หลังจากที่สหราชอาณาจักรมียอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งสูงทำลายสถิติติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และไวรัสโอไมครอนกำลังลามไปทั่วยุโรป ล่าสุดมหาวิทยาลัย Imperial College London ได้เผยผลวิจัยพบว่าเป็นไปได้ที่โอไมครอนจะมีโอกาสทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำสูงกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง 5.4 เท่า และอาจไม่รุนแรงน้อยกว่าเลย
.
“ยังไม่เห็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าโอไมครอนจะรุนแรงน้อยกว่าเดลตา” งานวิจัยดังกล่าวชี้ถึงลักษณะอาการและความรุนแรงของโอไมครอน และประเมินว่าผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัส COVID-19 แล้ว อาจมีภูมิคุ้มกันสำหรับการติดเชื้อโอไมครอนเพียง 19% ทั้งนี้ ทีมวิจัยระบุว่าวิจัยชิ้นนี้ยังไม่ผ่านการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ
.
“ผลการวิจัยนี้เป็นหลักฐานที่ชี้เพิ่มเติมว่าโอไมครอนสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันทั้งจากวัคซีนและการติดเชื้อมาแล้วได้” หัวหน้าทีมวิจัย Neil Ferguson ระบุในแถลงข่าว ก่อนย้ำว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่โอไมครอนจะเป็นปัญหาใหญ่ของระบบสาธารณสุข
.
อย่างไรก็ตาม นพ. Clive Dix อดีตประธานคณะทำงานวัคซีนสหราชอาณาจักรชี้ว่า ยังไม่ควรตีความข้อมูลชุดนี้เกินเลยไป เพราะข้อมูลที่มีเกี่ยวกับโอไมครอนยังไม่เพียงพอ “ข้อสรุปนี้ เกิดขึ้นบนสมมุติฐานที่เรายังมีข้อมูลของโอไมครอนไม่เพียงพอ” นพ. Dix กล่าว
.
เขากล่าวว่าขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูงมากในข้อมูลเกี่ยวกับโอไมครอน เพราะในแอฟริกาใต้มีการรายงานว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันอาการป่วยหนัก “มันยังมีความไม่แน่นอนสูงมากเกี่ยวกับโมเดลคาดการณ์นี้” เขาเสริมว่าในเร็วๆ นี้จะมีข้อมูลระดับ Real World ของจำนวนผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินและผู้ที่เสียชีวิตออก ซึ่งจะทำให้หลายๆ อย่างชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะประสิทธิภาพของวัคซีน
.
ในวันนี้เช่นกัน มีข้อมูลจากมหาวิทยาลัย Imperial College London ออกมาอีกชุดนึง ซึ่งระบุว่า เป็นไปได้ที่โอไมครอนจะดื้อต่อวัคซีนมากขึ้น แต่ถ้าหากได้รับบูสเตอร์ช็อต หรือวัคซีนเข็มกระตุ้นจะยังคงมีประสิทธิภาพป้องกันป่วยหนักอยู่ที่ 80 – 85.9% ทั้งนี้ ก็ลดลงจากสายพันธุ์เดลตาที่ 97% เช่นเดียวกัน
อ้างอิง:
https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/omicron-five-times-more-likely-reinfect-than-delta-study-says-2021-12-17/
https://www.bbc.com/news/health-59696499