พูดอะไรออกมา คิดหรอว่าคนฟังจะไม่รู้ทัน? ภาพลักษณ์กับนักการเมืองเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ และมันก็จำเป็นจริงๆ ที่นักการเมืองต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีและเหมาะสม เพื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน แต่บางครั้งภาพที่ถูกเนรมิตขึ้นมา มันก็ดูไม่ค่อยจริงเท่าไหร่เนอะ
คำถามคือแล้วทำไมในช่วงเวลานี้ นักการเมืองหลายคนถึงถูกจับผิดภาพลักษณ์ได้ง่ายมากขึ้น? อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ภาพลักษณ์เหล่านั้นโดนตรวจสอบได้อย่างเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมกันนะ?
เหตุผลแรกๆ คือ โดยทั่วไปแล้ว ประชาชนมักจะตั้งแง่สงสัยในภาพลักษณ์ของนักการเมืองอยู่แล้ว (เพราะเป็นนักการเมือง ทำอะไรก็มักจะเกี่ยวกับการเมืองเนอะ) สายตาที่ประชาชนมองเข้าไป จึงเป็นสายตาของการสงสัย/ตรวจสอบเป็นทุนเดิม ยิ่งเป็นนักการเมืองที่อยู่คนละขั้วกับตัวเองด้วยแล้ว ก็ไม่แปลกที่เหล่านักการเมืองจะถูกสงสัยในภาพลักษณ์เสมอๆ ว่าที่มีอยู่นี่คือ ‘ของจริง’ หรือ ‘การแสดง’
นอกจากนี้ เรากำลังอยู่ในยุคที่ทุกอย่างสามารถถูกตรวจสอบได้ง่ายขึ้น เมื่อคนที่อาสาเข้ามาเป็นนักการเมือง ก็เหมือนพาตัวเองเข้ามาอยู่ในการจับจ้องของสาธารณะ สิ่งต่างๆ ในอดีตอาจไม่เคยถูกตั้งคำถาม แต่เมื่อรับอาสามาเป็นนักการเมือง ที่อยากเข้ามาต้องจัดการผลประโยชน์สาธารณะ มันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกสังคม และสื่อมวลชนตรวจสอบภาพลักษณ์และประวัติอย่างหนัก—ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งปกติในสังคมประชาธิปไตย
เหตุผลต่อมาคือ คนรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะ Generation Z ที่ให้ความสำคัญกับ ‘ความต่อเนื่อง’ ของภาพลักษณ์นักการเมืองมากขึ้น เพราะพวกเขาคาดหวังกับบทบาทนักการเมืองว่า จะเป็นผู้แก้ไขปัญหาที่ถูกสะสมมาอย่างต่อเนื่องจากคนรุ่นก่อนๆ
กลยุทธ์การพีอาร์แบบเดิม คือขายฝัน หรือสร้างกระแสปลอมๆ ในโซเชียลมเดียอาจเคยได้ผลในยุคหนึ่ง แต่ Gen Z นี่แหละก็เป็นกลุ่มที่ Active กับโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก (เพราะพวกเขาใช้ชีวิตการสื่อดิจิทัลมาเกือบตลอดชีวิต) ดังนั้น การสร้างแฮชแทค หรือการเปิดประเด็นพูดถึงความไม่ชอบมาพากลเหล่านั้น จึงเกิดขึ้นได้ไม่ยากถ้าคนรุ่นใหม่เหล่านี้มองเห็นถึงปัญหาจริงๆ พวกเขามักไม่ลังเลที่จะส่งเสียงสะท้อนความคิดเห็นออกไป
รวมไปถึง ‘การจับโป๊ะ’ นักการเมืองที่ใช้ IO เพื่อสร้างกระแสหรือภาพลักษณ์หลอกๆ ก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพราะการตรวจสอบแอคเคาท์เหล่านั้น มันเริ่มถูกคนรุ่นใหม่ๆ จับทางรูปแบบได้แล้ว
อ.พิรงรอง รามสูต คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยเขียนไว้ในบทความที่เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจว่า
“ภายใต้ภูมิทัศน์สื่อและสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้นำทางการเมืองจำเป็นต้องรู้จักวิธีการใช้สื่อ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้ที่ดี และสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับมหาชนคนใช้อินเทอร์เน็ตผู้มีความสามารถและทักษะในการใช้สื่อเพื่อมีส่วนร่วมทางการเมืองและตรวจสอบผู้มีอำนาจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน”
เรากำลังอยู่ในยุคที่โซเชียลมีเดีย มีบทบาทกับอย่างยิ่ง ต่อการสร้างภาพลักษณ์ของนักการเมือง และในทางกลับกัน โซเชียลมีเดียนี่แหละ ก็จะเป็นสิ่งที่คอยตรวจสอบภาพลักษณ์เหล่านั้นด้วย
ถึงอย่างนั้น หากนักการเมืองคนไหน ความพยายามฝืนตัวเองตั้งแต่แรก พีอาร์ในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ขี้โม้โอ้อวดเกินจริง ก็ย่อมจะถูกตรวจสอบความจริงได้ในสักวันหนึ่ง
อ้างอิงจาก
https://thematter.co/…/politics-friendly-branding/130567
https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/109092
https://www.pewresearch.org/…/generation-z-looks-a-lot…/
https://www.pewresearch.org/…/generation-z-looks-a-lot…/