ห้องฉุกเฉิน หรือ ER เป็นอีกหนึ่งแผนกที่สำคัญที่สุดในโรงพยาบาล แต่หลังการระบาด COVID-19 เริ่มรุนแรงมากขึ้น โรงพยาบาลหลายแห่งต้องปิดแผนก ER ชั่วคราว เนื่องจากไม่มีกำลังจะรับผู้ป่วยเพิ่ม โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีแผนก ER แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ ก็ได้ประกาศปิดแผนกชั่วคราวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tanida Pugsungnoen โพสต์ข้อความว่า “#ประกาศจากERรามาธิบดี ขออนุญาตแจ้ง ขณะนี้ยอดผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินที่ positive รวม 27 เคส รอผลอีก 3 (ทุกเคส ไข้เหนื่อย O2 sat drop) เตียงเต็ม ไม่มีเตียง admit ทั้ง intensive และ cohort) ขออนุญาตปิด ER เป็นการชั่วคราว งดรับเคสในทุกกรณีค่ะ”
ขณะที่สำนักข่าวเดลินิวส์รายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายออกมาแชร์ภาพโรงพยาบาลรามาธิบดี พร้อมระบุว่า ทำงานมา 5 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ทางโรงพยาบาลไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้ ไม่มีที่จอดรถ ไปป์เต็ม บุคลากรแพทย์ไม่พอ มีเคส COVID-19 เดิมค้างอยู่ไม่มีเตียง
“ตายตอนไหนแล้วแต่ดวงว่าเราจะเห็นตอนไหน พอตายแล้วจะส่งห้องศพ ก็ส่งไม่ได้ เพราะห้องศพก็เต็มเหมือนกัน ก็ต้องแพ็กไว้แล้วรอที่นี่ไปก่อน คิดว่า ER ทุกที่ก็คงไม่ต่างกันมาก และพวกเรามีแค่ Sinovac 2 เข็ม ถ้าผู้มีอำนาจประเทศนี้คิดว่าตัวเองบริหารดีแล้ว นอนหลับลงได้ทุกคืน ก็ขอให้โชคดีไม่ต้องมานอนตายหน้าตึกก็แล้วกัน” ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวบอก
ปัญหาผู้ป่วย COVID-19 ล้นโรงพยาบาลไม่ได้ส่งผลถึงผู้ป่วย COVID-19 เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงผู้ป่วยจากโรคอื่นๆ อย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ ไทยมี “อัตราการตายส่วนเกิน” (Excess Mortality) เพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นประมาณ 12% ขณะที่เดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นประมาณ 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ 5 ปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ช่วงที่ผ่านมาอัตราการครองเตียงของคนไข้อื่นๆ ที่ไม่ใช่ COVID-19 เริ่มน้อยลงเห็นได้ชัด ปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งมีอัตราการครองเตียงจากผู้ป่วย COVID-19 ประมาณ 50-60% ส่งผลกระทบถึงผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่ต้องรอเตียงนานขึ้น และทำให้อาการแย่ลง
นพ.อนุตตร บอกอีกว่า โรงพยาบาลหลายแห่งต้องปิดแผนกต่างๆ ชั่วคราว เพราะบุคลากรแพทย์ติดเชื้อ COVID-19 อย่างเช่นกรณีคนไข้ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ต้องมาที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่เมื่อบุคลากรในศูนย์ฟอกเลือดหรือคนไข้ติด COVID-19 ก็ต้องกักตัวคนอื่นๆ ต่อ ส่งผลถึงผู้ป่วยที่ต้องมาฟอกไตเป็นประจำต้องเลื่อนออกไป และมีบางรายเสียชีวิต
สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยอยู่ในจุดที่ยิ่งวิกฤตมากขึ้นเรื่อยๆ ทรัพยาการแพทย์ พยาบาล ไปจนถึงบุคลากรคนอื่นๆ ลดลงเรื่อยๆ ดังนั้น สิ่งที่หลายคนเรียกร้องในเวลานี้คือการเร่งนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการสกัดไวรัสกลายพันธุ์มาฉีดให้บุคลากรแพทย์และพยาบาล รวมถึงผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงให้เร็วที่สุด เพื่อให้สถานการณ์กลับมาอยู่ในจุดปกติโดยเร็ว
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/thai/thailand-57892752
https://www.khaosod.co.th/bbc-thai/news_6518740
https://www.dailynews.co.th/news/92927/
https://web.facebook.com/…/a.1052483541…/604486100939062
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10158182317686254&set=a.10150459916101254
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3936651076446556&id=100003051076491