ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในเยอรมนีและเบลเยียมรวมกันอย่างน้อย 122 รายแล้ว หลังสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าทางเยอรมนีว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย ขณะที่เบลเยียม 22 ราย ด้านเนเธอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์กได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้อย่างรุนแรงเช่นกัน
เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้นับว่าเป็นภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของเยอรมนี โดยมันเกิดขึ้นหลังฝนที่ตกหนักตลอดหลายวัน และหลังจากที่ประเทศในสหภาพยุโรปลงนามร่วมกันในข้อตกลงที่จะทำให้ประเทศในสหภาพยุโรปลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกลงร้อยละ 50 ภายในปี 2030 และกลายเป็นภูมิภาคไร้คาร์บอนภายในปี 2050
ในเยอรมนีมีการรายงานว่าในรัฐ Rhineland-Palatinate และ North Rhine-Westphalia จมอยู่ในน้ำท่วมขังที่วัดได้ถึง 148 ลิตรต่อตารางเมตร ภายในระยะเวลาแค่ 48 ชั่วโมง ซึ่งโดยปกติตลอดเดือนกรกฎาคมจะมีน้ำเพียง 80 ลิตรต่อตารางเมตรเท่านั้น
ทางตะวันตกของเยอรมนี ในเขต Ahrweiler มีรายงานว่าสัญญาณโทรศัพท์ไม่สามารถใช้การได้ และประชาชนมากกว่า 1,300 รายหายสาบสูญ ทางด้าน Schuld หมู่บ้านที่มีประชากรราว 700 ราย ถูกน้ำซัดบ้านเรือนจนพังพินาศเกือบทั้งหมด ขณะที่ในเมือง Sinzig มีรายงานว่าผู้พิการที่อาศัยอยู่ในบ้านพักดูแลอย่างน้อย 12 ราย เสียชีวิตหลังจากน้ำเข้ามาในตึกระหว่างที่พวกเขาหลับ และยังมีรายงานความเสียหายและสูญเสียอีกมาก
อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีขณะนี้กำลังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เพื่อพบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบโดน ได้ออกแถลงกับสื่อว่า “ฉันขอส่งความเห็นใจให้แก่ครอบครัวที่มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย และหัวใจฉันขอขอบคุณสำหรับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ทำงานกันอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย”
อย่างไรก็ดี แมร์เคิลกล่าวว่า “ฉันกลัวว่าในเร็ววันนี้ เราจะได้เห็นความเสียหายทั้งหมดจากภัยพิบัติครั้งนี้” ขณะที่ยังมีการคาดการณ์ในวันข้างหน้าว่า บางพื้นที่ของเยอรมนีจะยังคงมีฝนตกเพิ่ม
ทางการเยอรมนีส่งกองทัพ ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยกว่า 1,000 นาย เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่แล้ว โดยนำเฮลิคอปเตอร์เข้าไปรับผู้ประสบภัยบางส่วนที่ติดอยู่บนหลังคาบ้าน เช่นเดียวกับในเบลเยียมที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน ด้านประเทศอื่นในสหภาพยุโรปกำลังประสานงานกันเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือในพื้นที่ภัยพิบัติ
ผู้ช่วยชาญและนักวิทยาศาสตร์หลายคนมองตรงกันว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน และเป็นไปได้ที่ในอนาคตจะเกิดถี่ขึ้น หากทุกประเทศไม่หันหน้าร่วมมือกันมากขึ้น
Hannah Cloke นักอุทกวิทยากล่าวกับ Politico ว่า ระบบการเตือนภัยน้ำท่วมของสหภาพยุโรป (European Flood Awareness System: EFAS) ล้มเหลวอย่างชัดเจน ถึงแม้จะมีการเตือนแล้วว่าอาจเกิดอุทกภัยที่รุนแรงในสัปดาห์นี้
DWD หน่วยงานด้านอากาศวิทยาของเยอรมนีกล่าวว่า พวกเขาเตือนหน่วยงานท้องถิ่นแล้วถึงอุทกภัยและให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยของเยอรมนี Horst Seehofer กล่าวว่า “(เยอรมนี) ต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ในอนาคต” ก่อนทิ้งท้ายว่า “นี่คือผลลัพธ์จากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”
อ้างอิง: