.) เวลาเดียวกัน นอกจากเงินเดือนของ ครม.แล้ว ยังมีเสียงเรียกร้องไปยังกลุ่มบุคคลที่ คสช.ตั้งขึ้นมา เช่น เหล่า ‘ส.ว.แต่งตั้ง’ ให้แสดงสปิริตสละเงินเดือนมาร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหา COVID-19
โดยปัจจุบัน ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน (ไม่รวม ผบ.เหล่าทัพที่เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง 6 คน ซึ่งประกาศไม่รับเงินเดือนล่วงหน้า เพราะมักจะไม่ค่อยเข้าประชุม) ได้รับเงินเดือนรวมกันกว่า 27.7 ล้านบาท หากสละเงินเดือนนี้ 3 เดือน จะรวมเป็นเงินถึงกว่า 83.1 ล้านบาท
และหากให้คณะทำงานของ ส.ว.แต่งตั้ง ที่ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงาน กว่า 1,800 คน ร่วมสละเงินเดือนด้วย 3 เดือน ก็จะได้เงินมาเพิ่มอีกกว่า 88.5 ล้านบาท
7.) เรียกว่าหากคนใน ครม.ประยุทธ์ทั้งหมด รวมถึงเครือข่ายอย่าง ส.ว.แต่งตั้ง และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น คณะทำงานร่วมใจกับบริจาคเงินเดือน 3 เดือน เพื่อมาช่วยแก้ปัญหา COVID-19 ก็จะได้เงินจากส่วนนี้นับร้อยล้านบาท!
8.) แต่ก็มีหลายคนมองว่า เรื่องการสละเงินเดือน แม้จะเป็นการแสดงสปิริตที่น่าชื่นชม แต่จำนวนเงินอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น เพราะรัฐบาลก็ออก พ.ร.ก.กู้เงินมาแก้ไขปัญหา COVID-19 ถึง 2 ฉบับ รวมวงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ที่กว่าจะใช้หนี้หมดก็น่าจะอีกหลายสิบปี ที่เงินก้อนนี้น่าจะเอาไปทำอะไรได้มากกว่า
9.) สิ่งสำคัญที่หลายๆ คนถามถึงในตอนนี้ คือ ‘ฝีมือ’ ในการบริหารจัดการของรัฐบาลซะมากกว่า ว่ามีเพียงพอที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคร้าย ในขณะเดียวกัน ก็คิดมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่างๆ ให้ผ่านวิกฤตนี้ไปโดยเจ็บน้อยที่สุดได้หรือไม่ เพราะจากสารพัดมาตรการที่เคยออกมาหลายครั้ง มักถูกวิจารณ์ว่า คิดไม่รอบคอบ-ไม่รอบด้าน เช้าพูดอย่างเย็นเปลี่ยนใจ บังคับให้คนเจ็บแต่ไม่จบ ฯลฯ โดยเฉพาะการจัดหาวัคซีน COVID-19 ที่ล่าช้า จำนวนน้อย แถมวัคซีนที่ได้มายังมีประสิทธิภาพไม่สูงนัก
10.) การแสดงสปิริตจากผู้มีอำนาจถือเป็นเรื่องดี เพราะอย่างน้อยๆ แสดงให้เห็นว่าคุณก็เริ่มรับผิดชอบกับอะไรบางอย่างแล้ว แต่ดีที่สุดน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด รับฟังเสียงวิจารณ์จากทุกๆ ฝ่าย เข้าใจหัวอกและตอบสนองความเดือดร้อนของประชาชน ได้มากกว่านี้
แล้วคุณล่ะ นอกจากสละเงินเดือนแล้ว อยากให้รัฐบาลชุดนี้ทำอะไรอีกบ้าง ?
#Brief #TheMATTER