พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษก บชน. ได้แถลงถึงประเด็นที่มีรถควบคุมผู้ต้องหาของตำรวจขับรถชนประชาชนแล้วหนี โดยระบุว่า บุคคลที่ก่อเหตุเป็นตำรวจในสังกัดตำรวจนครบาลจริง แต่ไม่ได้ชนแล้วหนี เพราะมีการแจ้งผู้บังคับบัญชาและให้ตรวจสอบเหตุแล้ว
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ บอกว่า กรณีที่มีคนแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถควบคุมผู้ต้องขังเฉี่ยวชนคนและหลบหนี บุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดตำรวจนครบาลจริง ได้รับคำสั่งจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ไปสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่หลังจากสถานการณ์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยุติลง ก็ได้รับคำสั่งให้นำรถไปจอดคอยเพื่อรอรับคำสั่งที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด
จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. ได้รับแจ้งว่าเหตุการณ์ยุติ มีการเปิดเส้นทางจราจร จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางกลับสังกัดได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถควบคุมผู้ต้องขังผ่านมาทางถนนวิภาวดี จนถึง 3 แยกดินแดง ระหว่างมาถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มบุคคลจำนวน 6-7 คน วิ่งเข้ามาแล้วใช้ของแข็งทุบรถควบคุมผู้ต้องขังและมีเสียงระเบิด
ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอาวุธและเกรงว่าจะได้รับอันตรายและทรัพย์สินเสียหาย จึงพยายามขับรถหลบหนี แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวพยายามขัดขวางจึงเกิดเหตุเฉี่ยวชน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็หันไปดู เห็นว่าคนที่ถูกเฉี่ยวชนไม่ได้มีอาการบาดเจ็บร้ายแรง จึงขับออกมาเนื่องจากเกรงว่าหากจอดนาน จะโดนรุมทำร้าย
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ บอกว่า ตัวรถเองก็ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถขับกลับสังกัดได้ จึงนำรถไปจอดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เดินทางกลับต้นสังกัดแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทราบทันที ทางผู้บังคับบัญชาก็แจ้งไปทางกองพิสูจน์หลักฐานกลางให้เข้ามาตรวจสอบเหตุกับโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่ก็ไม่ได้รับแจ้งว่ามีบุคคลใดเข้าไปรักษาตัว
ก่อนเวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจะไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.ดินแดง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภายในวันนี้จะไปร้องทุกข์กลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ ในข้อหาร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทำลายทรัพย์สินราชการ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า เจ้าหน้าที่คนที่ก่อเหตุมองไม่เห็นว่ามีรถขวางทางอยู่หรือจึงขับเฉี่ยวชน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ บอกว่า ไม่ใช่มองไม่เห็น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวนำอาวุธเข้ามารุมล้อมรถพร้อมกับทุบตีแล้วก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น
เจ้าหน้าที่พยายามขับรถหลับหนีจากที่เกิดเหตุ กลุ่มบุคคลดังกล่าวพยายามเข้ามาขัดขวาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามเบรกและหักหลบ แต่ก็เกิดเหตุเฉี่ยวชน จากนั้นก็หันไปดูไม่ได้รับอันตรายมาก จึงขับรถออกไปแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การชนแล้วหนี เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น มีการแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ตรวจสอบเหตุแล้ว แต่ไม่พบใครเข้ารักษาในสถานพยาบาลตามที่มีกระแสข่าวออกไป พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า หากบุคคลดังกล่าวคิดว่าได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ก็มีสิทธิดำเนินการตามกฎหมายเหมือนกัน
อ้างอิงจาก
https://web.facebook.com/watch/VoiceOnlineTH/
#Brief #TheMATTER