หลังจากเมื่อคืนวานนี้ (2 พฤศจิกายน) ที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงบนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการพูดคุยในประเด็นมาตรา 112 โดย ทักษิณเสนอว่า ตัวกฎหมายเองไม่เคยเป็นปัญหา ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในหลายทิศทาง โดยล่าสุด พรรคก้าวไกลได้ออกมาแถลงจุดยืนและท่าทีของพรรค ต่อการแก้ไขมาตรา 112 แล้ว
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงจุดยืนของพรรคในการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่รัฐสภาว่า พรรคก้าวไกลได้เคยเสนอกฎหมายเข้าสู่รัฐสภา 5 ฉบับ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายอาญา ที่ว่าด้วยการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ โดยความคืบหน้าในทุกวันนี้ กฎหมาย 4 ฉบับแรกกำลังถูกนำเข้ารัฐสภา แต่กฎหมายฉบับสุดท้ายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ มาตรา 112 กลับไม่ถูกนำเข้าไปพิจารณาด้วย โดยทางรัฐสภาให้เหตุผลว่า การแก้ไขมาตรา 112 อาจขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ที่ว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”
ชัยธวัช ระบุว่า พรรคก้าวไกลได้เสนอการแก้ไข มาตรา 112 ให้ยังคงมีโทษการจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่มีการกำหนดอัตราโทษขั้นต่ำ และยังมีการกำหนดโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำกฎหมายมาตรา 112 ไปกลั่นแกล้งกันในทางการเมือง จึงเสนอกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้พิจารณาในการฟ้องร้องเอง
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลเสนอว่า ผู้ใดที่ติชม และเสนอความเห็นอันสุจริต เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ ผู้นั้นไม่มีความผิด หรือถ้าพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่พูดเป็นความจริง ก็ให้ไม่มีความผิด ยกเว้นเว้นแต่เรื่องส่วนพระองค์ โดยข้อเสนอเหล่านี้ ถูกทางรัฐสภาแย้งว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลได้เคยทำหนังสือไปแล้วหนึ่งรอบ และในวันนี้จะทำหนังสืออีกครั้ง เพื่อยืนยันตามเจตนารมณ์และประวัติศาตร์ของรัฐธรรมนูญ ของระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญนั้นว่า ไม่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 6 แต่อย่างใด
พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้ประธานรัฐสภา นำร่างแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 เข้าสู่การรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำเข้าพิจารณาในรัฐสภา ของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลย้ำว่า การธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์คู่ระบอบประชาธิปไตย ไม่สามารถใช้กฎหมายจำกัดประชาชนเอาไว้ได้ พรรคก้าวไกลไม่เห็นว่า พรรคการเมืองจะมีเสถียรภาพมั่นคง หากมีกฎหมายที่ล้าหลัง ไม่เห็นคนเสมอหน้าเท่ากัน หากประเทศยังอยู่ภายใต้ระบบกฎหมายที่ราษฏรไม่ใช่เจ้าของประเทศ
ชัยธวัช ระบุว่า มาตรา 112 มีปัญหาทั้งในเนื้อหาและการบังคับใช้ ซึ่งจะกระทบต่อฐานะการเป็นที่เคารพศักการะขององค์พระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ มีกระแสการเรียกร้องในการยกเลิกมาตรา 112 ทำให้ถึงเวลาแล้วที่ผู้มีอำนาจ จะต้องคืนสิทธิ์ประกันตัวให้แก่คดีทางการเมืองต่างๆ ว่า ไม่ควรมีใครต้องอยู่ในคุก เพราะการแสดงออกทางการเมือง พรรคก้าวไกลเสนอว่า อาจมีความจำเป็นในการเสนอการนิรโทษกรรม และตอนนี้คือโอกาสในการพูดคุยและหาข้อยุติในการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112
พรรคก้าวไกลย้ำว่า ความพยายามแก้ไข มาตรา 112 ของพรรค เกิดขึ้นจากวิกฤตการเมืองนอกรัฐสภา และในฐานะพรรคการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่สามารถยกเว้น หรือไม่นำประเด็นดังกล่าวมาอภิปรายกันได้ โดยการแก้ไขจะทำให้กฎหมายมาตรา 112 ไม่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และรัฐสภาจะเป็นตัวกลางในการพูดคุยกันได้ ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลเห็นว่า การนำร่างการแก้ไขมาตรา 112 มาอภิปรายในรัฐสภา จะไม่ทำให้เกิดหนทางไปสู่การยกเลิกมาตรา 112 ในอนาคตได้
การถกเถียงในประเด็นการคงไว้ แก้ไข และยกเลิก มาตรา 112 ยังคงเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยเรื่อยๆ ท่ามกลางการนำกฎหมายดังกล่าว มาใช้เป็นข้อหาหลักของการดำเนินคดีทางความคิด ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มราษฎร ระหว่าง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ท่ามกลางวาระในการผลักดันให้มีการนำประเด็นมาตรา 112 ขึ้นมาพูดคุยกันในที่แจ้ง ทั้งบนท้องถนนของการประท้วง และในรัฐสภาของภาคนิติบัญญัติ เพื่อแก้ไขวังวนของการเมืองไทยในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/videos/303576218029784
#Brief #TheMATTER