แฮชแท็ก #ทวงpfizerให้หน่วยด่านหน้า กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์ หลังมีเอกสารจากกรมควบคุมโรค มติการประชุมคณะทำงานด้านการบริหารการจัดการวัคซีนโควิดไฟเซอร์ ลงวันที่ 30 ก.ค. 2564 ซึ่งมีรายละเอียดเกณฑ์การจัดสรรวัคซีน Pfizer ให้แก่บุคกลากรการแพทย์
โดยเอกสารดังกล่าวระบุถึงเกณฑ์ในการจัดสรรวัคซีนลอต 1.5 ล้านโดส ให้แก่บุคลากรการแพทย์ด้านหน้า แต่ประเด็นที่ถูกพูดถึงคือหัวข้อที่ 2 หรือ เกณฑ์บุคลากรสาธารณสุขที่ไม่เข้าเกณฑ์รับวัคซีน pfizer ในลอตนี้ ได้แก่
- ได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็ม
- ได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 แล้ว
- ได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac 1 เข็ม และ AstraZeneca 1 เข็ม
- ได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac หรือ AstraZeneca มาเพียง 1 เข็ม
- ได้รับการฉีดวัคซีนอื่นๆ
ขณะที่ในเอกสารอีกหน้าระบุว่า การจัดสรรวัคซีนเป็นไปเพื่อเข็มกระตุ้นเท่านั้น ไม่มีการฉีดเพื่อเข็มหนึ่ง
สังคมออนไลน์ตั้งคำถามถึงเกณฑ์ดังกล่าวว่า เท่ากับบุคลากรสาธารณสุขที่จะได้รับวัคซีน Pfizer เป็นเข็มกระตุ้นมีเพียงผู้ที่ได้รับ Sinovac ครบ 2 เข็มหรือเปล่า ?
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ โดยตั้วคำถามว่าเหตุใดไม่ฉีดวัคซีน Pfizer ให้แก่บุคลากรการแพทย์ทุกคนที่แสดงความประสงค์ “เมื่อเขาทำงานที่เสี่ยงที่สุด รัฐต้องมอบความปลอดภัยที่สูงสุดให้แก่พวกเขา ทำไมต้องมาสร้างเงื่อนไขอะไรให้มันยากด้วยนะ”
ด้านเพจเฟซบุ๊กกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้โพสต์แนวทางการจัดสรรวัคซีน Pfizer จำนวน 1.5 ล้านโดสว่า
- กระตุ้นเข็ม 3 ให้บุคลากรการแพทย์ 700,000 โดส
- กลุ่มเสี่ยง 608 ชาวไทยใน 13 จังหวัด 645,000 โดส
- กลุ่มเสี่ยง 607 ชาวต่างชาติ, ผู้ที่ต้องได้รับวัคซีนก่อนไปต่างประเทศ อาทิ นักเรียนจำนวน 150,000 โดส โดยมีกระทรวงต่างประเทศและศึกษาธิการเป็นผู้รับผิดชอบ
- เพื่อศึกษาวิจัยและตอบโต้การระบาด 5,000 โดส
อ้างอิง:
https://www.facebook.com/470988516420706/posts/1729433950576150/?d=n